ช้อปดีมีคืนปี 2566 ซื้ออะไรได้บ้าง มีเงื่อนไขอย่างไร เช็กได้ที่นี่!

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ช้อปดีมีคืน 2566 มาตรการลดหย่อนภาษี ที่รัฐบาลออกมา เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในไทย เห็นได้เกือบทุกปี อย่างเมื่อปีก่อน ก็ได้ออกมาเพื่อกระตุ้นไปแล้วหนึ่งครั้ง และล่าสุดก็กลับมาอีกครั้ง ประชาชนสามารถนำค่าใช้จ่าย จากการซื้อสินค้าหรือบริการ ที่เกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 66 ถึง 15 ก.พ. 66 มาลดหย่อนภาษีได้ใน 2566 ที่จะยื่นในช่วง ม.ค. – มี.ค. 2567 ที่จะถึงนี้ ซึ่งค่าบริการทั้งหมดที่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ คือ 40,000 บาท แต่จะมีเงื่อนไขอย่างไร และสามารถใช้ซื้อสินค้า หรือบริการประเภทไหนได้บ้าง มาศึกษารายละเอียดไปพร้อมกันค่ะ

 

 

เงื่อนไขช้อปดีมีคืน 2566

  • ต้องซื้อสินค้าหรือใช้บริการ จากร้านที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และสามารถออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปให้ได้เท่านั้น ยกเว้นการซื้อสินค้าโอทอป (OTOP) และหนังสือหรือ E-book ที่ใช้ใบเสร็จรับเงินได้ โดยระบุชื่อ-นามสกุลให้ชัดเจน
  • สินค้าและบริการที่จะใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ต้องเป็นสินค้าและบริการที่เสียภาษี VAT หากเป็นสินค้าที่ได้รับการยกเว้น จะไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
  • ต้องซื้อสินค้าหรือรับบริการ และจ่ายค่าสินค้าหรือค่าบริการนั้น ในระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2566
  • หากจ่ายค่าสินค้าในปี 2565 แต่ไปใช้บริการในวันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2566 จะไม่สามารถใช้สิทธิช้อปดีมีคืนได้ เพราะถือว่าไม่ได้ใช้จ่ายในช่วงเวลาที่กำหนด

 

ช้อปดีมีคืน 2566 ใช้ลดหย่อนภาษีอย่างไร

มาตรการช้อปดีมีคืน สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ต้องไม่เกินมูลค่า 40,000 บาท โดยแบ่งเป็น

  • ค่าซื้อสินค้า-บริการ จำนวน 30,000 บาทแรก : โดยออกใบกำกับภาษีแบบกระดาษ หรือใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่ออกผ่านระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ของกรมสรรพากร
  • ค่าซื้อสินค้า-บริการ อีกจำนวน 10,000 บาท : เฉพาะใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่ออกผ่านระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ของกรมสรรพากร

ข้อสำคัญคือหากค่าใช้จ่ายเกินยอดที่กำหนด อย่างไรก็จะใช้ลดหย่อนได้ตามที่กำหนดเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น ซื้อของรวม 35,000 บาท ได้รับใบกำกับภาษีทั้งหมด แต่ก็ใช้ลดหย่อนได้แค่ 30,000 บาท เท่านั้น

การซื้อสินค้าทั้งหมด 40,000 บาท ไม่ได้แปลว่าจะหักได้ทั้งหมด แต่จะใช้ลดหย่อนได้เท่านั้น ขึ้นอยู่กับฐานภาษีของตัวเอง ซึ่งต้องคำนวณจากเงินได้สุทธิที่เหลืออยู่ สามารถดูได้จากตารางนี้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

อัตราคืนภาษี ช้อปดีมีคืน 2566

เงินได้สิทธิต่อปี

ฐานภาษีเงินได้

เงินภาษีคืนสูงสุด

(กรณีใช้จ่ายครบ 40,000 บาท)

ไม่เกิน 150,000 บาท

ยกเว้นภาษี

0 บาท

150,001-300,000 บาท

5%

2,000 บาท

300,001-500,000 บาท

10%

4,000 บาท

500,001-750,000 บาท

15%

6,000 บาท

750,001-1,000,000 บาท

20%

8,000 บาท

1,000,001-2,000,000 บาท

25%

10,000 บาท

2,000,001-5,000,000 บาท

30%

12,000 บาท

5,000,001 บาทขึ้นไป

35%

14,000 บาท

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

 

ช้อปดีมีคืน 2566 เริ่มวันไหน ใช้ลดหย่อนภาษีปีไหน ?

