เที่ยวยังไงให้ได้ความรู้ พาลูกเที่ยวเสริมทักษะ ไปกับ 5 พิพิธภัณฑ์ในโคราช

วันนี้เรามีแหล่ง พาลูกเที่ยวเสริมทักษะ มาแนะนำกัน ไม่ไกลกรุงเทพฯ อยู่แค่โคราชนี่เอง ไปดูกันว่าวันนี้เราจะ พาลูกเที่ยวเสริมทักษะ ที่ไหนกันบ้างตามมาเลย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

จะ พาลูกเที่ยวเสริมทักษะ ทั้งทีแต่ไม่อยากเดินทางไปไกลๆ แน่นอน วันนี้เรามีแหล่ง พาลูกเที่ยวเสริมทักษะ มาแนะนำกัน ไม่ไกลกรุงเทพฯ อยู่แค่โคราชนี่เอง ไปดูกันว่าวันนี้เราจะ พาลูกเที่ยวเสริมทักษะ ที่ไหนกันบ้างตามมาเลย

 

1. พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน ซากดึกดำบรรพ์และไดโนเสาร์

พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน ซากดึกดำบรรพ์และไดโนเสาร์

พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน มีโครงการก่อสร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2537 และสามารถจัดแสดงนิทรรศการได้ใน พ.ศ. 2545 แต่เนื่องจากไม้กลายเป็นหินพบได้ในเกือบทุกจังหวัดของภาคอีสาน จึงไม่สามารถนำไม้กลายเป็นหินทั้งหมดและจำนวนมากมาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ได้ ส่วนใหญ่จึงจัดแสดงไว้ในงานภูมิทัศน์ของพิพิธภัณฑ์ โดยแยกเป็นโซนพื้นที่ของไม้กลายเป็นหินจังหวัดต่างๆ ขณะที่ในพิพิธภัณฑ์จะเน้นไม้กลายเป็นหินของจังหวัดนครราชสีมา โดยเฉพาะการเน้นลักษณะเด่นพิเศษที่แตกต่างจากจังหวัดอื่นๆ 3 ประการ คือ

1) ไม้กลายเป็นหินอัญมณี

2) ไม้กลายเป็นหินวงศ์ปาล์ม 

3) ไม้กลายเป็นหินหลากหลายอายุ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

นิทรรศการไม้กลายเป็นหินโคราช – ขอนแก่น 

เพื่อแสดงแหล่งไม้กลายเป็นหินสำคัญของภาคอีสาน  คือ  จังหวัดนครราชสีมาและขอนแก่น  ซึ่งมีความโดดเด่นด้านขนาดที่ใหญ่หรือมีสีสันที่สวยงาม

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ห้องเฉลิมพระเกียรติ  :  สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยกับการอนุรักษ์ไม้กลายเป็นหิน  

เพื่อแสดงภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและข้อความพระราชดำรัสที่เกี่ยวกับความสำคัญของ “โบราณวัตถุ”    ภาพของอนุสรณ์สถานไม้กลายเป็นหิน ร.6  รวมทั้งภาพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ที่ทรงสนพระทัยในนิทรรศการและติดตามโครงการอนุรักษ์ไม้กลายเป็นหินของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาและจังหวัดนครราชสีมา  ตั้งแต่ พ.ศ. 2540

 

ห้องฉายวีดิโอแอนิเมชั่น  :  กำเนิดโลก 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

วิวัฒนาการสิ่งมีชีวิตและประวัติพิพิธภัณฑ์  เป็นห้องฉายขนาด 30 ที่นั่ง  พื้นไหวสะเทือนได้  สัมพันธ์กับเนื้อหาบนจอภาพที่มีอยู่ 3 จอ

 

ห้องฉายวีดิโอแอนิเมชั่น  :  กำเนิดไม้กลายเป็นหินโกรกเดือนห้า 

เป็นห้องฉายที่จำลองบรรยากาศป่าดงดิบและลำน้ำที่ไหลมาจากแดนไกล  ภาพม่านน้ำตกซึ่งเป็นจอภาพด้วย  ฉายให้เห็นถึงกำเนิดไม้กลายเป็นหินในบริเวณบ้านโกรกเดือนห้า

 

ห้องนิทรรศการไม้กลายเป็นหินอัญมณี

แสดงไม้กลายเป็นหินอัญมณีขนาดใหญ่  หลากหลายอายุ  และไม้กลายเป็นหินตระกูลปาล์ม   ซึ่งเป็นความโดดเด่น 3 อย่างของไม้กลายเป็นหินในจังหวัดนครราชสีมา

 

วันและเวลาทำการ

  • เปิดให้บริการ วันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 09.00 – 15.30 น.

