10 คนดังระดับโลกชีวิตในวัยเด็กไม่สวยงาม แต่ไม่เป็นอุปสรรคการสร้างความสำเร็จ

คนดังระดับโลกชีวิตในวัยเด็กไม่สวยงาม อาจไม่ใช่ปัญหาหรือการขีดขวางความสำเร็จของพวกเค้า มันง่ายที่เราจะลืมว่าคนดังที่เรารู้จักและชื่นชอบที่มีชื่อเสียงในทุกวันนี้ พวกเขากลับมีวัยเด็กและวัยรุ่นที่มักจะ เป็นเรื่องราวที่ไม่สวยงามอย่างที่ใครๆคิด เพราะภาพในปัจจุบันดูเป็นคนที่มีความสุขและประสบความสำเร็จอย่างมาก และทำให้คนเผลอคิดว่า พวกเค้าเหล่านี้อาจไม่เคยลิ้มรสความทุกข์ หรือพลันคิดไปว่าพวกเค้าต้องมีครอบคัวที่สมบูรณ์เป็นแน่ แต่จริงๆแล้ว ในช่วงก่อนที่พวกเขาจะก้าวขึ้นสู่ความเป็นดารา  คนดังระดับโลกชีวิตในวัยเด็กไม่สวยงาม ในวัยเด็ก พวกเขามีปัญหาครอบครัวปัญหาในวัยเด็กและมีความยากลำบากบางประการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในความเป็นจริงบางคนที่ร่ำรวยที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในโลกตอนนี้ ก็มีการดิ้นรนเพื่อให้ประสบความสำเร็จอยู่ไม่น้อย

ในทำนองเดียวกันเช่นเดียวกับคนทั่วไปที่ไม่มีชื่อเสียงหลายคนคนดังหลายคนต้องรับมือกับการที่พ่อแม่ของพวกเขาแยกทางหรือหย่าร้างกัน บางคนเข้าใจดีและเห็นว่าการแตกแยกเป็นการบรรเทาปัญหาในครอบครัว คนอื่น ๆ ยังคงทุกข์ทรมานจากผลสะท้อนของการกระทำของพ่อแม่จนถึงทุกวันนี้ค่ะ เรามาดูว่าเซเลบคนไหนรับมือได้ดี  คนดังระดับโลกชีวิตในวัยเด็กไม่สวยงาม กับปัญหาบ้านที่พังของพวกเขาซึ่งได้รับความทุกข์ทรมานในช่วงวัยเด็กแล้วพวกเขาก้าวขึ้นมามีชื่อเสียงภายใต้ความไม่สมบูรณ์หลายๆอย่างได้อย่างไร

10  คนดังระดับโลกชีวิตในวัยเด็กไม่สวยงาม

วันนี้เรารวบรวม 10 คนดังระดับโลกที่ประสบความสำเร็จและเห็นผลงานมากมายในปัจจุบัน แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังความสำเร็จนั้นย่อมไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบและถ้ามองลึกไปกว่านั้นส่วนมากไม่ได้มาจากครอบครัวที่อบอุ่น แต่แน่นอนว่าไม่เป็นอุปสรรคในการสร้างความสำเร็จในปัจจุบัน

1.Selena Gomez ชีวิตวัยเด็กของเธอไม่ได้สวยงาม

ในบทความนี้เราขอหยิบยก เคสตัวอย่างของนักร้องวัยรุ่นชื่อดัง Selena Gomez ซึ่งชีวิตวัยเด็กของเธอไม่ได้สวยงามเช่นกัน เพราะความไม่เข้าใจและความโกรธที่มอบให้แม่ของเธอหลังจากที่พ่อแม่ของเธอหย่าร้างกัน ซึ่งถ้าพูดในหลักความเป็นจริงการอย่าร้างของพ่อแม่ นั้นมีหลากหลายเหตุผล และถ้ามองในเหตุผลในแง่ที่ดีคือ การที่พ่อแม่แยกชีวิตกันอยู่อาจจะดีกว่าการต้องให้ลูกได้เห็นถึงปัญหาครอบครัวตลอดเวลาและสะสมจนโต ดังนั้นความคิดหย่าร้างนั้นไม่มีถูกหรือผิดแต่อยู่ที่การตัดสินใจและเหตุผลที่เหมาะสมในแต่ละครอบครัว

