กระตุ้นลูกให้ฉลาดตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ด้วย 7 เคล็ดลับที่ต้องทำก่อนคลอด
รศ.นพ.วิทยา ถิฐาพันธ์ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวถึงการกระตุ้นพัฒนาการสมองของลูกน้อยตั้งแต่อยู่ในครรภ์ด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่มีการกล่าวอ้างกัน ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดว่ามีประโยชน์จริงหรือไม่และวิธีการใดเป็นวิธีการที่ดีที่สุด เพียงแต่มีข้อสังเกตว่าทารกจำนวนไม่น้อยที่ได้รับการกระตุ้นพัฒนาการตั้งแต่อยู่ในครรภ์มีสติปัญญาดี เลี้ยงง่าย อารมณ์ดี ดังนั้นสำหรับคุณแม่ที่อยากจะช่วยกระตุ้นให้สมองของลูกมีการพัฒนาที่ดี มีหลากวิธีช่วยในการ กระตุ้นลูกให้ฉลาดตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ดังนี้
1. ทำอารมณ์แม่ให้ดีเสมอ
จากการศึกษาทางการแพทย์พบว่าคุณแม่ที่อารมณ์ดีอยู่เสมอ จะทำให้ร่างกายมีการหลั่งสารแห่งความสุขที่เรียกว่า เอนดอร์ฟินออกมาผ่านทางสายสะดือไปยังลูก ทำให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีทั้งสมองและอารมณ์ ในทางตรงกันข้ามคุณแม่ที่มีอารมณ์ขี้หงุดหงิด โมโหง่าย ร่างกายจะหลั่งสารแห่งความเครียดที่เรียกว่าอะดรีนาลินออกมาผ่านไปยังลูกเช่นกัน ซึ่งจะจะส่งผลให้ลูกคลอดออกมาเป็นเด็กที่งอแง เลี้ยงยาก และอาจมีพัฒนาการช้าได้
2. ให้ลูกในครรภ์ได้ฟังเพลง
ระบบประสาทการรับฟังของลูกน้อยในครรภ์จะเริ่มทำงานตั้งแต่อายุครรภ์ประมาณ 5 เดือน การใช้เสียงกระตุ้นจะทำให้เครือข่ายใยประสาทที่ทำงานเกี่ยวกับการได้ยินของลูกมีพัฒนาการดีขึ้น และเสียงที่ดีที่ใช้ในการกระตุ้นก็คือ เสียงเพลง ซึ่งเป็นเพลงอะไรก็ได้ที่คุณแม่ชอบฟัง โดยเปิดเสียงเพลงให้อยู่ห่างจากหน้าท้องประมาณ 1 ฟุต และเปิดเสียงดังพอที่คิดว่าลูกในครรภ์จะได้ฟังเพลงไปด้วย การให้ลูกในท้องได้ฟังเสียงเพลง คลื่นเสียงจะไปกระตุ้นให้ระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับการได้ยินมีการพัฒนาระบบการทำงานได้เร็วขึ้น เมื่อลูกคลอดออกมาจะมีความสามารถในการจัดลำดับความคิดในสมอง และจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้ดี
3. พูดคุยกับลูกในครรภ์บ่อย ๆ
การส่งเสียงผ่านไปถึงลูกในครรภ์จะช่วยให้ระบบประสาทและสมองที่ควบคุมการได้ยินมีพัฒนาการที่ดีและเตรียมพร้อมสำหรับการได้ยินหลังคลอด คุณแม่ควรพูดกับลูกบ่อย ๆ ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ประโยคซ้ำ ๆ เพื่อให้ลูกคุ้นชิน อย่างการเล่านิทาน หรือเล่าว่าวันนี้คุณแม่ได้ทำอะไรมาบ้าง เป็นเรื่องที่บ่งบอกถึงความสุขในขณะตั้งท้องลูก และไม่ควรพูดถึงเรื่องเศร้า ๆ หรือทุกข์ใจ เพราะจะทำให้ทั้งคุณแม่และลูกในครรภ์เครียดตั้งแต่อยู่ในท้อง
4. ลูบหน้าท้อง
