ท้องลายหลังคลอด หายเองได้ไหม? 7 เคล็ดลับกู้ผิวเนียนสวยหลังคลอด

บางคนคลอดแล้วรอยแตกลายก็จางหายไป แต่คุณแม่หลายคนก็ยังมีรอยแตกลายให้เห็นอยู่ ท้องลายหลังคลอด หายเองได้ไหม แนะเคล็ดลับให้ผิวกลับมาเนียนสวย
ระหว่างตั้งครรภ์ ผิวที่ท้องของเราอาจจะแตกลาย บางคนคลอดแล้วรอยแตกลายก็จางหายไป แต่คุณแม่หลายคนก็ยังมีรอยแตกลายให้เห็นอยู่ ท้องลายหลังคลอด ยังคงทำให้คุณแม่กังวลใจ ไม่มั่นใจเวลาแต่งตัว
ดังนั้น การดูแลผิวตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนที่รอยแตกลายจะมา จะช่วยลดปัญหารอยแตกลายหลังคลอดได้ นอกจากนี้ หากเราเข้าใจว่ารอยแตกลายตอนท้องเป็นเรื่องธรรมดา ก็จะช่วยให้เราไม่กังวลใจกับมันมากเกินไป และยังช่วยให้เรามั่นใจในการแต่งตัวมากขึ้นด้วยนะคะ
▼สารบัญ
ท้องลายหลังคลอด คืออะไร
ท้องลาย คือ รอยแตกของผิวหนังบริเวณหน้าท้องที่เกิดขึ้นหลังจากการตั้งครรภ์และคลอดลูก โดยจะมีลักษณะเป็นเส้นหรือริ้ว สีชมพู แดง ม่วง หรือสีขาว
ท้องลายหลังคลอด เกิดจากอะไร
ท้องลายเกิดจากการขยายตัวของผิวหนังบริเวณหน้าท้องอย่างรวดเร็วเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของทารก ทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวหนังถูกยืดและฉีกขาด เมื่อผิวหนังหดตัวลงหลังคลอด จึงเกิดเป็นรอยแตกลาย
ท้องแตกลายหลังคลอด เริ่มเมื่อไหร่
โดยทั่วไปมักเริ่มสังเกตเห็นได้ชัดเจนในช่วงไตรมาสที่ 2-3 เนื่องจากเป็นช่วงที่หน้าท้องขยายตัวมากที่สุด แต่บางรายอาจมาเริ่มเห็นชัดหลังคลอด
ท้องลายหลังคลอด บริเวณใดบ้าง
ส่วนใหญ่เกิดบริเวณหน้าท้อง แต่ก็สามารถเกิดได้ที่บริเวณอื่นๆ เช่น เต้านม สะโพก ต้นขา และบั้นท้ายได้เช่นกัน
คุณแม่ตั้งครรภ์กลุ่มใดบ้าง ที่เสี่ยงผิวแตกลาย | |
คุณแม่ที่มีสภาพผิวแห้ง | ผิวที่ขาดความชุ่มชื้นมักมีความยืดหยุ่นน้อยกว่า ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดรอยแตกได้ง่ายเมื่อมีการขยายตัว |
คุณแม่อายุน้อย | ผิวหนังในวัยรุ่นหรือวัยต้นผู้ใหญ่อาจยังมีความยืดหยุ่นไม่เต็มที่เท่าคุณแม่ที่มีอายุมากกว่า |
คุณแม่ที่มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมากและรวดเร็ว | การเปลี่ยนแปลงขนาดของร่างกายอย่างรวดเร็วทำให้ผิวหนังถูกยืดขยายอย่างมาก |
คุณแม่ที่ทารกในครรภ์มีน้ำหนักเกินเกณฑ์ | ทารกตัวใหญ่จะทำให้หน้าท้องของคุณแม่ขยายตัวมากขึ้น |
คุณแม่ที่มีประวัติคนในครอบครัวเคยมีผิวแตกลาย | ปัจจัยทางพันธุกรรมมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดผิวแตกลาย |
ท้องลายหลังคลอด หายเองได้ไหม
ผลการศึกษาในปัจจุบันยังไม่พบว่ามีครีม เจล หรือโลชั่นทาผิวชนิดใดที่สามารถรักษารอยแตกลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่การทาครีมบำรุงขณะตั้งครรภ์จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวเรียบเนียน สีสม่ำเสมอขึ้น ช่วยลดอาการคัน และช่วยป้องกันท้องลายหลังคลอดได้
การรักษาด้วยวิธีต่างๆ เช่น การทาครีมบำรุง หรือการรักษาทางการแพทย์อื่นๆ สามารถช่วยให้รอยแตกลายจางลงได้เร็วขึ้น