Selena Gomez เปิดใจอย่างมากเกี่ยวกับประเด็นที่เธอมีกับการ หย่าร้างของพ่อแม่ นักร้อง / นักแสดงอายุเพียง 5 ขวบเมื่อพ่อแม่ของเธอแยกทางกันและเธอต้องใช้เวลาสองสามปีในการทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าเกิดอะไรขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อเธอตระหนักว่าไม่มีโอกาสที่พ่อแม่ของเธอจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งเธอก็เริ่มโทษว่า “แมนดี้” แม่ของเธอที่แยกทางกัน โกเมซไม่พอใจที่แม่ของเธอเป็นคนเริ่มการหย่าร้างและปรารถนาอย่างยิ่งว่าเธอจะไม่ต้องเติบโตมาในบ้านที่แตกแยก ยังไม่ชัดเจนว่าอะไรทำให้พ่อแม่ของเธอต้องแยกทางกัน แต่เซเลนาก็ตำหนิแมนดี้ผู้เป็นแม่มากที่สุด ตั้งแต่นั้นมาโกเมซได้กล่าวว่าเธอรู้สึกผิดมากสำหรับปัญหาที่เธอยกให้กับ “แมนดี้” ผู้เป็นแม่กับการหย่าร้างครั้งนี้ ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทั้งเธอและพ่อแม่และรู้สึกขอบคุณแม่ที่เลี้ยงดูเธอเพียงลำพัง แต่เชื่อว่าด้วยอายุและวัยที่เปลี่ยนไป โกเมซมีความเข้าใจเหตุผลในการหย่าร้างของพ่อแม่มากขึ้น

โกเมซซึ่งอายุ 5 ขวบเมื่อพ่อแม่ของเธอแยกทางกันโทษแม่ของเธอสำหรับการหย่าร้างซึ่งเป็นสิ่งที่เธอเสียใจอย่างสุดซึ้ง ตอนนี้ Selena Gomez อาจเป็นที่รู้จักในฐานะนักร้องและนักแสดงที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่ก็เหมือนกับคนอื่น ๆ เธอมักจะมีความผูกพันเป็นพิเศษกับ Mandy Teefey แม่ของเธอ เกิดเมื่อแมนดี้อายุเพียง 16 ปี โกเมซเติบโตในเมืองแกรนด์แพรรีรัฐเท็กซัสและได้รับการเลี้ยงดูจากแม่ที่ยังอายุน้อยของเธอหลังจากการหย่าร้างของพ่อแม่ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อป๊อปสตาร์ในอนาคตอายุเพียง 5 ขวบเท่านั้น  โกเมซซึ่งอายุ 5 ขวบเมื่อพ่อแม่ของเธอแยกทางกันโทษแม่ของเธอสำหรับการหย่าร้างซึ่งเป็นสิ่งที่เธอเสียใจอย่างสุดซึ้ง “ซึ่งนี่คือบทสัมภาษณ์ในรายการทีวีรายการหนึ่ง”

“ฉันตำหนิแม่ของฉันมาก [สำหรับการหย่าร้าง] เพราะฉันต้องเผชิญกับชีวิตครอบครัววัยเด็กที่แย่มาก” โกเมซกล่าว “ฉันอยากมีแม่กับพ่ออยู่ด้วยกันฉันจำได้ว่าแค่โกรธแม่ฉันยังรู้สึกแย่กับเรื่องนั้นจริงๆ” Mandy Teefey แม่ของเธอซึ่งตั้งครรภ์เมื่ออายุ 16 ปีเล่าถึงความยากลำบากของลูกสาวในการรับมือกับความแตกแยก จะระบายและตะโกนใส่ฉันและทั้งหมดที่ฉันทำได้ก็แค่พูดว่า ‘ฉันขอโทษ – แต่เธอจะเข้าใจในสักวันหนึ่ง'” เธอกล่าว วันนี้โกเมซปกป้องความเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวและรู้สึกขอบคุณแม่ที่เสียสละมากมาย”การมีฉันตอนอายุสิบหกต้องเป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่แม่ของฉันยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อฉันและมีงานสามอย่างเธอสนับสนุนฉันเสียสละชีวิตเพื่อฉัน” เธอกล่าว