ที่อยู่และเบอร์ติดต่อ

  • 184 หมู่ 7 ถ.มิตรภาพ – หนองปลิง บ้านโกรกเดือนห้า ตำบลสุรนารี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา 30000
  • โทรศัพท์ : 044 – 370739 – 40

การเดินทาง

กรณีที่มาจาก กทม. ถนนเส้นมิตรภาพ ให้กลับรถที่สะพานกลับรถโคกกรวด กม. 133  เลี้ยวซ้าย ตรงทางเข้าตลาดไม้ดอกไม้ประดับ จะมีป้ายบอกทางและไปอีก 11.5 กม. ก็จะถึงพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน   จุดสังเกต อยู่ติดกับสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 5

กรณีมาจากจังหวัดนครราชสีมา  เส้นถนนมิตรภาพ เลี้ยวซ้ายตรงสี่แยกปักธงชัย จะมีป้ายบอกทางไป อีก 12 กม. เลี้ยวขวาเข้า ม.เทคโนโลยีสุรนารี ประตู 2  (ศูนย์ปฏิบัติการทางการแพย์และสาธารณสุข  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี)  ประมาณ 3 กม. ให้เลี้ยวซ้าย มาทางวัดหนองปลิง อีกประมาณ 2 กม. ก็ถึงพิพิธภัณฑ์

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ : อัพเดตใหม่ 2021 รวม 7 พิพิธภัณฑ์ในกรุงเทพ ที่น่าไปเที่ยว

 

2. ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ.ลำตะคอง

ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ.ลำตะคอง

ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ลำตะคอง เป็นโครงการที่ กฟผ. มุ่งทำขึ้นเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพลังงานไฟฟ้า การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานประเภทต่าง ๆ ทั้งจากเชื้อเพลิงฟอสซิล และพลังงานหมุนเวียน รวมถึงนวัตกรรมการผลิตไฟฟ้าที่ทันสมัยด้วยระบบ Wind Hydrogen Hybrid

ภายในศูนย์ฯ แบ่งเป็น 7 โซน ประกอบด้วย

  • โซน 1 : ลานผู้กล้า จุดลงทะเบียนรับ RFID ของเหล่าผู้กล้า เพื่อเตรียมพร้อมผจญภัยในดินแดนพลังงาน และชมการแสดงจาก H-bot
  • โซน 2 : ภารกิจพิชิตดินแดนพลังงาน ชมภาพยนตร์ 7 มิติ และพบกับ “น้องแทน” ตัวแทนเด็กจากชุมชน ลำตะคอง ที่จะพาเหล่าผู้กล้าไปผจญภัยในดินแดนพลังงาน และตามหาพลังงานแห่งอนาคต
  • โซน 3 : ดินแดนพลังงาน น้องสายชล น้องวายุ และน้องตะวัน ชวนผจญภัยในดินแดนพลังงานน้ำ (Water Frontier) พลังงานลม (Wind Frontier) และพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Frontier) พร้อมชมทิวทัศน์แสนงดงามของพื้นที่ลำตะคองที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าบนหอคอยดินแดนแห่งพลังงาน (The Tower of Energy)
  • โซน 4 : ดินแดนพลังงานแห่งอนาคต ร่วมผจญภัยค้นหาพลังงานใหม่แห่งอนาคต กับนวัตกรรมพลังงานสุดล้ำอย่าง “Wind Hydrogen Hybrid” เมื่อพลังงานลมและไฮโดรเจนผนึกกำลังร่วมกันสร้างความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้า
  • โซน 5 : ภารกิจผลิตไฟฟ้าเพื่อความสุขของคนไทย อุโมงค์กาลเวลา พาเหล่าผู้กล้าร่วมผจญภัยกับภารกิจสุดท้าทายของ กฟผ. ในการผลิตไฟฟ้าเพื่อความสุขของคนไทย
  • โซน 6 : ฐานบัญชาการสมดุลพลังงาน ฐานบัญชาการที่เหล่าผู้กล้าจะได้ร่วมภารกิจ “สร้างสมดุลพลังงานไฟฟ้า” โดยสวมบทบาทเป็นผู้ควบคุมและปรับสัดส่วนเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าได้ด้วยตนเอง
  • โซน 7 : ม่วนซื่นลำตะคอง เพลิดเพลินไปในดินแดนแห่งรอยยิ้มและความสุข ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติและความมีชีวิตชีวาของชุมชนลำตะคอง

วันและเวลาทำการ

  • วันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 09:00-16:00 น.
  • หยุดวันจันทร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