การลูบหน้าท้องจะกระตุ้นระบบประสาทและสมองส่วนรับรู้ความรู้สึกของลูกให้มีพัฒนาการดีขึ้น การลูบท้องควรลูบเป็นวงกลม จะจากบนลงล่างหรือจากล่างขึ้นบน บริเวณไหนก่อนก็ได้
Read : แม่จ๋ารู้ไหม!!!ลูบท้องกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์
5. ส่องไฟกระตุ้นที่หน้าท้อง
เมื่ออายุครรภ์เข้าสู่เดือนที่ 7 คุณแม่สามารถใช้ไฟฉายส่องแสงไฟไปที่หน้าท้อง ลูกน้อยในครรภ์จะสามารถกะพริบตาเพื่อตอบสนองต่อแสงไฟ การส่องไฟที่หน้าท้องจะทำให้เซลล์สมองและเส้นประสาทส่วนรับภาพและการมองเห็นมีพัฒนาดีขึ้นและเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการมองเห็นของลูกน้อยหลังคลอดด้วย
Read : ไฟฉายส่องท้องกระตุ้นพัฒนาการด้านการมองเห็น
6. ออกกำลังกายช่วยกระตุ้น
เวลาที่คุณแม่ออกกำลังกาย ลูกในครรภ์จะมีการเคลื่อนไหวตามไปด้วย ผิวกายของลูกจะไปกระแทกกับผนังด้านในของมดลูก ผลดังกล่าวจะไปกระตุ้นระบบประสาทสัมผัสของลูกให้พัฒนาดีขึ้น แต่ควรออกกำลังกายให้เหมาะสมและไม่หักโหมจนเกินไปนะคะ
7. เลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม
เนื้อสมองของลูกน้อยในครรภ์มีองค์ประกอบเป็นไขมัน โดยเฉพาะไขมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเป็นองค์ประกอบถึงร้อยละ 60 และกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่มีความสำคัญต่อพัฒนาการสมองของลูกน้อยในครรภ์ คือกรดไขมันที่มีชื่อว่า ดีเอชเอ ซึ่งมีมากในอาหารพวกปลาทะเลและสาหร่ายทะเล เออาร์เอ ซึ่งมีมากในอาหารพวกน้ำมันพืช เช่น น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันเมล็ดทานตะวัน และน้ำมันข้าวโพด ดังนั้นการได้รับประทานอาหารที่มีสารอาหารดังกล่าวเพียงพอ จะทำให้ลูกน้อยในครรภ์ได้รับวัตถุดิบที่มีคุณภาพดีในการสร้างเนื้อสมองและระบบเส้นใยประสาทให้มีคุณภาพดีตามไปด้วย
แหล่งที่มา : www.thaihealth.or.th
เมื่อหลังคลอดใหม่ๆ ขอแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ยังคงหาวิธีกระตุ้นสมองสำหรับลูกๆ แรกเกิดด้วยนะคะ จะเป็นอย่างไรบ้าง ตามไปอ่านกันได้เลยค่ะ
วิธีกระตุ้นสมองทารกแรกเกิด
สมองของเด็กเล็กมีพัฒนาการอย่างรวดเร็วในช่วงอายุ 5 ขวบปีแรก โดยเฉพาะสามปีแรกมีความสำคัญมากที่สุด เนื่องจากเป็นช่วงที่มีการพัฒนาความรู้ทางด้านสังคม อารมณ์ และการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรวดเร็ว เช่น เด็กจะเรียนรู้คำศัพท์ในช่วงประมาณ 15-18 เดือน และจะมีการเรียนรู้คำศัพท์อย่างรวดเร็วไปจนถึงก่อนวัยเรียน มาดู วิธีกระตุ้นสมองทารกแรกเกิด กันดีกว่าค่ะ
สมองของลูกน้อยพัฒนาขึ้นได้อย่างไร
สมองของลูกน้อยจะมีการเจริญเติบโตขึ้นไปตามสิ่งที่เขารู้สึก ได้กลิ่น ได้ยิน หรือแม้แต่การรับรส เนื่องจากทุกครั้งที่เด็กใช้ประสาทสัมผัสหนึ่งอย่าง จะมีการเชื่อมต่อประสาทในสมองของเด็กไปด้วย เมื่อเด็กเกิดประสบการณ์ใหม่ๆ ซ้ำๆ หลายครั้งเข้า ก็จะทำให้เกิดการสร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆ ที่ก่อให้เกิดความรู้สึก และการเรียนรู้