2. Marilyn Monroe มาริลีนมอนโร นักแสดงหญิงชื่อดัง ถูกเลี้ยงดูด้วยครอบครัวอุปถัมภ์

มาริลีนมอนโรดาราฮอลลีวูดมีชีวิตที่น่าเศร้าพอสมควร ในขณะที่การเสียชีวิตก่อนวัยอันควรอย่างน่าตกใจของเธอด้วยวัยเพียง 36 เป็นที่รู้กันมากมาย แต่มีคนน้อยลงที่รู้ว่าช่วงเวลาในวัยเด็กของเธอเจ็บปวดเพียงใด Monroe หรือที่รู้จักกันในชื่อ Norma Jeane Mortenson เป็นผลมาจากความสัมพันธ์ระหว่าง แม่ที่แต่งงานแล้วของเธอ Gladys กับชายนิรนาม เกือบจะในทันทีหลังคลอด แม่ของมอนโรได้วาง มาริลีนตัวน้อยไว้ในความดูแลของพ่อแม่อุปถัมภ์ ในขณะที่แม่ผู้ให้กำเนิดของนักแสดงเริ่มปรากฏตัวบ่อยครั้งในชีวิตของเธอทั้งสองขาดการติดต่อหลังจาก Gladys มีอาการทางประสาทและเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากโรคจิตเภทที่หวาดระแวง เมื่อถึงจุดนี้ มอนโรอายุเพียงแปดขวบ เธอถูกส่งต่อระหว่างครอบครัวอุปถัมภ์จำนวนมาก ก่อนที่จะถูกทิ้งในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในที่สุดมอนโรก็ได้พบบ้านที่ถาวรกว่านี้กับ “ครอบครัวก็อดดาร์ด” อย่างไรก็ตามหลังจากถูกพ่อบุญธรรมทำร้ายเธอจึงถูกส่งไปอยู่กับป้าแก่ ๆ เมื่อเห็นว่า Goddards   (ครอบครัวก็อดดาร์ด) ต้องการย้ายออกจากรัฐและกำลังวางแผนที่จะส่ง Monroe กลับไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า

ต้องบอกเลยว่า มอนโรเติบโตมาในบ้านอุปถัมภ์ เนื่องจากแม่ของเธอมีปัญหาด้านการเงินและสุขภาพจิต ทำให้ไม่สามารถเลี้ยงดูเธอได้ ด้วยรูปลักษณ์ที่สะสวยกว่าหญิงวัยเดียวกันบวกกับความสามารถในด้านการแสดงของเธอ ทำให้มาริลินได้เข้าวงการครั้งแรกตั้งแต่อายุ 18 ปี โดยเริ่มจากการเป็นนางแบบ ก่อนจะหันมาแสดงภาพยนตร์เมื่อปี 1946 โดยมีผลงานภาพยนตร์ที่สร้างชื่อให้เธอหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น As Young as You Feel (1951) มาริลินมาโด่งดังเป็นพลุแตกจากภาพยนตร์เรื่อง Niagara (1953) แม้จะมีอาชีพการงานที่รุ่งโรจน์ แต่ชีวิตส่วนตัวของมาริลินกลับเต็มไปด้วยปัญหา ทั้งการแต่งงานและความทุกข์ทรมานด้วยโรคซึมเศร้า ภาวะวิตกกังวล รวมถึงการใช้สารเสพติด ก่อนที่เธอเสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 1962 จากการเสพยาเกินขนาดด้วยวัยเพียง 36 ปี หลงเหลือไว้เพียงผลงานที่เป็นระดับตำนานมาถึงทุกวันนี้

