แถลงการณ์เดือด สารสาสน์ราชพฤกษ์ ครูทั้งห้อง ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ทนายรณณรงค์ชี้ ห้องเรียนครูจุ๋มแห่งสารสาสน์ราชพฤกษ์ ไม่มีใครมีใบประกอบวิชาชีพครู เป็นครูจบปริญญาตรี 1 คน ครูต่างชาติ 1 คน มาด้วยวีซ่าท่องเที่ยว แต่ผู้ปกครองจ่ายค่าเทอมปีละนับแสนบาท

จากกรณีมหากาพย์ ครูจุ๋ม แห่งโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ที่ลงโทษและทำร้ายนักเรียน ซึ่งครูจุ๋มยอมรับว่าที่ทำเพราะมีความเครียดจากปัญหาที่บ้าน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้นำมาสู่การสืบสวนสอบสวนว่า ครูอนุบาลห้องอื่น ๆ มีพฤติกรรมแบบครูจุ๋มหรือไม่ และนำไปสู่การแถลงของเหล่าผู้บริหารโรงเรียน

อย่างไรก็ตาม บางช่วงบางตอนของการแถลงนั้น ได้มีผู้ปกครองสอบถามว่า ครูในห้องเรียนนั้นมีใครมีใบประกอบวิชาชีพครูหรือไม่ ซึ่งทางโรงเรียนชี้แจงว่า ก่อนหน้านั้นมีครูประจำชั้นคนเก่าอยู่แล้ว และครูคนเก่าได้ลาออกไป แต่พอมีครูคนใหม่เข้ามา ก็พบว่าครูคนใหม่ยังไม่มีใบประกอบวิชาชีพ แม้จะเรียนจบด้านการศึกษาประถมวัย แต่ทางโรงเรียนก็ได้ผ่อนผันให้แล้ว หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้ก็ได้ให้ครูทั้งหมดออกแล้ว

เรื่องนี้สอดคล้องกับที่ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ได้ออกมาเผยว่า ในห้องเรียนนั้นมีครูทั้งหมด 4 คน ครูประจำชั้นจบปริญญาตรี ครูต่างชาติ 1 คน มาด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว และครูที่จบชั้น ม.6 อีก 2 คน แต่เก็บค่าเทอมผู้ปกครองปีละแสน พร้อมกับตั้งคำถามว่า ครูเหล่านี้ถูกจ้างมาด้วยเงินเดือนเท่าไร โรงเรียนพยายามลดต้นทุนเพื่อจ้างครูหรือไม่

สามารถดูคลิป VDO ได้ที่แฟนเพจ ทนายคู่ใจ 

เรื่องราวของ ครูห้องเด็กอนุบาล โรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ทำร้ายลูกศิษย์ ทั้งจิกผม ผลักจนล้ม จนเด็กหวาดผวา และแสดงอาการไม่อยากไปโรงเรียนให้ผู้ปกครองได้เห็น ขณะที่ครูที่อยู่ในห้องอีก 2-3 คนไม่มีใครเข้าไปห้ามปรามแต่อย่างใด ล่าสุดมีอีกคลิปที่ปรากฎในโซเชียลซึ่งเป็นเหตุการณ์ในชั้นเรียนอนุบาลเช่นเดียวกัน โดยพบว่า ขณะที่เด็กกำลังนั่งอยู่เต็มห้อง ครูจุ๋ม ได้เดินเอายาดมไปป้ายที่ตาของเด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งในคลิปยังพบว่า เด็กชายได้เดินไปหาครูอีกคนที่มุมห้อง พร้อมเอามือป้ายที่ตาแต่ครูไม่สนใจ พร้อมโบกมือไล่ให้เด็กเดินไป

โดยคลิประบุว่า คลิปนี้น้องคนนึง ไม่ได้ทำอะไรเลย เช่อร์จุ๋มนางเปิดฝายาดม เอาน้ำยาดมป้ายที่ตาน้อง น้องแสบตา หาคนพาไปล้าง แต่ไม่มีใครพาไป

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 26 ก.ย.เพจเฟซบุ๊กของ “คุณแม่พิงค์” ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณแม่ที่ลูกถูกครูจุ๋มทำร้าย ได้ไลฟ์สดกรณีดังกล่าวว่า เรื่องการทำร้ายเด็กนั้น คุณแม่เองตอนแรกก็ไม่เอะใจ ตอนคุณแม่เห็นรอยเขียวรอยช้ำของลูก โดยเฉพาะน้องรีวิวที่มีรอยเขียวที่หูเหมือนโดนหยิกหู คุณแม่ก็คิดว่าเป็นเพราะลูกเล่นกับเพื่อน ๆ จะมีรอยบ้างก็ไม่เป็นไร

