สารอาหารในนมแม่

คำถามที่มักได้ยินบ่อยๆ จากเหล่าคุณแม่ก็คือ ทำยังไงให้ลูกฉลาด เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ ที่คุณแม่ทุกคนจะคาดหวังให้ลูกของตนเองมีพัฒนาการทางร่างกายที่แข็งแรงและพัฒนาการทางสมองที่เฉลียวฉลาด เห็นได้จากเวลามีคนชมเจ้าตัวน้อยของเราว่า “ อุ้ย! น้องเก่งจังเลยค่ะ “ หรือ “ฉลาดนะเนี่ยตัวแค่นี้ “ คนเป็นแม่นี่ยิ้มกันแก้มปริเลยทีเดียว

แอลฟา-แล็คตัลบูมิน + DCL (ดีเอชเอ โคลีน ลูทีน) คือสารอาหารที่พบได้ในนมแม่ เด็กที่ได้ทานนมแม่มาตั้งแต่แรกเกิดจะได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ชนิดนี้อย่างเต็มที่ แล้วคุณแม่อยากรู้กันมากขึ้นไหมว่า เจ้าสารอาหารแอลฟา-แล็คตัลบูมิน + DCL ตัวนี้ที่พบมากในนมแม่ มีความสำคัญกับพัฒนาการของลูกในด้านใด ไปพบคำตอบพร้อมกันค่ะ

คุณแม่รู้ไหมว่า จุลินทรีย์บิฟิดัส หรือ บิฟิโดแบคทีเรีย มีผลดีต่อลูกน้อยมาก การที่เด็กๆ ได้รับจุลินทรีย์ชนิดนี้เท่ากับจะได้รับภูมิคุ้มกันที่ดี มีสุขภาพแข็งแรง และช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในทางเดินอาหารและทางเดินหายใจได้ เรามาทำความรู้จักจุลินทรีย์บิฟิดัสให้ดียิ่งขึ้นกันดีกว่า

สำหรับลูกน้อยแล้วการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงเจริญเติบโตอย่างสมวัย คือส่วนสำคัญที่จะต่อยอดไปสู่การเรียนรู้ในอนาคตของเด็ก โดยเฉพาะเด็กในช่วง 1-3 ปีแรกหรือเด็กน้อยในวัยเตาะแตะ ที่ได้รับการใส่ใจทางโภชนาการที่ดี ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์จาก “นมแม่” จะมีภูมิคุ้มกันสำคัญที่ช่วยปกป้องลูกน้อยห่างไกลจากอาการเจ็บป่วยต่างๆ ได้

เพราะในช่วง 1000 วันแรก สำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายในอนาคตของลูก เป็นช่วงนาทีทองที่ควรใส่ใจลูกน้อยของคุณเป็นพิเศษ การเริ่มต้นให้สิ่งดีๆ ต่อลูกตั้งแต่วันแรกของชีวิตด้วยการให้ “นมแม่” และสัมผัสพิเศษจากอกอุ่นของแม่ จะเป็นการนับเวลาเดินหน้าเพื่อการเติบโตและพัฒนาการที่ดีที่สุดให้กับลูกน้อย

"นมแม่หมดประโยชน์แล้วถ้าให้กินเกิน 6 เดือน" เชื่อว่าคุณแม่คงได้ยินคำนี้บ่อย ๆ จากคนรอบตัว หลายคนบอกว่านมแม่ยิ่งนานก็ยิ่งสีไม่ข้น ใสกลายเป็นน้ำ วันนี้เราจะมาไขข้องใจว่าอย่างไหนจะถูกต้องตามหลักความจริงของนมแม่มากกว่ากัน หลัง 6 เดือนนมแม่ยังมีประโยชน์หรือไม่?