3.Justin Timberlake ยอมรับว่ายังคงรู้สึกและได้รับผลกระทบของการแตกแยกของพ่อแม่

แม้ว่าพ่อแม่ของเขาจะหย่าร้างกันเมื่อสามสิบปีก่อน แต่จัสตินทิมเบอร์เลคก็ยอมรับว่าการแยกทางของพวกเขายังคงส่งผลกระทบต่อเขาจนถึงทุกวันนี้  โดยพ่อและแม่ของทิมเบอร์เลคได้แยกทางกันเมื่อทิมเบอร์อายุได้สามขวบ แต่ประสบการณ์นั้นก็ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บอย่างแท้จริง ในขณะที่พ่อแม่ของจัสตินทั้งสองให้ความรักและการสนับสนุนแก่เขามากมาย แต่การหย่าร้างส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของเขากับพวกเขาอย่างล้นเหลือ ทิมเบอร์เลครู้สึกว่าการแตกแยกของพวกเขาในตอนที่เขายังเด็กมากทำให้ยากต่อการเชื่อมต่อกับพวกเขาในภายหลัง

ตลอดหลายปีต่อมาทิมเบอร์เลคเปิดใจเกี่ยวกับความจริงที่ว่าเขายังคงมีความรู้สึกไม่ดีกับเด็กของเขา เขาพบว่าเป็นการยากที่จะยุติความคิดร้ายๆที่ไม่ดีเนื่องจากความปรารถนาที่จะไม่ทำผิดซ้ำซากกับพ่อแม่ของเขาอีก และพบว่าความเจ็บปวดทางอารมณ์เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อเขามีลูกของตัวเองไซลาสกับเจสสิก้าบีลภรรยา อย่างไรก็ตามเขาสามารถทำงานผ่านมันได้และกลายเป็นพ่อและสามีที่น่าทึ่ง ดีสำหรับเขา!

4.Justin Bieber มีครอบครัววัยเด็กที่ไม่สมบูรณ์เช่นกัน เมื่อพ่อแม่ของเขาเลิกทางกัน

จัสตินบีเบอร์ป๊อปสตาร์ชื่อดังระดับโลกต้องทนทุกข์ทรมานจากการที่พ่อแม่แยกทางกันอย่างน่าประหลาดใจ เจเรมี พ่อของบีเบอร์เดินออกไปหาครอบครัวใหม่ เมื่อเค้ามีอายุเพียงสิบสามเดือน จัสตินจึงเติบโตขึ้นมาโดยแทบไม่ได้รับความสนใจหรือความรักจากพ่อที่เหินห่าง สิ่งต่างๆแย่ลงเมื่อ Bieber อายุมากขึ้น: พ่อแม่ของเขาทั้งสองมีส่วนร่วมในพฤติกรรมที่เอาแน่เอานอนไม่ได้และเป็นปัญหา พ่อของเขามีปัญหากับกฎหมายรวมถึงเรื่องของยาเสพย์ติด หลายครั้งในขณะที่แม่ของเขาถูกกล่าวหาว่าแทงผู้หญิงอีกคนในระหว่างการทะเลาะวิวาทในปี 2554

ความจริงที่ว่า Bieber สามารถกลายเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จได้เนื่องจากการทักษะของเขานั้นทำได้ดีและค่อนข้างน่าประทับใจ อย่างไรก็ตามมันไม่ได้ทำให้เขาไม่ได้รับอันตรายใด ๆ เมื่อบีเบอร์ใกล้ชิดกับพ่อของเขามากขึ้นในช่วงหลังจากเค้ามีชื่อเสียง  “เจเรมี”พ่อของ Bieber ก็กลายเป็นสิ่งที่ส่งผลร้ายต่อดาราหนุ่ม เพราะพ่อของเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์แข่งรถรวมถึงเหตุการณ์ที่ส่งผลทางด้านลบ ซึ่งนำไปสู่การจับกุมที่น่าอับอายของลูกชายในปี 2014 และเห็นได้ชัดว่าการสนับสนุนให้จัสติน ดื่มและปาร์ตี้มากเกินไป นั่นไม่ได้ฟังดูเป็นการเลี้ยงดูที่ดีสักเท่าไหร่นัก แต่ด้วยทักษะและความสามารถอันโดดเด่นของBieber กลับทำให้เค้ามีลู่ทางในการไปต่อในวงการบันเทิงได้ในระยะยาวด้วยความสามารถส่วนตัวที่หาคนเทียบได้ยาก