แต่เมื่อได้คุยกับกลุ่มผู้ปกครอง ทำให้ทราบว่า เด็กคนอื่น ๆ ก็มีปัญหาเหมือนกัน มีรอยช้ำตามตัว ไม่ยอมกินข้าวที่โรงเรียน แต่จะมากินข้าวที่บ้าน โดยเรื่องนี้เป็นที่ผิดสังเกต จนมีผู้ปกครองท่านหนึ่ง วางแผนลับ ๆ ที่จะจับผิดครูจุ๋ม จึงได้นำเอาน้ำยันฮี ซึ่งเป็นน้ำใสแต่มีกลิ่นและรสเฉพาะ กรอกใส่ขวดน้ำให้ลูกไปโรงเรียน กระทั่งเลิกเรียน ผู้ปกครองสังเกตว่า น้ำลดไปแค่นิดเดียวเท่านั้น จึงถามคุณครูว่าลูกไม่กินน้ำเหรอ และคุณครูตอบว่า น้องกินน้ำจนหมด และครูก็กรอกน้ำให้น้องใหม่ ผู้ปกครองจึงเปิดน้ำในขวดนั้นมาดื่ม ถึงได้รู้ว่า น้ำในขวดยังเป็นน้ำยันฮีเหมือนเดิม และนำไปสู่การสืบเสาะจนรู้ว่า ครูจุ๋มให้เด็กอดข้าวอดน้ำ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่ร้านแม็คโดนัลราชพฤกษ์ ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ พร้อมด้วยทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พ่อ-แม่ ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่ถูกครูจุ๋มทำร้ายร่างกาย ร่วมกันประชุมหารือถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยใช้เวลาการประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้น

นางกนกวรรณ เปิดเผยว่า ในฐานะตัวแทนรัฐบาล ขอแสดงความห่วงใยไปยังพ่อแม่เด็กทุกคน ในวันพรุ่งนี้ (28 ก.ย.) เวลา 09.00 น. จะเชิญทุกฝ่ายทั้งโรงเรียน พ่อแม่เด็ก เพื่อมาพูดคุยยุติเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ตนจะเข้าไปดูแลเต็มที่ด้วยการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบโดยเร็ว เพื่อดูว่าทางโรงเรียนมีกระบวนการรับครูเข้าทำงานอย่างไร ที่ผ่านมาทางโรงเรียนไม่เคยมีการประชุมผู้ปกครองจึงต้องดำเนินการให้ดีกว่านี้ ส่วนเรื่องอาหารนั้น ผู้ปกครองแจ้งว่า อาหารไม่เป็นตามที่แจ้งและไม่ถูกสุขลักษณะ ก็จะต้องไปตรวจสอบ เบื้องต้นจะประสานนักจิตวิทยามาดูแลเด็ก และต้องให้มีนักจิตวิทยามาประจำที่โรงเรียน ทั้งนี้หากครูในโรงเรียนมีใบประกอบวิชาชีพครูแล้วทำผิด ก็ต้องมีการเพิกถอนใบอนุญาต ซึ่งหากเพิกถอนแล้วไม่สามารถกลับมาสอนได้อีก ส่วนผู้ปกครองบางรายไม่อยากให้ลูกเรียนที่นี่แล้ว และขอย้ายสถานที่เรียนใหม่นั้น จะอำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง ส่วนครูต่างชาติในโรงเรียน จะต้องส่งมาเรื่องมาแจ้งที่กระทรวงศึกษาด้วย ซึ่งหลังจากนี้จะต้องตรวจสอบว่าได้แจ้งมาหรือไม่

นางกนกวรรณ กล่าวต่อว่า หากพบว่าโรงเรียนไม่ให้ความร่วมมือ ก็มีมาตรการตั้งแต่ไม่ให้เงินอุดหนุน หรือสั่งให้หยุดรับนักเรียน แม้กระทั่งสั่งปิดสถานศึกษาไปเลยก็ได้  แต่ต้องคำนึงถึงนักเรียนที่เรียนอยู่ที่นี่ด้วย ตนเองเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อแม่ดี เพราะตนก็เป็นแม่คนหนึ่งเหมือนกัน ในฐานะเป็นผู้กำกับดูแลสถานศึกษาเอกชน รู้สึกเสียใจ วันนี้ก็ลงพื้นที่มาให้กำลังใจด้วยตนเอง  ยืนยันมีคณะทำงานดูแลกำกับในเรื่องนี้อยู่แล้ว.

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ขอบคุณข่าวจาก : www.dailynews.co.th, www.matichon.co.th, hilight.kapook.com
ภาพจาก : www.matichon.co.th

 

The Asianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งาน เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว 

การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง

เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :

เก้าอี้กินข้าวเด็ก ที่ต้องมี เราตัดเลือก 7 เก้าอี้เด็กกินข้าวรวมมาไว้ให้ที่นี่แล้ว

อัพเดท ข่าวน้องชมพู่หายล่าสุด พบร่างเปลือยเปล่าไร้วิญญาณแล้วกลางป่า

ลูกกินแต่นม ไม่ยอมกินข้าว ลูกทารกวัยอาหารเสริม กินแต่นม ไม่ยอมกินข้าว ทำอย่างไรดี

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

nichnipa