ใส่ กำไลข้อเท้า หรือกระพรวนกรุ๊งกริ๊งรับขวัญลูก เชื่อว่าทำให้ลูกแข็งแรง มีโชคลาภวาสนาจริงหรือ?

ใส่กำไลข้อเท้า กำไรข้อเท้าเด็ก หรือกระพรวนเสียงดังกรุ๊งกริ๊งให้กับเด็กตัวน้อยนั้น ในสมัยก่อนมีความเชื่อว่า ให้เด็กใส่นั้นจะเสริมวาสนา มีโชคลาภ นำพาสิ่งที่ดีดีเข้าตัวเด็กและครอบครัว แต่ประโยชน์ของการให้เจ้าตัวน้อยได้ใส่กำไลจริง ๆ กำไลเด็ก คือการบอกว่า ลูกหลับอยู่หรือตื่นขึ้น เพราะช่วยทำให้พ่อแม่ได้ยินเสียงกรุ๊งกริ๊งเวลาที่ลูกขยับ หรือรู้ว่าอยู่ที่ตำแหน่งไหน เมื่อเจ้าตัวน้อยเริ่มคลานซุกซน

กําไลข้อเท้าเงิน

การ ใส่กำไลข้อเท้า ให้ลูกน้อยนั้น สิ่งที่ควรระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งคือ ขนาดของกำไล ข้อเท้าเด็ก เนื่องจากเด็กเล็กนั้นมีการเปลี่ยนแปลงขนาดร่างกายค่อนข้างเร็ว จึงควรหมั่นสังเกตไม่ให้กำไลที่ใส่ไว้บีบรัดข้อมือ ข้อเท้า รวมถึงขอบรอยต่อข้อพับ ที่สามารถทำให้เกิดอันตราย สร้างบาดแผล หรือการระคายเคืองผิวบอบบางของลูกน้อยได้ กำไลที่นำมาใส่ให้เจ้าตัวน้อยแล้วก็ควรหลีกเลี่ยงการใช้วัสดุมีค่า เช่น ทองคำ ซึ่งจะเป็นของล่อตาล่อใจและทำให้ลูกเสี่ยงต่ออันตรายที่อาจเกิดจากบุคคลอื่นได้นะคะ

ในบางครอบครัวนั้นมีความเชื่อว่าการได้ใส่กำไลข้อเท้านั้น ลูกไม่เคยร้องไห้ตอนตื่นอีกเลยเพราะได้ยินเสียงกระพรวนที่ติดอยู่กับข้อเท้า เสียงกรุ๊งกริ๊งจะทำให้ลูกตื่นมานอนเล่นกับข้อมือข้อเท้าเป็นเวลานานและลูกไม่ค่อยร้องไห้ การใส่ข้อมือข้อเท้าให้ลูกจึงขึ้นอยู่กับความพอใจของพ่อแม่ที่มีให้ต่อลูกน้อย และเป็นความเชื่อที่ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละบุคคลนะคะ เพราะความเชื่อเป็นเรื่องที่บอกต่อกันมาตั้งแต่สมัยโบราณนานนม

นอกจากความเชื่อเรื่องการใส่กำไลข้อมือข้อเท้าให้กับลูกน้อยแล้ว ข้อเท้าเด็ก ยังมีความเชื่ออื่น ๆ เกี่ยวกับทารกอีก เช่น

• ห้ามตัดเล็บทารกจนกว่าอายุครบ1 เดือน เพราะจะทำให้เด็กป่วยง่าย ความจริงคือ การตัดเล็บเด็กนั้นสามารถตัดได้ตั้งแต่แรกเกิด โดยเลือกใช้กรรไกรตัดเล็กสำหรับเด็กเล็กโดยเฉพาะ ความเชื่อที่ห้ามไม่ให้ตัดเล็บก่อน เป็นเพราะในสมัยก่อนไม่มีอุปกรณ์ตัดเล็บ จึงเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ในช่วงที่ทารกมีผิวเนื้อที่บอบบาง

