ความรู้สึกบางส่วนของคุณแม่ที่ส่งลูกรักเข้าเรียนวันแรก
“แว่บแรกที่คิด ครูจะตีลูกเราไหม ลูกเราจะได้กินอิ่มหรือเปล่า คิดไปสารพัดด้วยความห่วง วันแรกของการไปส่งลูกที่โรงเรียนสาหัสเลย ลูกร้องไห้ทุกวัน ร้องจนเป็นไข้ แม่ก็ร้องไห้ แต่ก็พยามยามคิดว่า ลูกต้องมีการศึกษาที่ดี ระยะเวลาสามเดือนแรกรู้สึกสงสารลูกมาก ๆ แต่ทุกวันนี้สบายเลยคะ น้องอิงอิงปรับตัวได้กับที่โรงเรียนแล้ว เวลากลับบ้านมาร้องเพลง เต้น ให้ดู แม่ชื่นใจที่สุด” แม่อ้อม กับน้องอิงอิง เมื่อต้องส่งลูกรักเข้าโรงเรียน
“วันเเรกของการส่งลูกเข้าไปโรงเรียนอนุบาล เช้าวันนั้นปลุก น้องอิงค์ไปโรงเรียนด้วยความรู้สึกวิตกกังวล เกือบ 3 ปีเต็ม ที่เราอยู่ด้วยกันมาตลอด จะไปไหน ไปทำอะไร เราจะตัวติดกันตลอด แม่เดินอุ้มลูกไว้แนบกาย ตลอดทางที่เดินไปส่ง น้องอิงค์เริ่มกังวล และ งอแง เริ่มร้องไห้ คุณแม่ ต้องคอยปลอบคอยบอกตลอดว่า คุณแม่ รักหนู คุณแม่ จะไม่ทิ้งหนู จะยืนมองดูหนู อยู่ใกล้ ๆ กัน ทั้ง ๆ ที่แม่ในเวลานั้น รู้สึกเครียด กังวล และ คิดไปต่าง ๆ นานา พอส่งลูกให้กับคุณครู ได้ยินเสียงลูกร้องไห้ แต่ก็ต้องรีบเดินหันหลังกลับไปไม่มอง แม้แม่เองก็น้ำตาซึมเหมือนกัน” แม่โอ๋กับน้องอิงค์
อ่านวิธีเตรียมตัวก่อนเข้าโรงเรียน หน้าถัดไป >>>
คุณหมอสุธีรา เอื้อไพโรจน์ ได้คลายข้อสงสัยต่อคำถามที่ว่า มีความจำเป็นที่ลูกต้องเตรียมความพร้อมก่อนเข้าโรงเรียนหรือไม่ คำตอบคือ ลูกจำเป็นต้องได้รับการเตรียมตัวก่อนเข้าโรงเรียนแน่นอนค่ะ แต่จะเตรียมโดยใครและทำอย่างไร นั่นคือสิ่งที่พ่อแม่หรือผู้ปกครองควรจะเตรียมตัวด้วยเช่นกัน
ช่วงวัยที่เหมาะสมสำหรับเด็กในการเข้าโรงเรียนอนุบาลอยู่ที่อายุประมาณ 3 ขวบ เพราะโอกาสติดเชื้อโรคจะน้อยกว่า หรือ ถึงติดเชื้ออาการก็มักรุนแรงน้อยกว่า เด็กเล็กมาก ๆ แต่ผู้ปกครองบางครอบครัวมีความ จำเป็นต้องส่งลูกเข้าเนอสเซอรี่ก่อนที่จะถึงวัย
คุณหมอได้ให้คำแนะนำว่าเมื่อ คุณพ่อ คุณแม่ ตัดสินใจจะส่งลูกไปสถานรับเลี้ยงเด็ก หรือ สถาบันพัฒนาเด็กเล็ก สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาเพื่อการตัดสินใจเลือก ได้แก่
- ค่าใช้จ่าย
- สถานที่ ใกล้บ้าน หรือที่ทำงาน เหมาะแก่การรับส่ง เดินทางสะดวก ลูกไม่เหนื่อยเกินไปกับการใช้เวลาในการเดินทาง
- นโยบายตรงใจกับพ่อแม่
- คุณภาพ สถานที่ – ปลอดภัย เช่น มีประตูที่เด็กจะเดินออกไปเองไม่ได้ ทางหนีไฟ ระบบตรวจจับควันไฟ การติดตั้งของเล่นมั่นคง มีการระบายถ่ายเทอากาศที่ดี