ที่อยู่และเบอร์ติดต่อ

  • ศูนย์เรียนรู้ กฟผ.ลำตะคอง เลขที่ 301 หมู่ 6 ตำบลคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา 30340
  • โทรศัพท์ : 044-984-007

ค่าเข้าชม

  • ไม่มีค่าใช้จ่าย

การเดินทาง

เดินทางโดยรถยนต์สามารถ ใช้เส้นทางถนนมิตรภาพผ่านเขื่อนลำตะคอง จากนั้นให้สังเกตุ “เรือนจำคลองไผ่” หรือ “สถานีตำรวจภูธรคลองไผ่” ทางขึ้นศูนย์จะอยู่ตรงข้าม เดินทางขึ้นมาอีกประมาน 2 กิโลเมตร ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ.ลำตะคองจะตั้งอยู่ทางขวามือ

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ : บึงฉวาก เที่ยวสุพรรณบุรี พาลูกชมสัตว์น้ำ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำใกล้กรุงฯ

 

3. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย

พิพิธภัณฑสถานแห่งนี้ เริ่มต้นมาจากการเป็นพิพิธภัณฑสถานกลางแจ้ง ในความดูแลของกองโบราณคดี กรมศิลปากร ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๐๗  โดยหน้าที่ขณะนั้นเพื่อการเก็บรักษา และจัดแสดงโบราณวัตถุที่ได้จากการขุดแต่งบูรณะปราสาทพิมาย ร่วมกับโบราณวัตถุที่ได้จากการ เก็บรวบรวมจากจังหวัดต่างๆ ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ   กระทั่ง พ.ศ.๒๕๑๘ ได้โอนมาอยู่ในความรับผิดชอบของกองพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ   เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง

พ.ศ.๒๕๓๒ กรมศิลปากร  เสนอของบประมาณโครงการน้ำพระทัยจากในหลวง หรือโครงการอีสานเขียว เพื่อดำเนินการปรับปรุงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย ให้ถูกต้องตามหลักพิพิธภัณฑสถานวิทยา  โดยการจัดสร้างอาคารจัดแสดง สำนักงานและห้องประชุม และได้รับงบประมาณต่อเนื่องมาจนกระทั่ง ดำเนินการจัดแสดงนิทรรศการถาวรแล้วเสร็จ  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย อย่างเป็นทางการ เมื่อ วันที่ ๔ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๓๖

ปัจจุบัน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย เป็นแหล่งรวบรวมองค์ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดี โดยเก็บรวบรวมหลักฐานโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับรากฐานและพัฒนาการของวัฒนธรรมอีสานในอดีตที่เจริญรุ่งเรืองในพื้นที่อีสานตอนล่างแถบลุ่มแม่น้ำมูล-แม่น้ำชี ในจังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ และบุรีรัมย์  ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ เมื่อประมาณ ๓,๐๐๐ปี มาแล้วจนถึงสมัยปัจจุบัน

การจัดแสดง  แบ่งออกเป็น  3  ส่วน

  • ส่วนที่ 1 อาคารจัดจัดแสดงชั้นบน  จัดแสดงเรื่องพัฒนาการของสังคมในดินแดนแถบอีสานตอนล่างแสดงถึงรากฐานการกำเนิดวัฒนธรรม  ซึ่งมีมาจากความเชื่อด้านต่างๆ  ตลอดจนวัฒนธรรมจากภายนอกที่เข้ามามีบทบาทตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบัน
  • ส่วนที่ 2 อาคารจัดแสดงชั้นล่าง  จัดแสดงโบราณวัตถุศิลปะเขมรในอีสานตอนล่าง  หลักฐานความเจริญก้าวหน้าต่างๆ  เช่น  ศาสนา  สังคม  เศรษฐกิจ  เป็นต้น
  • ส่วนที่ 3 อาคารจัดแสดงศิลาจำหลัก  จัดแสดงโบราณวัตถุซึ่งเป็นองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมหินทราย  เช่น ทับหลัง  หน้าบัน  บัวยอดปราสาท  เสาประดับกรอบประตู  กลีบขนุน  ปราสาทจำลอง  เป็นต้น

ที่อยู่และเบอร์ติดต่อ

  • หมู่ 2 ถนนท่าสงกรานต์ ตำบลในเมือง อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา 30110
  • โทรศัพท์ : 044-471 167

วันและเวลาทำการ

  • เปิดทุกวัน เวลา 09.00 น. – 16.00 น.  ไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ 

