ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บ้าน มีอะไรบ้าง ต้องทำยังไงบ้าง ?

ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บ้าน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ขั้นตอนในการ รีไฟแนนซ์บ้าน มีอะไรบ้าง?

เป็นความจริงที่ว่าการรีไฟแนนซ์บ้านจะทำให้เราประหยัดเงินจากดอกเบี้ยได้เป็นแสน แต่ก็ยังมีคนที่ทำการรีไฟแนนซ์บ้านอยู่น้อยมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพราะว่าไม่รู้ว่าการรีไฟแนนซ์ทำอย่างไร ทำให้เสียโอกาสที่จะผ่อนบ้านหมดเร็วขึ้นในที่สุด

รีไฟแนนซ์บ้านต้องเริ่มจากอะไร?

สิ่งแรกที่ทุกคนที่คิดจะรีไฟแนนซ์บ้านต้องทำก็คือ ตรวจสอบสัญญากู้ของตัวเอง ว่ารีไฟแนนซ์ได้เมื่อไหร่ โดยส่วนมากสัญญากู้จะอนุญาตให้เรารีไฟแนนซ์บ้านไปธนาคารอื่น (บางธนาคารใช้คำว่า ไถ่ถอน) หลังจากผ่อนมาแล้ว 3 ปี

คำแนะนำคือ คุณสามารถทำเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารใหม่ได้ตั้งแต่ก่อนผ่อนครบ 3 ปี เพราะธนาคารใหม่ต้องใช้เวลาพิจารณา ประเมินราคา และทำเรื่องอนุมัติสินเชื่อ คุณจึงสามารถยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารใหม่ได้ตั้งแต่ 1-2 เดือนก่อนครบสัญญา

เลือกธนาคารที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง

การรีไฟแนนซ์บ้านนั้นมีมากกว่า 100 โปรโมชั่นให้เลือก ถ้าเลือกดีๆ ได้ตัวที่ดอกเบี้ยถูกที่สุด จะประหยัดดอกเบี้ยได้หลักแสน แต่ถ้าโชคไม่ดีไปเลือกตัวที่ดอกเบี้ยไม่ได้ถูกมาก จะประหยัดได้หลักพันบาทเท่านั้น

ขอแนะนำเว็บไซต์ Refinn ที่เป็นตัวช่วยคำนวณและเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้าน จาก 15 ธนาคารชั้นนำ โดยสามารถเข้าไปดูที่ www.refinn.com ได้เลยครับ และสำหรับคนที่สนใจให้ Refinn ช่วยดำเนินการรีไฟแนนซ์ ด้วยการเดินเรื่องและประสานงานกับธนาคารก็สามารถสมัครรีไฟแนนซ์บ้านผ่าน Refinn ได้ฟรี ไม่มีค่าบริการครับ

เตรียมเอกสารประกอบการยื่นรีไฟแนนซ์

เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการยยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้าน มีทั้งหมด 3 ประเภท

  1. เอกสารแสดงข้อมูลส่วนบุคคล เช่น บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน
  2. เอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน สำเนาเดินบัญชีธนาคารย้อนหลัง
  3. เอกสารด้านหลักประกัน เช่น โฉนดที่ดิน สัญญาเงินกู้ธนาคารเดิม

แต่ก็จะมีแตกต่างกันไปแล้วแต่ธนาคารที่เราไปรีไฟแนนซ์ มีรายละเอียดเพิ่มเติมในบทความเอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการรีไฟแนนซ์บ้าน

ยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่

ปกติแล้วหลังจากที่ยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์พร้อมส่งเอกสารเรียบร้อย ธนาคารจะทำการนัดหมายเพื่อส่งคนมาประเมินราคาหลักประกัน และใช้เวลาพิจารณาอนุมัติประมาณ 2-4 สัปดาห์ แนะนำให้ยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์ก่อนผ่อนครบ 3 ปี ได้เลย จะได้พอดีกัน

 

ถ้าธนาคารเก่าจะลดดอกเบี้ยให้ ควรอยู่ที่เดิมหรือรีไฟแนนซ์ดี

เวลาไปขอลดดอกเบี้ยจากธนาคารเดิม เค้าจะลดให้นิดเดียวเท่านั้น จากปัจจุบันดอกเบี้ย 7.7% จะลดดอกเบี้ยให้เหลือ 5.5% ทั้งๆ ที่ธนาคารใหม่ที่ผมจะรีไฟแนนซ์ ดอกเบี้ย 2.90% เพราะธนาคารเดิมจะบอกว่าถ้ารีไฟแนนซ์ไปที่ใหม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ถ้าลองคำนวณดูจะพบเลยว่า ค่าใช้จ่ายนิดเดียวแต่ประหยัดกว่าเดือนละหลายพัน รีไฟแนนซ์จึงคุ้มกว่ามากครับ (สามารถอ่านบทความที่ผมคำนวณเปรียบเทียบให้เห็นชัดๆ ได้ที่บทความรีไฟแนนซ์ กับ ลดดอกเบี้ยธนาคารเดิม แบบไหนคุ้มกว่ากัน?)

