พิสูจน์มาแล้ว ลูกฉลาด ได้มาจากสติปัญญาแม่มากกว่าพ่อ!

เวลาลูกฉลาดทำอะไรได้ดี มีรางวัล ถือเป็นความภาคภูมิใจของพ่อแม่ที่สุด จนบางครั้งพ่อแม่แอบมานั่งอวดกันเล่น ๆ ว่าที่ลูกฉลาดนี้มาจากตัวเองแน่นอน แต่วันนี้มีข้อพิสูจน์จากนักวิทยาศาสตร์มาแล้วว่า ลูกฉลาดนั้นได้มาจากแม่เป็นเรื่องจริง!

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

มีผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์กล่าวถึง ความฉลาดของคนเรานั้น 50-60% มีผลมาจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม และโอกาสที่ ลูกฉลาด นั้นก็มาจากยีนของแม่!

ลูกฉลาด ได้มาจากสติปัญญาจากแม่มากกว่าพ่อจริงหรือ ?

เหตุผลส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่า ยีนที่มีผลต่อความฉลาดของมนุษย์จะรวมกันอยู่ที่โครโมโซม X โดยเพศหญิงนั้นจะมีโครโมโซม X ถึงสองตัว ซึ่งมากกว่าเพศชายที่มีโครโมโซม X เพียงตัวเดียว นักวิจัยจึงระบุว่า พันธุกรรมของแม่นั้นเป็นตัวกำหนดความฉลาด และอาจสรุปได้ว่าระดับสติปัญญาความฉลาดของลูกนั้นมาจากทางแม่มากกว่าทางพ่อ ซึ่งงานวิจัยชิ้นล่าสุดของมหาวิทยาลัยกลาสโกว์ ก็ได้ออกมายืนยันแล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง!

โดยยีนความฉลาดที่ตกทอดจากแม่สู่ลูกจะพบได้มากในบริเวณ Cerebral Cortex (เปลือกสมอง) ซึ่งเป็นส่วนที่คอยสั่งการใช้ความคิดเชิงตรรกะ เช่น การเรียนรู้ภาษาหรือการวางแผน เมื่อเปรียบเทียบกับยีนที่ตกทอดมาจากพ่อแล้ว นักวิจัยพบว่าเซลล์ที่มียีนของพ่อในบริเวณระบบลิมบิค (Lymbic System) จะเป็นส่วนที่ทำงานเกี่ยวกับกลไกการสืบพันธุ์ อาหาร และความโกรธเกรี้ยว นอกเหนือจากนี้นักวิจัยระบุว่าเซลล์ของพ่อและของแม่นั้นไม่ใช่เฉพาะแตกต่างในด้านสติปัญญา แต่แตกต่างกันในด้านนิสัย การกิน ไปจนถึงความจำด้วย

อย่างไรก็ตาม พันธุกรรมไม่ใช่ปัจจัยกำหนดสติปัญญาเพียงอย่างเดียว เพราะ 40 -60 เปอร์เซ็นต์นั้น ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดูด้วย โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตันพบว่า ความสัมพันธ์ทางอารมณ์ระหว่างแม่กับลูก เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเติบโตของสมองบางส่วน เด็ก ๆ ที่อารมณ์ดี ได้รับความสุขจากแม่จะมีสติปัญญาที่ดีกว่าเด็กที่ไม่ได้รับความอบอุ่นจากแม่

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ความฉลาดที่ลูกจะได้รับจากแม่นั้นไม่ได้มาจากยีนทางกรรมพันธุ์เพียงอย่างเดียว แต่ความผูกพันแน่นแฟ้นระหว่างลูกกับแม่ ที่ทำให้ลูกมีความรู้สึกปลอดภัย ทำให้พวกเขามีความมั่นใจในการแก้ปัญหา และคุณแม่ที่ให้ความสนใจ ช่วยลูกแก้ปัญหา หรือมีส่วนแสดงความคิดเห็นกับลูก จะเป็นส่วนเพิ่มเติมศักยภาพและระดับสติปัญญาของลูกได้มากขึ้น

ถึงแม้จะมีข้อสรุปออกมาว่าลูกฉลาดเหมือนใคร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณพ่อจะไม่มีบทบาทสำคัญในการเลี้ยงลูกนะคะ เพราะบุคลิก พฤติกรรม นั้นเป็นพันธุกรรมที่ลูกจะได้จากยีนของพ่อเป็นหลัก ดังนั้นไม่ว่าลูกจะออกมาฉลาดเหมือนใครหรือมีพฤติกรรมแบบไหน การที่ลูกจะเติบโตมาเป็นคนที่ดีประสบความสำเร็จได้ ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ทั้งสองคนด้วยนะคะ