5.พ่อแม่ของ Rihanna แยกทางกันเนื่องจากพ่อของเธอเสพสารเสพติด

วัยเด็กของ Rihanna เป็นช่วงที่พ่อของเธอติดยาเสพติด โรเบิร์ตเฟนตี้ ติดโคเคนและแอลกอฮอล์ในช่วงวัยเด็กของดารา นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้แม่ของเธอหย่ากับเขาเมื่อRihanna อายุสิบสี่ปี ปัญหาชีวิตสมรสของพ่อแม่ของเธอส่งผลกระทบอย่างมากต่อ Rihanna พ่อของเธอทุบตีแม่ของเธอตลอดเวลาและยังตีลูกสาวตัวน้อยของเขาด้วย ความเครียดของสถานการณ์ยังทำให้ Ri ปวดหัวอย่างมากซึ่งตอนแรกแพทย์คิดว่าเกิดจากเนื้องอก อย่างไรก็ตามเมื่อความเจ็บปวดหยุดลงอย่างลึกลับเมื่อพ่อแม่ของดาราในอนาคตแยกทางกันก็เห็นได้ชัดว่าความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดของพวกเขาส่งผลกระทบต่อลูกสาวทั้งทางร่างกายและอารมณ์นั้นดีขึ้น

ความยากลำบากไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้นสำหรับ Rihanna ในวัยเยาว์ เมื่อพ่อของเธอจากครอบครัวไป ในช่วงวัยรุ่นRihanna ต้องดูแลน้องชายของเธอในขณะที่แม่ของเธอทำงานเต็มเวลา อย่างไรก็ตามไม่นานก่อนที่ผู้ผลิตแผ่นเสียงชาวอเมริกันคนหนึ่งจะเห็นพรสวรรค์ทางดนตรีของเธอและส่งเธอไปให้ Jay-Z ประธาน Def Jam และทำให้เธอกลายเป็นซุปเปอร์สตาร์มาจนถึงทุกวันนี้

6.Jennifer Aniston วัยเด็กที่ไม่สวยงามแต่มันทำให้เธอค้นพบทักษะที่ทำให้เธอโด่งดังในวงการบันเทิง

ในแง่ของความสัมพันธ์เจนนิเฟอร์อนิสตันมีชื่อเสียงมากที่สุดจากการหย่าร้างจากแบรดพิตต์ในปี 2548 อย่างไรก็ตามปรากฎว่านักแสดงหญิงไม่ใช่เรื่องแปลกที่การแต่งงานจะสิ้นสุดลง พ่อแม่ของเธอเลิกกันตั้งแต่เด็กเจนอายุเพียงเก้าขวบและเป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อเธออย่างมาก อนิสตันได้เปิดเผยในการสัมภาษณ์ว่าสถานการณ์ที่แท้จริงของการแยกทางเป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจโดยเฉพาะสำหรับเธอ น่าเศร้าที่เธอกลับบ้านจากงานเลี้ยงวันเกิดของเพื่อนสมัยเด็กเพื่อพบว่าพ่อของเธอจากไปแล้ว เขาย้ายออกไปในขณะที่เธอออกไปฉลองและจะไม่กลับมาอีก

Aniston รู้สึกเสียใจกับการหย่าร้างของพ่อแม่ อย่างไรก็ตามผลกระทบของการแยกไม่ได้เลวร้ายทั้งหมดนักแสดงหญิงให้เครดิต กับช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ผลที่ตามมาทันทีด้วยการช่วยเธอในการสร้างทักษะตลกของเธอ เจนบอกว่าเธอต้องการให้กำลังใจครอบครัวของเธอมากจนเธอเริ่มเล่าเรื่องตลกและพยายามทำให้ครอบครัวของเธอหัวเราะ มันเป็นทักษะที่ยอดเยี่ยมในสถานการณ์ที่น่าเศร้าที่ทำให้เธอมองเห็นถึงด้านดีและสร้างกำลังใจให้ตัวเองรวมทั้งคนรอบข้าง

