ดูเหมือนว่าเด็กและวัยรุ่นสมัยนี้ จะมีความก้าวร้าวมากขึ้น และไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ หน้าที่ของพ่อแม่และผู้ปกครองก็คือ การปลูกฝังให้พวกเขารู้จัก "กตัญญูรู้คุณคน" โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณของบิดามารดาและครูบาอาจารย์
ความกตัญญูไม่จำเป็นต้องมอบของขวัญราคาแพง เพียงแค่แสดงออกช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น งานบ้าน หรือตอบแทนด้วยการเคารพ เชื่อฟัง และการนับถือ ก็เรียกได้ว่า มีความกตัญญูแล้ว และปัญหาที่พบในปัจจุบันของเด็กสมัยนี้ก็คือ
- นึกถึงพระคุณของบิดามารดาไม่ออก
- ไม่รู้ว่าจะตอบแทนพระคุณหรือแสดงความกตัญญูได้อย่างไร
และใครเล่าจะเป็นผู้ชี้ทางลูกหลานได้ดีที่สุดเท่ากับพ่อแม่และผู้ปกครองเอง ซึ่งวิธีการสอนก็ไม่ยากอะไรค่ะ ยกตัวอย่างเช่น
- สอนตั้งแต่พวกเขายังเล็ก พ่อแม่สามารถสอนให้ลูกรู้จักกตัญญูได้ โดยเริ่มตั้งแต่พวกเขายังเล็ก ด้วยการสอนให้รู้จักพระคุณของบิดามารดา ให้พวกเขาได้รู้ว่า กว่าที่พวกเขาจะโตและมีชิวิตได้จนถึงทุกวันนี้นั้น แม่ของเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง
- เป็นแบบอย่างที่ดี เด็ก ๆ ทุกคน มีพ่อแม่เป็นต้นแบบ ดังนั้น การจะสอนให้ลูกหลานรู้จักความกตัญญูนั้น พวกเราทุกคนจะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้พวกเขาเห็นก่อน ด้วยตัวอย่างง่าย ๆ เช่น การพาลูกหลานไปไหว้ตายาย สอนให้ลูกรู้จักเรียกตายายก่อนทานข้าว คอยจูงมือดูแลตายายเวลาเดินไปไหน เป็นต้น
- รู้จักชมเชย ทุกครั้งที่ลูกทำ อย่าลืมชมเชยในสิ่งที่พวกเขาทำกันด้วยนะคะว่า เป็นสิ่งที่ถูกต้องและน่ายกย่องมาก ให้เขารู้สึกภูมิใจและอยากที่จะแสดงออกถึงความกตัญญูนั้นอีก
- สอนลูกผ่านวัฒนธรรมต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น วันสงกรานต์ เป็นต้น สอนให้ลูกรู้ว่า วันสงกรานต์ไม่ได้เป็นเพียงแต่วันที่พวกเราเล่นน้ำกันเท่านั้น แต่มีไว้เพื่อให้พวกเราทุกคนไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ ไปรดน้ำดำหัวเพื่อขอพรและให้พรพวกท่าน
- สอนให้ลูกรู้จักกตัญญูธรรมชาติ เช่น น้ำ ให้ลูก ๆ รู้จักคุณประโยชน์ของน้ำ ที่พวกเขาสามารถแสดงออกถึงความกตัญญูได้ด้วยการไม่ทิ้งสิ่งสกปรกต่าง ๆ ลงไปในแม่น้ำลำธาร และรู้จักถึงวิธีการประหยัดน้ำ เป็นต้น
ลูกหลานจะรู้จักกตัญญูรู้คุณหรือไม่นั้น หลัก ๆ แล้วก็อยู่ที่พวกเราทุกคนช่วยอบรมสั่งสอนให้พวกเขาเข้าใจ ในเด็กเล็กแน่นอนว่า พวกเขาอาจจะยังไม่เข้าใจว่า ทำไมพวกเขาจะต้องทำอะไรมากมายขนาดนี้ แต่หากพวกเขาได้รู้และได้เห็นในสิ่งที่พวกเราทำเป็นตัวอย่างบ่อย ๆ วันนึงเราอาจที่จะไม่ต้องอธิบายอะไรมากมาย และอาจจะตกใจว่า ทำไมพวกเขาถึงทำได้เอง โดยที่พวกเราไม่จำเป็นต้องสอนอะไรเลย
อ้างอิง: กัลยาณมิตร
รูปภาพ: Huffington Post