จากการสำรวจ พฤติกรรมช้อปปิ้งออนไลน์ของคุณแม่ชาวไทย กว่า 1,500 คน ผ่านแอปพลิเคชัน theAsianparent พบว่า คุณแม่ชาวไทยมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดอีคอมเมิร์ซของประเทศอย่างมาก โดยมีพฤติกรรมการช้อปปิ้งที่น่าสนใจ ดังนี้
สารบัญ
อัตราการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ และ พฤติกรรมช้อปปิ้งออนไลน์ของคุณแม่ชาวไทย
ปัจจุบัน ตลาดอีคอมเมิร์ซของไทยมีมูลค่าสูงถึง 700,000 ล้านบาท และยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคุณแม่ชาวไทยเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีสัดส่วนการใช้แอปพลิเคชันช้อปปิ้งสูงถึง 66% สะท้อนให้เห็นว่า คุณแม่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการในครัวเรือน
แอปพลิเคชันช้อปปิ้งยอดนิยมของแม่ชาวไทย
- 46% ช้อปออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Shopee
- 39% ช้อปออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Tiktok
- 12% ช้อปออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Lazada
- 2% ช้อปออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Facebook
- 1% ช้อปออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันอื่นๆ
จากผลสำรวจจากคุณแม่จำนวน 1,419 คนพบว่า แอปพลิเคชันที่คุณแม่ชาวไทยนิยมใช้ในการช้อปปิ้งออนไลน์มากที่สุด ได้แก่ Shopee (46%) ตามมาด้วย TikTok (39%) และ Lazada (12%) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายของแพลตฟอร์มที่คุณแม่ใช้ในการค้นหาและเลือกซื้อสินค้า นอกจากนี้ การที่ TikTok มีสัดส่วนผู้ใช้งานสูงถึง 39% แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของโซเชียลมีเดียในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคกลุ่มนี้
ความถี่ในการช้อปปิ้งออนไลน์ของแม่ชาวไทย
- 38% มากกว่า 1 ครั้งต่อสัปดาห์
- 31% เดือนละ 1-2 ครั้ง
- 13% สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
- 11% นานกว่า 2 เดือนครั้ง
- 4% 2 เดือนครั้ง
- 3% ไม่เคยซื้อของออนไลน์
จากผลสำรวจจากคุณแม่จำนวน 1,780 คน พฤติกรรมช้อปปิ้งออนไลน์ของคุณแม่ชาวไทย ค่อนข้างสม่ำเสมอ โดยมีถึง 38% ที่ช้อปปิ้งออนไลน์มากกว่า 1 ครั้งต่อสัปดาห์ และอีก 31% ช้อปปิ้งเดือนละ 1-2 ครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การช้อปปิ้งออนไลน์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของแม่ชาวไทยไปแล้ว
ช่วงเวลาแห่งการช้อปปิ้งบน TikTok
- 41% คุณแม่เข้าใช้งาน TikTok ในช่วง 12:00-18:00 น.
- 34% คุณแม่เข้าใช้งาน TikTok ในช่วง 18:00-00.00 น.
- 21% คุณแม่เข้าใช้งาน TikTok ในช่วง 06:00-12:00 น.
- 4% คุณแม่เข้าใช้งาน TikTok ในช่วง00:00-06:00 น.
จากการสำรวจ พบว่าคุณแม่ชาวไทยส่วนใหญ่ (41%) เข้าใช้งาน TikTok ในช่วงเวลา 12:00-18:00 น. ซึ่งตรงกับช่วงเวลาพักกลางวันและหลังเลิกงาน ทำให้มีเวลาว่างในการท่องดูคอนเทนต์และไลฟ์สตรีมต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีอีก 34% ที่เข้าใช้งานในช่วง 18:00-00:00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สมาชิกในครอบครัวมักจะอยู่พร้อมหน้ากัน ทำให้การตัดสินใจซื้อสินค้าอาจได้รับอิทธิพลจากสมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัวด้วย
การวิเคราะห์:
- ช่วงเวลาพักเบรก: ช่วงเวลา 12:00-18:00 น. เป็นช่วงเวลาที่คุณแม่หลายคนใช้ในการพักผ่อนระหว่างวัน การเข้าใช้งาน TikTok ในช่วงเวลานี้จึงเป็นการผ่อนคลายและหาความบันเทิงไปพร้อมๆ กัน
- ช่วงเวลาครอบครัว: ช่วงเวลา 18:00-00:00 น. เป็นช่วงเวลาที่สมาชิกในครอบครัวมักจะอยู่พร้อมหน้ากัน การที่คุณแม่เข้าใช้งาน TikTok ในช่วงเวลานี้ อาจเป็นการหาสินค้าหรือบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของทั้งครอบครัว
- ช่วงเช้า: แม้ว่าสัดส่วนจะน้อยที่สุด แต่ก็มีคุณแม่บางส่วนที่เข้าใช้งาน TikTok ในช่วงเช้า (06:00-12:00 น.) อาจเป็นช่วงเวลาที่เตรียมตัวไปทำงานหรือทำธุระต่างๆ
ประสบการณ์การซื้อสินค้าจากไลฟ์บน TikTok
- 82% เคย
- 18% ไม่เคย
ผลสำรวจพบว่าถึง 82% ของคุณแม่ชาวไทยเคยซื้อสินค้าจากไลฟ์บน TikTok ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความนิยมและความน่าเชื่อถือของการขายสินค้าผ่านช่องทางนี้