7. Oprah Winfrey  กับช่วงชีวิตยากลำบากในวัยเด็กและการโดนล่วงละเมิดทางเพศ

แทบไม่มีใครที่สามารถอ้างถึงระดับความสำเร็จและอิทธิพลที่โอปราห์วินฟรีย์มีได้ตลอดอาชีพการงานที่โด่งดังของเธอ แต่เธอมีอะไรก็ได้นอกจากการเลี้ยงดูในอุดมคติ นักแสดงหญิงที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สองครั้งตอนนั้นอายุเพียงเก้าขวบเมื่อเธอเริ่มทุกข์ทรมานทางเพศโดยลูกพี่ลูกน้องวัย 19 ปีของเธอที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ เธอยังถูกญาติคนอื่น ๆ ทำร้ายและลวนลามอย่างรุนแรงและหันไปหาสารเสพติดเพื่อรับมือกับการต่อสู้ที่แอบแฝงของเธอ เมื่ออายุ 14 เธอถูกส่งไปอยู่กับพ่อและพบว่าเธอท้อง น่าเศร้าที่ทารกซึ่งเป็นเด็กชายเกิดก่อนวัยอันควรสองเดือนและจากไปเมื่ออายุเพียงสองสัปดาห์ โอปราห์ตั้งชื่อเขาตามคำแนะนำของนักข่าวและเลือกชื่อ”คานาอัน”เพราะตามที่เธอบอกกับสื่อมวลชนออสเตรเลียว่า “หมายถึงดินแดนใหม่ชีวิตใหม่”   จากเรื่องราวชีวิตของOprah  ก็ต้องยอมรับเลยว่าไม่ง่ายที่เธอจะผ่านเรื่องราวเหล่านี้มาได้ แต่ในทางกลับกัน เธอกลับไม่หยุดชีวิตตัวเองไว้ที่โชคชะตาตอนเด็ก เธอกลับนำเรื่องราวเหล่านี้มาเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนไปทั่วโลก ซึ่งแน่นอนว่าเธอได้ทำให้คนมีกำลังใจและเป็นตัวแทนสตรีที่ลุกขึ้นยืนในเรื่องการต่อต้าน การทำร้ายร่างกายและการล่วงละเมิดทางเพศ และถือว่าเธอคือสตรีคนหนึ่งที่สร้างความขับเคลื่อนและเป็นกระบอกเสียงสำคัญให้กับสตรีในโลกนี้

8.Christina Aguilera นักร้องชื่อดังกับฝันร้ายในวัยเด็กของเธอ

Christina Aguilera กำลังสอนคนทั้งโลกเกี่ยวกับ“ What a Girl Wants” ตั้งแต่อายุยังน้อย แต่เมื่อเธอยังเป็นเด็กผู้หญิงสิ่งที่เธอต้องการคือรู้สึกปลอดภัยจากพ่อของเธอเอง ในการสนทนาอย่างตรงไปตรงมากับ ข่าว Aguilera เปิดเผยว่าตอนที่เธอยังเป็นเด็กเธอรู้สึก“ ไร้อำนาจ” อย่างสิ้นเชิงกับพ่อที่ชอบใช้ความรุนแรงและ“ หันมาร้องเพลงเป็นทางออก” แม่ของเธอเชลลีจำช่วงเวลาที่น่าสยดสยองเมื่อเธอพบคริสติน่าตอนนั้นอายุเพียงสี่ขวบใบหน้าของเธอมีเลือดซึมเพราะ“ ‘พ่ออยากงีบหลับและฉันส่งเสียงดังเกินไป’ ” ในที่สุดแม่ก็ทิ้งพ่อและพาตัวเองและพี่สาวไปอยู่กับยาย “ ความเจ็บปวดที่บ้านคือจุดเริ่มต้นของความรักในดนตรี” Aguilera กล่าว นั่นอาจจะเป็นที่มาที่ทำให้เธอประสบความสำเร็จในทุกวันนี้  และค้นพบพรสวรรค์ของตัวเองและทำในสิ่งที่สร้างความสุขให้กับตัวเธอเอง จากประวัติของเธอก็ทำให้เราพบว่า ความสามารถที่ส่องสว่างของเธอไม่สามารถมีอะไรมาปิดบังแสงสว่างนี้ได้แม้เธอจะเติบโตในครอบครัวที่เหมือนเมฆหมอกปกคลุมตัวเธอ แต่ด้วยความสามารถความเป็นStarของเธอมันฉายแววชัดเจน แน่นอนว่า บวกกับความพยายามย่อมทำให้เธอมีชื่อเสียงได้ในปัจจุบันและกายเป็นตำนานด้วยชื่อเสียงและผลงานของเธอ