- มีของเล่นที่หลากหลายเหมาะ กับแต่ละวัยเพื่อช่วยเสริมพัฒนาการ และ มีจำนวนเพียงพอแก่เด็ก
- ทางโรงเรียนควรมีกล้องวงจรปิดเพื่อคอยตรวจสอบ และ ย้อนดูเหตุการณ์ได้ มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี กรณีคนแปลกหน้ามาลักพาเด็ก
- บุคลากร ควรมีจำนวนเพียงพอกับจำนวนเด็ก จะได้ดูแลเด็กได้ทั่วถึง เป็นผู้มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคติดต่อ ไม่มีประวัติอาชญากรรม รักเด็ก ใจเย็น มีความรู้ความชำนาญในการดูแลเด็ก
- มีโปรแกรมฝึกพัฒนาการที่แน่นอนสำหรับเด็กแต่ละช่วงอายุ หากมีใบอนุญาตจัดตั้งสถานประกอบการรวมถึงหลักสูตรที่มีมาตรฐานด้วยจะดีมาก
- ไม่ควรมีทีวีให้เด็กดูเพราะเป็นการเลี้ยงดูที่ไม่ถูกต้อง มีผลเสียจากการดูทีวีมากมาย หากใช้ทีวีเลี้ยงเด็ก ให้ถือว่าเป็นคนดูแลที่ประสิทธิน้อย
- ระบบการดูแลสุขภาพเด็ก ควรมีห้องแยกเด็กป่วยหรือไม่ให้มาเรียนจนกว่าจะพ้นระยะแพร่เชื้อ
- เน้นเรื่องการล้างมือบ่อย ๆ
- มีห้องเตรียมอาหารที่ถูกสุขลักษณะ อาหารและของว่างถูกหลักโภชนาการและน่าหม่ำ การใช้ห้องน้ำและการกำจัดสิ่งปฏิกูล การแยกข้าวของเครื่องใช้เด็กแต่ละคนไม่ปะปนกัน มีการทำความสะอาดห้องเรียน อุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ ของเล่นเป็นประจำด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
- มีเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินของโรงพยาบาล สถานีตำรวจ สถานีดับเพลิง อยู่ในที่เห็นได้ง่าย
ที่มา : facebook.com/SuthiRaXeuxPhirocnKic
theAsianparent Thailand เชื่อว่าการศึกษาที่ดี จะช่วยเสริมสร้างรากฐานที่ดีให้ กับเด็ก เป็นการเริ่มต้นสร้างสภาะแวดล้อมในการเรียนรู้ ได้อย่างสมวัย และ เป็นไปตามที่ คุณพ่อ คุณแม่ต้องการการเลือกโรงเรียนให้ กับลูก คือหัวใจหนึ่งของการศึกษา เพราะการเลือกโรงเรียนตั้งแต่เนอสเซอรี่ การเลือกโรงเรียนอนุบาล เป็นด่านแรกที่จะช่วยเสริมสร้าง พัฒนาการให้ กับลูกได้ เช่น มีหลักสูตรที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง หลักสูตรวิชาการที่ พอดีกับการเรียนรู้ การใช้ Play Base Learning เพื่อเสริทสร้างพหุปัญญษทั้ง 8 ด้าน หรือ EF ที่ทำให้ลูกได้เรียนรู้ทั้ง Hard Skill และ Soft Skill อย่างสมดุลย์ เพราะการเรียนรู้ที่ดี สามารถเรียนรู้ได้ต่อเนื่องไม่จำกัด และ ทำให้เด็กค้นพบตัวตน และ มีความสุข กับการเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง
ทบความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เตรียมตัวส่งลูกไปโรงเรียนวันแรก