ปรับการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเด็กแบบเดิม ส่งเสริมการเรียนรู้ใหม่ๆ ด้วยทฤษฎี Learning by Doing

Learning by Doing การเรียนการสอนที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านการลงมือทำ ในสภาพแวดล้อมจริง เพื่อค้นหาความชื่นชอบและความถนัดของตนเอง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ในปัจจุบันที่การเรียนการสอนแค่ในห้องเรียน ไม่สามารถตอบโจทย์การเรียนรู้ใหม่ๆ ที่เด็กต้องเจอจากนอกห้องเรียน การนำทฤษฎี Learning by Doing มาปรับและประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอน นอกจากจะช่วยให้เด็กเกิดทักษะและได้รับองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่อยู่นอกเหนือจากตำราเรียนแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ที่เด็กสามารถนำไปปรับใช้กับการเรียนได้ในระยะยาวและในชีวิตประจำวัน วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ Learning by Doing รูปแบบการเรียนการสอนที่จะมาเปลี่ยนการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเด็กอนุบาลที่แสนน่าเบื่อ ให้กลายเป็นมากกว่าการเรียนภาษาอังกฤษทั่วไป จะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลย!

Learning by Doing คืออะไร

Learning by Doing คือรูปแบบการสอนที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านการลงมือทำ ผ่านการทำกิจกรรม การลงปฏิบัติในสภาพแวดล้อมจริง ไม่ว่าจะเป็นการฝึกคิดวิเคราะห์ ฝึกลงมือปฏิบัติ ฝึกทักษะต่างๆ รวมไปถึงการค้นคว้าในสิ่งที่ตนเองสนใจและถนัด ซึ่งโดยทั่วไปประสบการณ์ต่างๆ ที่มนุษย์ต้องเจอจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ขั้นปฐมภูมิ คือประสบการณ์ใหม่ที่เรายังไม่เคยได้เจอและได้เรียนรู้ และขั้นทุติยภูมิ คือประสบการณ์ที่เราได้เกิดการเรียนรู้แล้ว โดยประสบการณ์ในขั้นปฐมภูมินี้เองจะเป็นรากฐานสำคัญของประสบการณ์ทุติยภูมิต่อไป ซึ่งทฤษฎี Learning by Doing เป็นการเรียนที่ยึดมั่นและตั้งอยู่บนพื้นฐานของหลักการนี้ เพราะเชื่อว่าการที่เด็กๆ ได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์และการไตร่ตรองภายในสภาพแวดล้อมจริง จะช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ จนทำให้โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษเด็กอนุบาลหลายๆ ที่นำหลักการนี้มาใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้นนั่นเอง

 

 

องค์ความรู้แบบ Learning by Doing สร้างได้อย่างไร

เราอาจจะเคยชินกับการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเด็กอนุบาลแบบทั่วไป ที่ต้องอยู่ในห้องเรียนที่มีพื้นที่จำกัดจำเจและสภาพแวดล้อมเดิมๆ ไม่เอื้อต่อการเรียนรู้ประสบการณ์และความรู้ใหม่ แต่การเรียนรู้แบบ Learning by Doing นั้นเป็นรูปแบบการเรียนรู้ภายใต้สภาพแวดล้อมจริง เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการคิดไตร่ตรอง ลงมือปฏิบัติ และเรียนรู้จากข้อผิดพลาดต่างๆ ผ่านประสบการณ์ของตนเอง โดยสามารถเปลี่ยนบรรยากาศการเรียนภาษาอังกฤษเด็กทั่วไป ให้กลายเป็นการเรียนแบบ Learning by Doing ได้ ตาม 4 ขั้นตอนต่อไปนี้ 

  • การสำรวจ (Explore) คือการสำรวจการเปลี่ยนแปลงในแต่ละวัน สำรวจความสนใจต่อสิ่งรอบตัวต่างๆ
  • การทดลอง (Experiment) เมื่อผ่านการสำรวจแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการทดลอง การลองผิดลองถูก เรียนรู้จากข้อผิดพลาด เพื่อให้เกิดเป็นความเข้าใจในระหว่างขั้นตอนการเรียนรู้
  • การเรียนรู้จากการกระทำ (Learning by Doing) เมื่อสำรวจและทดลองแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการลงมือปฏิบัติจริง โดยการรวบรวมองค์ความรู้จากขั้นตอนก่อนหน้ามาปรับใช้จริง
  • การกระทำเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ (Doing by Learning) เป็นขั้นตอนที่นำองค์ความรู้ที่ได้มาต่อยอดให้เกิดการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ต่อไป เป็นต้น