9.Nicki Minaj กับเรื่องราวครอบครัวที่เกี่ยวพันกับสารเสพติด

นักร้องที่ผันตัวเป็นนักแสดงเปิดเผยเมื่อปี 2010 ว่าพ่อของเธอเป็นผู้ติดยาเสพติดที่มีความรุนแรงซึ่งยัดเยียดให้ตัวเองและแม่ของเธอละเลยการเลี้ยงดูและโดนข้อหาขโมยและรวมถึงข้อหาการลอบวางเพลิง “ ฉันคิดว่าเราคงจะมีความสุข แต่ในความเป็นจริงการมีพ่อแม่ที่ติดยาไม่มีความสุขเลย” เธอกล่าวกับนิตยสาร Vibe “ เมื่อคุณมีพ่อที่ขโมยเฟอร์นิเจอร์ของคุณไปขายเพื่อที่เขาจะได้ซื้อยาเสพติด คุณก็ต้องทนทุกข์ทรมาน มินาจย้ายไปนิวยอร์กตอนอายุห้าขวบมีรายงานว่าพ่อของเธอพยายามที่จะทำร้ายร่างกายและฆ่าแม่ของเธอ ซึ่งเป็นข่าวร้ายที่ไม่อยากให้เกิดในครอบครัวไหน แต่ความโหดร้ายในวัยเด็กก็ไม่เป็นสิ่งขัดขวางความสำเร็จของเธอ เมื่อความสามารถและทักษะที่โดดเด่นบวกกับการไขว่คว้าโอกาสของเธอ จึงทำให้เธอประสบความสำเร็จอย่างมาก

10.สตีฟจ็อบส์เป็นหนึ่งในผู้รับบุตรบุญธรรมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์

เสตีฟจ็อบส์ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งของ Apple ผู้ล่วงลับ กับประวัติส่วนตัวที่ตัวเค้าเองนั้นเป็นบุตรบุญธรรมที่ถูกรับมาเลี้ยง บิดามารดาโดยกำเนิดของเขาคือ Abdulfattah Jandali มุสลิมซีเรียและ Joanne Schieble ชาวสวิสและเยอรมันคาทอลิก เมื่อทั้งสองเริ่มมีความสัมพันธ์  เมื่อ Schieble ตั้งครรภ์ เธอถูกบังคับให้เลี้ยงลูกเพื่อรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมนั่นคือ สตีฟจ็อบส์ หลังจากนั้น เธอก็แต่งงานใหม่กับ Jandali และมีลูกอีกคนกับเขา Mona Simpson – น้องสาวของ Jobs

เมื่อถึงจุดนั้นมันสายเกินไปที่สตีฟจะถูกนำกลับเข้าสู่ครอบครัวที่เกิดในตอนนี้ เขาได้รับการอุปการะ จากพอล และ คลารา จ็อบส์ อย่างไรก็ตามจ็อบส์ไม่เห็นว่านี่เป็นปัญหาเขามักจะบอกว่าเขาถือว่าพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเขาไม่มีอะไรมากไปกว่าผู้บริจาคอสุจิและไข่และจ็อบส์เป็นพ่อแม่ที่แท้จริงของเขา เขาไม่เคยพบพ่อผู้ให้กำเนิดและแม่ผู้ให้กำเนิดในวัยชราของเขาก็ไม่ได้รับแจ้งว่าเขาเสียชีวิตเมื่อใดเช่นกัน ซึ่งเรื่องราวในอดีตหรือแม้แต่เรื่องราวการเกิดของเค้าไม่ได้มีความสำคัญเท่ากับการสร้างนวัตกรรมใหม่ที่ทำให้ทั้งโลกได้จารึกไว้ แม้ในวันที่เค้าไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้วก็ตาม

ที่มา : Thetalko Vh1
บทความประกอบ : การแบ่งหน้าที่ช่วยเหลือกันในครอบครัว แบ่งอย่างไร พ่อแม่ลูกมีหน้าที่อะไรบ้าง