วิธีดูแลผิว ป้องกัน “ท้องลายหลังคลอด”
ท้องลายหลังคลอดเป็นปัญหาผิวที่พบบ่อย การทาครีมบำรุงผิวตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ไปจนถึงในช่วงแรกที่เกิดรอยแตกลายจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดอาการคัน และป้องกันไม่ให้ปัญหาบานปลาย หากท้องลายหลังคลอดเป็นมาก การรักษากับแพทย์ผิวหนังอาจช่วยให้รอยดูจางลง แต่มักไม่สามารถรักษารอยแตกลายให้หายสนิทได้
1. บำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน
- ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์และบอดี้ออยล์ทาผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและเสริมความยืดหยุ่น
- ควรเริ่มบำรุงผิวตั้งแต่เนิ่นๆ หรือทันทีที่ทราบว่าตั้งครรภ์ เนื่องจากการบำรุงหลังจากเกิดรอยแตกลายแล้วอาจเห็นผลได้ไม่มากนัก
- เน้นทาและนวดเบาๆ ให้ผลิตภัณฑ์ซึมซาบในบริเวณที่เสี่ยงต่อการเกิดรอยแตกลาย เช่น หน้าอก หน้าท้อง สะโพก และต้นขา
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยน ปราศจากสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ เช่น เรตินอล (Retinol), เตรทติโนอิน (Tretinoin), พทาเลต (Phthalate), ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde), และพาราเบน (Parabens)
2. รักษาสมดุลความชุ่มชื้นจากภายในสู่ภายนอก
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 12 แก้ว ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นและยืดหยุ่นจากภายใน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันรอยแตกลาย
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน คาเฟอีนมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ซึ่งอาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและส่งผลให้ผิวแห้งกร้านได้ การลดหรือหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มเหล่านี้จึงมีส่วนช่วยให้ผิวนุ่มและสามารถรับมือกับการขยายตัวในช่วงตั้งครรภ์ได้ดีขึ้น
- การมีน้ำในร่างกายที่เพียงพอไม่เพียงแต่ดีต่อผิวพรรณ แต่ยังส่งผลดีต่อระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกายโดยรวม
3. กินอาหารบำรุงจากผิว
- ควรเน้นอาหารที่ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ช่วยบำรุงและเสริมความแข็งแรงให้กับผิวจากภายใน ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น เช่น
- อาหารที่อุดมไปด้วย วิตามินซี (พบในผลไม้รสเปรี้ยว ผักใบเขียว)
- อาหารที่อุดมไปด้วย วิตามินอี (พบในถั่ว เมล็ดพืช น้ำมันพืช)
- อาหารที่อุดมไปด้วย วิตามินบี2 (ไรโบฟลาวิน พบในนม ไข่ ตับ)
- อาหารที่อุดมไปด้วย วิตามินบี3 (ไนอะซิน พบในเนื้อสัตว์ ปลา ถั่วลิสง) การได้รับวิตามินเหล่านี้อย่างเพียงพอจะช่วยบำรุงและเสริมความแข็งแรงให้กับผิวจากภายใน
4. นวดบำรุงผิวด้วยน้ำมันธรรมชาติ
- การนวดเบาๆ บริเวณผิวที่เสี่ยงต่อการแตกลาย เช่น หน้าท้อง เอว สะโพก และต้นขา ด้วยน้ำมันจากธรรมชาติ (เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันอัลมอนด์ หรือน้ำมันมะพร้าว) เป็นประจำทั้งเช้าและเย็น จะช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่นของผิว