ค่าเข้าชม

  • ชาวไทย คนละ 20 บาท
  • ชาวต่างประเทศ คนละ 100 บาท

การเดินทาง

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย อยู่ห่างจากตัวเมืองนครราชสีมา 60 กิโลเมตร เดินทางโดยใช้ ทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) จากตัวเมืองนครราชสีมาประมาณ 50 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาสามแยกตลาดแค เพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่อำเภอพิมาย ประมาณ 10 กิโลเมตร  ขับมาเรื่อยๆ จะเห็นสะพานท่าสงกรานต์  แล้วข้ามสะพานไปไม่ไกลก็จะพบพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย อยู่ทางด้านซ้ายมือ

 

4. พิพิธภัณฑ์เมืองนครราชสีมา

พิพิธภัณฑ์เมืองนครราชสีมา

พิพิธภัณฑ์เมืองนครราชสีมา ตั้งอยู่ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เป็นแหล่งเรียนรู้ เหมาะกับการ พาลูกเที่ยวเสริมทักษะ ในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ที่มีการบูรณาความรู้อย่างหลากหลาย ทั้งพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรมของจังหวัดนครราชสีมา ควรค่าที่คนโคราชจะได้รับรู้และนำไปสู่การก่อเกิดความภาคภูมิใจในวิถีวัฒนธรรมของบรรพบุรุษของตนที่สั่งสมและถ่ายทอดจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่งซึ่งยังคงปรากฏชัดในปัจจุบัน โดยถูกเรียบเรียงและนำเสนอในรูปแบบนิทรรศการร่วมกับโบราณวัตถุและศิลปวัตถุที่ช่วยพัฒนาทั้งความรู้และคุณค่าทางวัฒนธรรมไปพร้อมๆ กัน รวมถึงเป็นการแนะนำสถานที่สำคัญต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์กับประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรมของจังหวัดนครราชสีมา โดยจัดแบ่งพื้นที่การจัดแสดงออกเป็น 2 ส่วน ด้วยกัน คือ

  1. นิทรรศการพัฒนาการทางประวัติศาสตร์จังหวัดนครราชสีมา เป็นส่วนภายในอาคาร อยู่บริเวณ ชั้น 2 ของอาคาร 10 ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาด้วย มีพื้นที่การจัดแสดง ประมาณ 300 ตารางเมตร ภายในมีการจัดแสดงนิทรรศการที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของจังหวัดนครราชสีมา จัดแสดงร่วมกับโบราณวัตถุและศิลปวัตถุตามหลักประวัติศาสตร์ศิลปะ เริ่มตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ในช่วงยุคหินใหม่ ยุคสำริด และยุคเหล็ก ต่อเนื่องมาสู่การพัฒนาเข้าสู่ยุคประวัติศาสตร์แรกเริ่มในสมัยทวารวดี ต่อเนื่องมาสู่ยุคสมัยแห่งวัฒนธรรมเขมรรุ่งเรือง การก่อตั้งเมืองนครราชสีมาในสมัยอยุธยา และวีรกรรมอันหาญกล้าของท้าวสุรนารี รวมถึงการก้าวเข้าสู่การเป็นเมืองหลักของภาคอีสานในด้านต่างๆ
  2. เรือนโคราช มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ส่วนการแสดงกลางแจ้ง คือ เรือนโคราช มีลักษณะเป็นเรือนไม้ 2 ชั้น ใต้ถุนโล่ง มีลักษณะเด่นเฉพาะที่สะท้อนให้เห็นอัจฉริยภาพและภูมิปัญญาสร้างสรรค์ของช่างท้องถิ่นโคราช ที่มีความริเริ่ม มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับระบบโครงสร้างที่มีเอกลักษณ์สอดคล้องกับสภาพลมฟ้าอากาศเฉพาะถิ่นโคราช ทำหน้าที่เป็นข้อมูลสำคัญทางประวัติศาสตร์ด้านสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นและเป็นแหล่งเรียนรู้ทางภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวโคราชที่จะอธิบายการเป็นอยู่ครอบคลุมทั้งปัจจัย 4 เป็นพื้นที่เปิดกว้างสำหรับนักศึกษาหรือผู้ชมทั่วไปสามารถมาเรียนรู้ หรือพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย รวมทั้งรองรับต่อการจัดกิจกรรมกลางแจ้งได้อย่างหลากหลาย โดยเฉพาะกิจกรรมทางวัฒนธรรมสำคัญของมหาวิทยาลัย อาทิ ประเพณีสงกรานต์ การบายศรีสู่ขวัญ กิจกรรมทางศาสนา การเสวนาทางวิชาการด้านศิลปวัฒนธรรม ฯลฯ

