6 ปีแรกของเด็กเป็นวัยที่มีความสำคัญอย่างมากในการปูพื้นฐานพัฒนาการในทุก ๆ ด้านให้กับลูกน้อย ทั้งทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา โดยเฉพาะพัฒนาการทางสมอง คุณแม่ที่อยากให้ลูกฉลาด เรียนเก่ง อาจหาสารพัดของเล่นหรือเกมพัฒนาสมองมาให้ลูกเล่น หาหนังสือดี ๆ มาให้ลูกอ่าน หรือส่งลูกไปเข้าคอร์สพัฒนาไอคิวตั้งแต่ยังเล็ก
แต่ถ้าอยากให้ลูกเก่งรอบด้าน ปรับตัวได้ดีแม้ในสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ ที่ไม่คุ้นเคย เอาตัวรอดและตอบโต้สถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างฉับไว การส่งเสริมประสาทสัมผัสทั้ง 7 เป็นสิ่งจำเป็น เพราะการที่ได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ของเขาเอง คือการเรียนรู้ที่ดีที่สุด ที่จะทำให้เด็กสามารถรับรู้ข้อมูล นำมาประมวลผล และตัดสินใจได้อย่างฉับไว ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ขึ้นกับไอคิวของเด็ก
ประสาทสัมผัสทั้ง 7 คือคำตอบของเด็กเก่งรอบด้าน
ดร.วสุนันท์ ชุ่มเชื้อ หัวหน้าหน่วยวิจัยคลินิกคอกนิทีฟ ศูนย์วิจัยวิชาการด้านพัฒนาการมนุษย์ สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ได้แนะเคล็ดลับสู่การเป็นเด็กเก่งรอบด้านไว้ว่า นอกจากการเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 อันได้แก่ 1. การสัมผัส 2. การมองเห็น 3. การได้ยิน 4. การได้กลิ่น และ 5. การรับรสแล้ว เด็กยังต้องการการกระตุ้นประสาทสัมผัสด้านที่ 6 และ 7 ซึ่งได้แก่ การทรงตัว และการรับรู้ตำแหน่งบนร่างกายอีกด้วย
การทรงตัวเป็นสิ่งสำคัญในการรับรู้ความสัมพันธ์ของร่างกาย การประสานกันระหว่างการเคลื่อนไหวของศีรษะและดวงตาได้ดี เช่น สามาถคัดลอกจากกระดานดำได้ สามารถรักษาสมดุลการเคลื่อนไหวในอิริยาบถต่าง ๆ ได้ด้วยการทรงตัวที่มั่นคง คุณแม่สามารถส่งเสริมลูกเพื่อพัฒนาประสาทสัมผัสด้านการเคลื่อนไหวและการทรงตัวผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การกระโดด การนอนกลิ้ง และการยืนบนกระดานทรงตัว
การรับรู้ตำแหน่งบนร่างกาย ประสาทสัมผัสด้านนี้จะช่วยให้ลูกสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายได้ดีโดยไม่ต้องอาศัยการมองเห็น สามารถกะระยะได้อย่างแม่นยำ และวางแผนการเคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่น คุณแม่สามารถส่งเสริมการใช้ประสาทสัมผัสด้านการรับรู้ตำแหน่งบนร่างกายได้ ผ่านกิจกรรมกระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง การคลาน และการผลักลูกบอล
การบูรณาการประสาทสัมผัสทั้ง 7 ด้านเข้าด้วยกันมีผลดีต่อพัฒนาการทางสมองของลูกอย่างมาก เพราะจะช่วยส่งเสริมทักษะให้เด็กมีความความสามารถหลากหลายรอบด้าน ผ่านกิจกรรมที่เขาได้เคลื่อนไหวร่างกาย ทั้งยังทำให้สมองนำข้อมูลที่ร่างกายได้รับมาประมวลผลและจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เด็กจึงมีกระบวนการรู้คิด และตัดสินใจต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างฉับไวและเหมาะสม และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพนั้นเอง