ปัจจัยที่ดึงดูด การซื้อสินค้าจากไลฟ์บน TikTok น่าจะดึงดูดคุณแม่ชาวไทยด้วยปัจจัยหลายประการ เช่น ไลฟ์สตรีมมิ่งมอบประสบการณ์ที่สนุกสนานและมีส่วนร่วม โดยมักมีการจัดโปรโมชั่นและส่วนลดพิเศษในไลฟ์สตรีม รวมถึงการเห็นสินค้าจริงและการรับชมปฏิกิริยาของผู้ซื้อคนอื่นๆ ทำให้เกิดความเชื่อมั่น และการซื้อสินค้าจากไลฟ์บน TikTok อาจส่งผลให้เกิดการตัดสินใจซื้อที่เกิดขึ้นทันที เนื่องจากความตื่นเต้นและความอยากได้สินค้าในขณะนั้น
แนวโน้มในอนาคต ด้านพฤติกรรมคุณแม่
คุณแม่ชาวไทยมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดอีคอมเมิร์ซของไทย และมีพฤติกรรมการช้อปปิ้งออนไลน์ที่หลากหลายและน่าสนใจ โดยมีแนวโน้มที่สำคัญดังนี้
- ความหลากหลายของแพลตฟอร์ม คุณแม่ชาวไทยนิยมใช้แอปพลิเคชันช้อปปิ้งที่หลากหลาย ไม่จำกัดอยู่เพียงแค่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซทั่วไป แต่ยังรวมถึงโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok ด้วย
- ความถี่ในการช้อปปิ้ง คุณแม่ชาวไทยมีแนวโน้มที่จะช้อปปิ้งออนไลน์บ่อยขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงความสะดวกสบายและประโยชน์ที่ได้รับจากการช้อปปิ้งออนไลน์
- อิทธิพลของโซเชียลมีเดีย โซเชียลมีเดียมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการตัดสินใจซื้อของแม่ชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง TikTok ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้บริโภค
- การค้นหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อ คุณแม่ชาวไทยมักจะทำการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการข้อมูลที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือ
แนวโน้มในอนาคต ด้านการตลาดแม่และเด็ก
- การเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซ ตลาดอีคอมเมิร์ซของไทยยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มสินค้าสำหรับแม่และเด็ก
- การแข่งขันที่สูงขึ้น การแข่งขันในตลาดอีคอมเมิร์ซจะรุนแรงมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น
- ความสำคัญของประสบการณ์ผู้ใช้งาน ประสบการณ์ผู้ใช้งานที่ดีจะเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกใช้แพลตฟอร์มช้อปปิ้งของผู้บริโภค
- การปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ ผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น AI และ Big Data เพื่อนำมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ตรงกับความต้องการ
ข้อเสนอแนะสำหรับธุรกิจ
เพื่อให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของคุณแม่ชาวไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรให้ความสำคัญกับปัจจัยดังต่อไปนี้
- สร้างความน่าเชื่อถือ เน้นย้ำถึงคุณภาพของสินค้าและบริการ รวมถึงการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและโปร่งใส
- สร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดี ออกแบบเว็บไซต์และแอปพลิเคชันให้ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว และมีการจัดหมวดหมู่สินค้าที่ชัดเจน
- ใช้โซเชียลมีเดีย สร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ
- จัดโปรโมชั่นและส่วนลด จัดโปรโมชั่นและส่วนลดที่น่าสนใจเพื่อดึงดูดลูกค้า
- ให้บริการลูกค้าที่ดี ให้บริการลูกค้าอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า
พฤติกรรมช้อปปิ้งออนไลน์ของคุณแม่ชาวไทย ในปี 2567 สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มนี้ในการขับเคลื่อนตลาดอีคอมเมิร์ซของประเทศ โดยมีแนวโน้มที่น่าสนใจหลายประการ ผู้ประกอบการที่ต้องการประสบความสำเร็จในตลาดนี้ ควรให้ความสำคัญกับการเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคกลุ่มนี้ และปรับตัวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด
เรายังมี Insights ที่น่าสนใจอีกมากมาย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ salesth@tickledmedia.com
ผลสำรวจที่น่าสนใจอื่นๆ
5 เหตุผลหลักที่คุณแม่ไทยนิยมผ่าคลอด : ผลสำรวจจาก theAsianparent insights