ที่อยู่และเบอร์ติดต่อ

  • ชั้น 2 อาคาร 10 สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา 340 ถ.สุรนารายณ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา 30000
  • โทรศัพท์ : 044-009-009 ต่อ 101

วันและเวลาทำการ

  • เปิดทุกวัน เวลา 09.00-15.00 น. (ปิดให้บริการตามวันหยุดประกาศของมหาวิทยาลัย)

ค่าเข้าชม

  • ไม่เก็บค่าเข้าชม (เข้าชมเป็นหมู่คณะตั้งแต่ 20 ท่านขึ้นไป กรุณาแจ้งล่วงหน้า)

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ : วันหยุดนี้ พาครอบครัวสำรวจพิพิธภัณฑ์งู ที่ Siam Serpentarium กันเถอะ!

 

5. อนุสรณ์สถานวีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์

อนุสรณ์สถานวีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์

วีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์

เล่ากันว่าเมื่อคราวย่าโมเป็นผู้นำชาวโคราชเข้าต่อสู้กับฝ่ายเจ้าอนุวงศ์จนได้ชัยชนะ ณ ทุ่งสัมฤทธิ์ มีสตรีผู้กล้าหาญร่วมต่อสู้อีกท่านหนึ่งคือ นางสาวบุญเหลือ ซึ่งเป็นผู้พลีชีพด้วยการจุดไฟทำลายเกวียน ที่บรรทุกดินระเบิดจนตัวตาย เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2369 ชาวบ้านทุ่งสัมฤทธิ์และชาวโคราช ได้ให้ความเคารพนับถือ ไม่ยิ่งย่อนกว่าย่าโมและเรียกนางบุญเหลือว่า ย่าเหลือ

อนุสรณ์สถานวีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์ เป็นศาลสถิตดวงวิญญาณนางสาวบุญเหลือหรือย่าเหลือ และวีรชนชาวโคราชสร้างเป็นศาลาทรงไทย แบบจัตรุมุข  ขนาดกว้าง 5 ม.ยาว 5 ม.ชาวทุ่งสัมฤทธิ์ร่วมกันสร้างขึ้นใ่น พ.ศ.2531 ภายในศาลมีรูปปั้นนางสาวบุญเหลือขนาดย่อมยืนอยู่ในท่าถือคบเพลิงที่นำไปจุดเกวียนบรรทุกดินระเบิดของทหารลาว

แหล่งการเรียนรู้พิพิธภัณฑ์ทุ่งสัมฤทธิ์

ความเป็นมาของท่านท้าวสุรนารี และ นางสาวบุญเหลือ ซึ่งเป็นผู้พลีชีพด้วยการจุดไฟทำลายเกวียน ประวัติความเป็นมาของต้นตระกูล ชมเครื่องมือ อาวุธสมัยโบราณที่ใช้ในการต่อสู้กับฆ่าศึก

น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ  

ชมพระบรมฉายาลักษณ์หายากของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ครั้งเสด็จฯ เยือน จังหวัดนครราชสีมาร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและร่วมถวายความอาลัย นำพระบรมฉายาลักษณ์หายากของในหลวงรัชกาลที่ ๙ พร้อมพระราชินีและพระบรมวงศานุวงศ์ ครั้งเสด็จเยือนเมืองโคราช ตามสถานที่สำคัญต่างๆ ในจังหวัดนครราชสีมา มาให้ทุกคนได้ร่วมเก็บภาพแห่งความทรงจำดีๆ เพื่อบอกเล่าแก่ลูกหลานสืบไป 

ที่อยู่และเบอร์ติดต่อ

  • หมู่ที่ 1 ตำบลสัมฤทธิ์ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา 30110
  • โทรศัพท์ : 044-482900-1

วันและเวลาทำการ

  • เปิดทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30 – 17.00 น.

ค่าเข้าชม

  • ฟรีค่าเข้าชม  (หากผู้เข้าชมต้องการสักการะศาลสถิตย์ดวงวิญญาณท่านท้าวสุรนารีและนางสาวบุญเหลือ สามารถบูชาดอกไม้ธูปเทียน ได้  ชุดละ 20 บาท)

 

ที่มา : (museumthailand)

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :

ใครว่า ที่เที่ยวเชียงใหม่ มีดีแค่ธรรมชาติ พาชม 5 พิพิธภัณฑ์ น่าไปเมืองเชียงใหม่

7 พิพิธภัณฑ์ ระดับโลก ที่ควรไปซักครั้ง หลังหมดโควิด มีที่ไหนบ้าง

บทความโดย

sippanutpick