 

สอบถามยอดหนี้คงเหลือ และนัดวันไถ่ถอนจากธนาคารเก่า

เมื่อได้รับการอนุมัติจากธนาคารใหม่แล้ว เจ้าหน้าที่ธนาคารจะแจ้งให้เราไปสอบถามยอดหนี้คงเหลือและนัดวันไถ่ถอนจากธนาคารเก่า เพื่อให้ธนาคารใหม่และธนาคารเก่าสามารถโอนหนี้ให้กันได้อย่างถูกต้อง

 

ไปทำสัญญาและจดจำนองที่กรมที่ดิน

เพื่อให้ไม่เป็นการรบกวนเวลาลูกค้ามากจนเกินไป เจ้าหน้าที่จากธนาคารใหม่จะถือสัญญาไปให้เซ็นที่กรมที่ดิน พร้อมๆกับการไปทำสัญญาจำนองที่กรมที่ดินในวันเดียวกันเลย เพื่อความสะดวกของทางลูกค้าเอง

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?

การรีไฟแนนซ์บ้านจะมีค่าใช้จ่ายหลักๆอยู่ 5 อย่าง คือ

  1. ค่าประเมินราคา ประมาณ 2-3 พันบาท (โปรโมชั่นบางธนาคาร ฟรีค่าประเมินราคาครับ)
  2. ค่าจดจำนอง จ่ายให้กรมที่ดิน 1% ของวงเงินกู้ (โปรโมชั่นบางธนาคาร ฟรีค่าจดจำนองครับ)
  3. ค่าอากรแสตมป์ 0.05% ของวงเงิน
  4. ค่าธรรมเนียมอื่นๆ ของธนาคาร เช่น ค่าธรรมเนียมสินเชื่อ
  5. ประกันอัคคีภัย (ซึ่งประกันอัคคีภัย ถึงเราไม่ได้รีไฟแนนซ์ ก็ต้องทำทุก 1-3 ปี ตามกฎหมายครับ)

ซึ่งหลายๆ ธนาคารก็ออกมาแข่งกันฟรีค่าธรรมเนียมเหล่านี้ เพื่อดึงดูดลูดค้า และมีการอัพเดทอยู่บ่อยๆ หากต้องการเช็คโปรโมชั่นล่าสุด ว่าแต่ละธนาคารให้ดอกเบี้ยเท่าไหร่และฟรีค่าธรรมเนียมอะไรบ้าง สามารถเข้าไปดูที่ www.refinn.com

ที่มา : www.refinn.com

 

The Asianparent Thailand เพื่อลงทะเบียนรับการดูแลตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ ช่วงไตรมาสแรกมาติดตามพัฒนาการของลูกอย่างใกล้ชิด ลูกโตขึ้นแค่ไหนกันนะ ไตรมาสที่ 2 มาฟังเสียงลูกน้อย นับว่าหนึ่งวันลูกดิ้นไหมนะ และลูกดิ้นวันละกี่ครั้งด้วยแอพพลิเคชั่น The Asianparent  นี่เป็นแค่ตัวอย่างกิจกรรมบนแอพพลิเคชั่นในส่วนแรก เพราะคุณแม่จะได้รับการดูแลทั้งอาหารการกินโดยการออกแบบจากผู้เชี่ยวชาญว่าควรทานอะไรบ้างในแต่ช่วงอายุครรภ์ ยาที่เป็นอันตรายชนิดไหนบ้างที่ไม่ควรทาน กิจกรรมใดบ้างที่ทำได้หรือทำไม่ได้ เคล็ดลับการตั้งชื่อลูกอย่างไรให้เป็นมงคลทั้งเด็กหญิงและเด็กชาย รวมถึงเตรียมแผนการล่วงหน้าถึงอนาคต การเตรียมคลอด การดูแลตนเองหลังคลอด ที่ครอบคลุมทุกช่วงเวลาที่คุณแม่ต้องการ

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ซื้อบ้านแถมเมีย มันยังไงกันเนี่ย เรื่องจริงสุดแปลกที่ไม่น่าเชื่อ

วิธีสร้างวินัยให้กับลูก ง่าย ๆ ด้วยงานบ้าน สร้างวินัยแถมเสริมความมั่นใจอีกด้วย

ปรับสมดุลให้ชีวิต ตอบโจทย์ ครอบครัววิถีใหม่ ณ บ้านเลขที่ 1 ถนนวิทยุ คอนโดฯ ใจกลางย่านธุรกิจ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

@GIM