เปลี่ยน Learning by Doing ให้กลายเป็นการเรียนรู้ที่เห็นผลจริง

สำหรับผู้สอนหรือคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการให้ลูกหลานเรียนรู้โดยใช้หลักการ Learning by Doing แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะปรับและสอดแทรกให้เข้ากับกิจวัตรของเด็กๆ ได้อย่างไร ลองทำตามวิธีเหล่านี้ได้เลย

  • ฝึกทักษะการสื่อสารและจัดการอารมณ์ด้วยการเล่นเกม

การเล่นเกมเป็นอีกหนึ่งวิธีการเรียนรู้ที่สามารถช่วยให้ผู้เรียนมีการเรียนรู้แบบ Learning by Doing ได้ เช่น เกมเกี่ยวกับการสื่อสาร หรือเกมที่เกี่ยวกับการแสดงอารมณ์ ซึ่งการนำเกมมาปรับใช้กับการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเด็กอนุบาล จะช่วยฝึกให้เด็กเป็นผู้ฟังมากขึ้น ฝึกกระบวนการคิดและการสื่อสาร รวมไปถึงการจดจำคำศัพท์ต่างๆ อีกทั้งยังเป็นการช่วยฝึกการจัดการอารมณ์ตนเอง เพื่อที่เมื่อไปเจอกับสังคมภายนอก เด็กจะนำประสบการณ์ที่ได้รับจากที่เรียน ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้นั่นเอง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • การทำกิจกรรมกลางแจ้งและการเคลื่อนไหว

การขยับเคลื่อนไหวร่างกายหรือการทำกิจกรรมกลางแจ้งภายใต้สภาพแวดล้อมต่างๆ นับเป็นกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้นอกห้องเรียนที่มีประสิทธิภาพอีกรูปแบบหนึ่ง เหมาะอย่างยิ่งกับผู้เรียนที่กำลังอยู่ในช่วงวัยที่จดจ่อกับการเล่นและการทำกิจกรรม เช่นเดียวกับการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเด็กอนุบาล ที่การเรียนรู้เพียงครั้งเดียวยังไม่สามารถวัดระดับทักษะความสามารถได้ แต่การทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้เด็กเรียนรู้ถึงข้อผิดพลาด พยายามฝึกฝน และแก้ไขข้อพร่องด้วยการลองทำใหม่ซ้ำๆ จนประสบผลสำเร็จได้ เช่น การเล่นกีฬา การออกกำลังกาย กิจกรรมผจญภัยผ่านฐานต่างๆ เป็นต้น

  • การทำเวิร์กช็อป เรียนรู้และสำรวจความสนใจใหม่ๆ

การทำเวิร์กช็อปเพื่อสำรวจเรื่องราวหรือสถานที่ใหม่ๆ เป็นรูปแบบของ Learning by Doing อย่างหนึ่ง ที่จะช่วยให้ผู้สอนและผู้ปกครองรู้ถึงความสนใจของเด็กที่มีต่อสิ่งรอบข้าง นอกเหนือจากเนื้อหาและความรู้ในตำราเรียน เช่น การทำเวิร์กช็อปสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ การถ่ายภาพ ทำของ D.I.Y การทัศนศึกษานอกห้องเรียน เป็นต้น นอกจากกิจกรรมประเภทนี้จะช่วยให้เด็กๆ ได้ลองลงมือทำปฏิบัติจริงแล้ว ยังทำให้เด็กได้ใกล้ชิดกับผู้คนที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวอย่างลึกซึ้ง เกิดการตอบโต้ ได้รับปฏิสัมพันธ์ใหม่ๆ รวมถึงได้รับมีมุมมองที่แตกต่างจากการเรียนในห้องเรียน อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่มากกว่าการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเด็กอนุบาลแบบเดิมๆ ได้เป็นอย่างมาก

Speak Up Language Center โรงเรียนสอนภาษาสำหรับเด็ก ผ่านแนวทาง Learning by Doing

Speak Up Language Center เป็นโรงเรียนสอนภาษาสำหรับเด็ก ตั้งแต่อายุ 2.5 – 12 ปี ที่มีการนำทฤษฎี Learning by Doing มาปรับใช้กับการเรียนการสอนทั้งหลักสูตรภาษาจีนและภาษาอังกฤษ  เพื่อให้เด็กได้ลงมือทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง ภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีการดูแลของผู้สอนมากประสบการณ์ ช่วยให้เด็กได้เรียนรู้จากสิ่งที่ชอบและสนใจ เกิดประสบการณ์ใหม่ๆ ส่งเสริมกระบวนการคิดวิเคราะห์ และแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสม สามารถนำองค์ความรู้ที่ได้ไปปรับใช้กับการเรียนรู้ในอนาคตและในชีวิตประจำวันได้อย่างดี 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

สนใจเรียนกับ Speak Up Language Center ติดต่อได้ที่

Facebook: Speak Up Language Center

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

Line ID : @speak_up 

Tel : 099-412-7555

บทความโดย

theAsianparent Editorial Team