• ให้โกนผมไฟเมื่อลูกน้อยอายุครบ 1 เดือน เพราะตามความเชื่อของคนโบราณว่ากันว่า ผมทารกที่ติดกับครรภ์มารดามาหลังคลอดนั้นไม่ค่อยสะอาด จึงต้องทำการโกนผมเพื่อให้มีผมใหม่เกิดขึ้น ในทางการแพทย์ถือว่าดีเพราะการโกนผมออกไปครั้งหนึ่งสิ่งสกปรกที่ติดตามศีรษะของทารกก็จะออกไปด้วย และการโกนผมเกิดขึ้นหลังทารกอายุครบ 1 เดือนเพราะทารกที่เพิ่งคลอดยังไม่แข็งแรง รวมถึงกะโหลกศีรษะทารกยังบอบบางจึงรอให้ครบเดือนก่อนนั่นเอง

• ใช้ดอกอัญชันชุบน้ำทาผม ทาคิ้วจะทำให้ลูกมีผมดกดำ ขึ้นยาว ความเชื่อนี้ไม่เป็นอันตรายต่อลูกนะคะ เพราะในดอกอัญชันจะมีสารแอนโธไซยานิน ที่มีส่วนช่วยบำรุงเส้นขนให้แข็งแรงดกดำอยู่ในผักและผลไม้ตามธรรมชาติ แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ควรสังเกตด้วยว่า เมื่อทาแล้วผิวของลูกน้อย มีการระคายเคืองหรือไม่ ถ้าใช้แล้วไม่มีรอยแดงหรือผื่นขึ้น ก็สามารถทาอัญชันให้คิ้วลูก หรือทาผมได้ค่ะ

• บีบดั้ง-ดึงจมูก ทำให้ลูกดั้งโด่ง ความจริงแล้วการบีบดั้งทารกนั้นไม่มีผลต่อการกระตุ้นดั้งเพื่อให้โด่งขึ้น เพราะการที่ลูกมีจมูกโด่งหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับพันธุกรรมของพ่อแม่ ลักษณะการเจริญเติบโตของกระดูก เป็นไปตามยีนส์ที่กำหนดมาแต่เดิมอยู่แล้ว แต่การบีบดั้งของทารกที่บอบบาง โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นกระดูกอ่อนและปลายจมูก อาจทำให้จมูกลูกเกิดการอักเสบและบวมขึ้นมาได้

• การดัดขาลูก หลังอาบน้ำจะทำให้ขาลูกตรงสวย ไม่โก่ง ความเชื่อที่ว่านี้จริง ๆ แล้วตามหลักการแพทย์ถือว่าเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง และไม่ควรทำ เพราะขาของลูกน้อยยังมีพัฒนาการไม่เต็มที่ การดัดขาลูกหากทำผิดวิธีอาจทำให้ลูกเจ็บขาหรือขาผิดรูปได้นะคะ

• ใช้ฉี่กวาดปาก จะทำให้ลิ้นไม่เป็นฝ้าขาว โบราณว่าใช้ผ้าอ้อมที่เปียกฉี่ของลูกนำมากวาดเข้าไปในปากเด็กเพื่อทำความสะอาดเช็ดฝ้าขาวที่ติดลิ้น แต่ในความจริงฝ้าขาวที่ติดลิ้นเกิดจากการกินนมซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ แต่การใช้ผ้าเช็ดฉี่ซึ่งเป็นของเสียที่ออกมาจากร่างกายอาจทำให้ลูกเป็นแผลในปาก และเกิดอาการติดเชื้อได้ หากลูกมีฝ้าขาวที่ลิ้นให้ใช่ผ้าต้มสุกที่ทิ้งไว้อุ่น ๆ นำมาเช็ดทำความสะอาดที่ลิ้นลูกดีกว่าค่ะ

ความเชื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับทารกนั้น คุณแม่ควรพิจารณาถึงความปลอดภัยของลูกสูงสุดนะคะ หากไม่แน่ใจในผลลัพธ์แล้วก็ไม่ควรทำเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อลูกน้อยเด็ดขาดนะคะ

ข้อมูลอ้างอิงจาก :

www.horoscope.thaiza.com

www.baabin.com

บทความเกี่ยวข้องที่น่าสนใจ :

ความจริง vs ความเชื่อ ของทารกที่คนเฒ่าคนแก่มักพูดถึง

6 ความเชื่อที่โบราณว่าไว้เกี่ยวกับทารกแรกเกิด