- ควรเริ่มนวดบำรุงตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการตั้งครรภ์และทำอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งใกล้คลอด
- การนวดจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตในบริเวณนั้น ทำให้ผิวหนังแข็งแรงและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งช่วยลดโอกาสการเกิดรอยแตกลายได้
5. หลีกเลี่ยงการเกาผิวหนัง
- อาการคันอาจเกิดขึ้นได้เมื่อผิวหนังขยายตัวอย่างรวดเร็ว แต่การเกาจะส่งผลเสียต่อผิว ทำให้เกิดการอักเสบและเพิ่มความเสี่ยงต่อการฉีกขาดจนเกิดรอยแตกลาย
- เมื่อรู้สึกคัน ควรบรรเทาอาการด้วยการทาครีมบำรุงผิวหรือออยล์อย่างอ่อนโยนแทนการเกา เพื่อลดการระคายเคืองและรักษาความสมบูรณ์ของผิว
6. เลี่ยงการอาบน้ำอุ่นร้อนจัด
- หลีกเลี่ยงน้ำอุ่นจัด การอาบน้ำที่มีอุณหภูมิสูงเกินไปจะดึงความชุ่มชื้นออกจากผิว ทำให้ผิวแห้งและเปราะบาง เสี่ยงต่อการแตกลายได้ง่าย ควรเลือกอาบน้ำอุ่นในอุณหภูมิที่พอเหมาะ
- บำรุงผิวทันทีหลังอาบน้ำ หลังจากอาบน้ำเสร็จ ควรเช็ดตัวเบาๆ และรีบทาครีมบำรุงผิวขณะที่ผิวยังมีความชื้นอยู่ เพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิว
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยน หลีกเลี่ยงสบู่ที่มีสารซักฟอกรุนแรงที่ทำให้ผิวแห้ง ควรเลือกใช้สบู่หรือผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่มีความอ่อนโยนและมีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อช่วยคงความชุ่มชื้นให้กับผิว
7. ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
- การควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่แนะนำตลอดการตั้งครรภ์เป็นสิ่งสำคัญ โดยเน้นการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง
- การเพิ่มน้ำหนักตัวอย่างรวดเร็วเกินไปจะทำให้ผิวหนังต้องขยายตัวอย่างรวดเร็วตามไปด้วย ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดรอยแตกลายได้ง่าย การควบคุมน้ำหนักจึงช่วยลดแรงตึงบนผิวหนัง
โดยทั่วไปแล้ว ผิวบริเวณหน้าท้องจะค่อยๆ กระชับขึ้นหลังจากการคลอดบุตร และรอยแตกลายที่มีอยู่ก็จะจางลงตามเวลา อย่างไรก็ตาม รอยแตกลายมักจะไม่หายไปอย่างสมบูรณ์ การเริ่มต้นดูแลและป้องกันผิวแตกลายตั้งแต่เนิ่นๆ ระหว่างตั้งครรภ์จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณแม่มีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมในการดูแลผิวพรรณในช่วงตั้งครรภ์และหลังคลอด ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพผิวและสุขภาพของแต่ละบุคคลค่ะ
ที่มา : โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ สมุย , pobpad
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
10 ผ้ารัดหน้าท้องหลังคลอด ช่วยพยุงหลังและคืนเอวสับให้แม่หลังคลอด
หลังคลอดพุงไม่ยุบ ทำไงดี? เคล็ดลับ ลดหน้าท้องหลังคลอด คืนหุ่นสวยให้คุณแม่