“ยีนการเรียนรู้” หรือ “ยีนความฉลาด” ซึ่งเป็นยีนที่ถูกถ่ายทอดทางพันธุกรรม และมีมาโดยกำเนิดตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา ยีนตัวนี้จะช่วยให้เด็กมีความกระตือรือร้นอยากที่จะเรียนรู้และสังเกตเรื่องราวรอบๆ ตัวอยู่เสมอ แต่ยีนเหล่านี้สามารถถูกเปิดหรือปิดได้หลังจากที่ลืมตาดูโลกมาแล้ว โดยมีปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อม การอบรมเลี้ยงดูประสบการณ์ต่างๆ ที่พบเจอ ที่จะส่งผลให้เกิดเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ดีและเป็นเด็กที่ฉลาดได้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ดร.เอมอร โคพีร่า ผู้อำนวยการศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพระดับยีน โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง กล่าวว่า จริง ๆ แล้วความฉลาดในเด็กสามารถเปลี่ยนแปลงได้ และเทคโนโลยีในปัจจุบันสามารถหาคำตอบจากยีนที่มีได้ว่า เด็กควรถูกส่งเสริมความฉลาดไปในแนวทางไหนให้ตรงกับยีนมากที่สุด ซึ่งความฉลาดของเด็กแต่ละคนจะมีอยู่ 3 ประเภทหลัก ได้แก่ ความฉลาดด้านการคำนวณ ความฉลาดด้านภาษา และความฉลาดด้านมิติความสัมพันธ์ สำหรับเด็กที่ไม่มียีนการเรียนรู้ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด แต่ในช่วงวัยเจริญเติบโต การเลี้ยงดูของพ่อแม่สามารถช่วยกระตุ้นเรื่องของพัฒนาการ ซึ่งจะทำให้ยีนที่เป็นกลไกทางเคมีทำให้สารพันธุกรรมมีการปรับเปลี่ยนทำให้เด็กมียีนการเรียนรู้ หรือ ยีนฉลาดขึ้นได้

ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่สามารถช่วยให้เด็กฉลาดได้ตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ โดยใช้วิธีจากการเจาะเลือด และนำเลือดไปแยกเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งในเซลล์เม็ดเลือดขาวจะมีนิวเคลียส มีโครโมโซม ที่สามารถนำเอาไปแยกเป็นยีนตัวต่างๆ แล้วทำการวิเคราะห์รหัสยีนที่ส่งผลต่อความฉลาดของเด็ก ทำให้รู้ว่าเด็กมียีนความฉลาดเด่นในด้านไหน เพื่อให้พ่อแม่ทราบว่า จะส่งเสริมหรือเตรียมความพร้อมให้กับอนาคตของลูกได้แบบไม่หลงทาง ตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ โดยกระบวนการวิเคราะห์ยีนนี้ ยังสามารถทราบแนวโน้มและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม อย่างธาลัสซีเมีย โรคโลหิตจาง โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว อัลไซเมอร์ สมาธิสั้น ออทิสติก และดาวน์ซินโดรม ได้อีกด้วย

“หลังจากกระบวนการวิเคราะห์เพื่อค้นหายีนความฉลาด เทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบันสามารถใช้วิธีการเปลี่ยนแปลงทาง Epigenetics เพื่อไปทำปฏิกิริยาระหว่างดีเอ็นเอ กับสารโมเลกุลเล็ก ๆ ในเซลล์ซึ่งสามารถกำหนดยีนให้ ทำงานหรือไม่ ทำงานได้ ซึ่งเป็นกลไกทางเคมีที่ทำให้ดีเอ็นเอเกิดการปรับเปลี่ยนได้ ยีนจะสามารถปรับเปลี่ยนให้มีการเรียนรู้และฉลาดขึ้นได้ แม้งานวิจัยพบว่า “ยีนความฉลาด” ถูกส่งผ่านไปยังเด็กจากโครโมโซม X หรือ โครโมโซมของแม่ อย่างไรก็ตาม สภาพแวดล้อม สังคมการเลี้ยงดูยังเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับเด็ก และแม้จะมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยกำหนดยีนเสริมสร้างความฉลาดของลูกตั้งแต่ในครรภ์ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการที่พ่อและแม่ต้องส่งเสริมพัฒนาการให้เหมาะสมตามช่วงวัยและกระตุ้นในสิ่งที่เด็กสนใจ เพื่อให้เป็นเด็กฉลาดสมวัย” ดร.เอมอร กล่าว

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ดร.เอมอร กล่าวว่า ไม่ว่าลูกของเราจะมียีนฉลาดหรือยีนการเรียนรู้อยู่ในตัวหรือไม่ ถ้าหากพ่อแม่ส่งเสริมพัฒนาการให้เหมาะสมตามช่วงวัยตั้งแต่ในครรภ์ จนกระทั่งออกมาสู่โลกภายนอก และ กระตุ้นในสิ่งที่ลูกชอบ ก็จะเกิดการพัฒนา และ นำไปสู่การเกิดกระบวนการเรียนรู้ที่ดี และ เป็นเด็กฉลาดสมวัย

theAsianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น theAsianparent Thailand ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งาน เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก theAsianparent Thailand เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”


credit content : www.independent.co.uk

บทความอื่นที่น่าสนใจ :

ลูกฉลาดได้ตั้งแต่เล็ก อยู่ที่พ่อแม่เล่นด้วยจริงหรือ?

กินอย่างไรให้ลูกฉลาด อยากให้ลูกเปรื่องปราด ต้องเลือกกินของพวกนี้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

Napatsakorn .R