วิธีช่วยให้พัฒนาการทางสมองของเด็ก
ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างพ่อแม่กับลูกน้อย เป็นวิธีการที่ดีที่สุดที่ช่วยในการบำรุงสมองของทารกให้มีพัฒนาการที่ดีขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่พ่อแม่ร้องเพลง เล่นกับลูก อ่านหนังสือ หรือแม้แต่เล่านิทานให้ลูกน้อยฟัง พร้อมๆ กับดูแลเรื่องสุขภาพและอาหารหารกินก็ช่วยได้มากค่ะ การที่พ่อแม่มอบความรักให้แก่ลูกน้อย จะช่วยให้สมองของทารกเจริญเติบโตได้ดี หากลูกน้อยมีสุขภาพที่ดี มีปฎิสัมพันธ์กับพ่อแม่อย่างต่อเนื่องภายใต้สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย จะส่งผลต่อศักยภาพที่ดีของเด็กในอนาคตได้เป็นอย่างมาก
สำหรับในช่วงขวบปีแรก พ่อแม่อาจแสดงความรักต่อลูกน้อยด้วยการโอบกอดบ่อยๆ และพูดคุยเป็นประจำเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของสมอง และส่งเสริมพัฒนาการทางด้านอารมณ์ เนื่องจากการที่เด็กได้อยู่ใกล้แม่ และไม่รับการโอบกอดระหว่างที่แม่ให้นม จะทำให้ลูกน้อยรู้สึกถึงความมั่นคงทางด้านอารมณ์ค่ะ
หากลูกร้องไห้โยเยบ่อยๆ ในช่วงแรกคุณแม่ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะเด็กเพียงแค่ต้องการที่จะสื่อสารกับคุณเท่านั้น และหากคุณรู้สึกว่าลูกร้องไห้เมื่อไหร่ก็ให้อุ้มลูกขึ้นมา และพูดคุยกับเขา เพื่อให้ลูกสงบและเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับพวกเขาด้วย
พ่อแม่เลี้ยงลูกอย่างใกล้ชิดดีอย่างไร
การสร้างความผูกพันที่ดีระหว่างพ่อแม่และลูกอย่างแนบชิด จะช่วยให้ลูกน้อยสามารถพัฒนาความสามารถที่หลากหลายได้ ทั้งยังเป็นการเสริมสร้างทักษะที่ดีไปตลอดชีวิต โดยพัฒนาการเหล่านั้น ได้แก่
- การเรียน
- ความมั่นใจในตนเอง และความภูมิใจในตนเอง
- มีทักษะทางสังคมในเชิงบวก
- มีความสัมพันธ์ที่ดีที่อาจช่วยให้ประสบความสำเร็จในอนาคต
- มีพัฒนาการทางด้านความรู้สึก การเอาใจใส่
The Asianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งาน เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว
การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง
เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
10 วิธีกระตุ้นพัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจให้ลูกในท้อง
วิธีทำให้ลูกดิ้น กระตุ้นลูกน้อยในครรภ์
ท้องเล็ก น้ำหนักขึ้นน้อย ลูกในท้องไม่โตหรือเปล่า
วิธีเล่นกับลูก เพื่อกระตุ้นพัฒนาการทารก ให้ฉลาด หัวไว เล่นได้เล่นดี ไม่ต้องใช้ของเล่น
เลี้ยงลูกแบบธรรมชาติ ช่วยกระตุ้นพัฒนาการให้รุดหน้าจริงหรือ?
วิธีกระตุ้นสมองทารกแรกเกิด เคล็ดลับความฉลาดของเด็กที่พ่อแม่ช่วยได้!