มาตรการช้อปดีมีคืน 2566 เป็นการใช้จ่ายในช่วงวันที่ 1 ม.ค. – 15 ก.พ. 2566 เท่ากับว่าสามารถใช้ได้กับ การลดหย่อนภาษี 2566 หรือใช้ลดหย่อนพร้อมกับยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในช่วงต้นปี 2567 เท่านั้น ไม่ใช่ว่าซื้อของปุ๊บ แล้วจะใช้ยื่นภาษีในช่วงต้นปี 2566 ได้ทันที

แต่ถ้าหากว่าใครเคยใช้สิทธิช้อปดีมีคืน 2565 คือ ซื้อสินค้าในช่วงต้นปี 2565 แล้วยังเก็บใบเสร็จเอาไว้อยู่ สามารถนำมายื่นภาษี 2565 ในช่วงต้นปี 2566 เพื่อหักลดหย่อนภาษีได้เลย

บทความที่เกี่ยวข้อง : ตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับ โครงการช้อปดีมีคืน เช็คให้พร้อมก่อนยื่น ลดหย่อนภาษี

 

ผู้ที่สามารถใช้สิทธิ ช้อปดีมีคืนคือใคร

  • ผู้ที่ใช้สิทธิได้คือ บุคคลธรรมดาที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 2566 และต้องการนำค่าใช้จ่ายจากโครงการนี้ไปใช้ลดหย่อนภาษี 2566 ที่จะยื่นแบบในต้นปี 2567
  • ส่วนคนที่ไม่มีรายได้ หรือมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษี หรือมีรายได้ถึงเกณฑ์เสียภาษี แต่มีค่าลดหย่อนอื่น ๆ ที่ทำให้ไม่ต้องเสียภาษี จะไม่ได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้ เนื่องจากไม่ได้เข้าข่ายที่ต้องจ่ายภาษีอยู่แล้วนั่นเอง จึงไม่สามารถนำค่าใช้จ่ายจากช้อปดีมีคืนไปหักภาษีได้

 

 

ช้อปดีมีคืนต้องสมัครหรือลงทะเบียนไหม

โครงการนี้ ไม่ต้องลงทะเบียนใดให้ยุ่งยาก หากต้องการใช้สิทธิ ก็สามารถซื้อสินค้าหรือบริการ ตามเงื่อนไขที่กำหนด แล้วขอใบกำกับภาษีแบบเต็มจากร้านนั้น ๆ แล้วใช้ประกอบการยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 2566 เพื่อใช้หักลดหย่อนภาษี เหมือนกับค่าลดหย่อนอื่นทั่วไป

 

หลักฐานที่ช้อปดีมีคืน 2566 ใช้ยื่นลดหย่อนภาษี

1. ใบกำกับภาษี แบบเต็มรูปแบบกระดาษ

สำหรับการซื้อสินค้าหรือบริการ จากร้านค้าที่จดทะเบียน ภาษี VAT ขอได้จากร้านนั้นเลย โดยสามารถใช้ลดได้ ไม่เกิน 30,000 บาท

2. ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป แบบอิเล็กทรอนิกส์

ไม่ว่าจะเป็นการซื้อจากร้านค้าทั่วไป หรือร้านค้าออนไลน์ แต่ร้านดังกล่าว จะต้องออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์  (e-Tax Invoice & e-Receipt) ที่ออกผ่านระบบของกรมสรรพากร

3. ใบเสร็จรับเงิน

สำหรับการซื้อหนังสือ รวมทั้งสินค้า OTOP ที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว โดยกรณีเป็นสินค้า OTOP ต้องระบุชื่อ-นามสกุลของผู้มีเงินได้ และระบุว่าสินค้านั้นเป็นสินค้า OTOP ไว้ในใบเสร็จ หรือประทับตรายางที่มีชื่อการค้า หรือเครื่องหมายที่ระบุข้อความว่า “สินค้าทุกรายการเป็นสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์” หรือข้อความอื่น ๆ ในลักษณะทำนองเดียวกัน ไว้บนใบเสร็จ ทั้งนี้ สามารถนำใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป หรือใบเสร็จรับเงิน หลายใบ ๆ มารวมกันได้ ซึ่งถ้ามีหลายใบจะต้องเก็บไว้ให้ดี เพื่อใช้ยื่นภาษีในช่วงต้นปี 2567

 

 

สินค้าและบริการที่ไม่เข้าร่วม ช้อปดีมีคืน

  1. ค่าซื้อสุรา
  2. ยาสูบ
  3. รถยนต์
  4. หนังสือพิมพ์และนิตยสาร
  5. ค่าบริการจัดนำเที่ยว ที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว
  6. ค่าที่พักในโรงแรม
  7. ค่าสาธารณูปโภค
  8. ค่าบริการสัญญาณ
  9. ค่าบริการอินเทอร์เน็ต
  10. ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย

 

นอกเหนือไปกว่านี้ มาตรการช้อปดีมีคืน ปี 2566 กรมสรรพากร ได้ขยายเพิ่มให้นำค่าใช้จ่ายจากน้ำมันเชื้อเพลิงของรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ มาลดหย่อนภาษีในมาตรการช้อปดีมีคืนได้เป็นครั้งแรก เนื่องจากมาตรการในปี 2564-2565 ที่ผ่านนับเป็นค่าสินค้าและค่าบริการที่ไม่เข้าร่วมมาตรการ สำหรับค่าใช้จ่ายน้ำมันนั้น จะต้องมาจากสถานบริการน้ำมัน ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและออกใบกำกับภาษีได้ ทั้งนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นการเดินทางและการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลนั่นเองค่ะ

 

ช้อปดีมีคืน 2566 ลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 40,000 บาท ที่งานเบบี้แฟร์

ประกาศแล้ว! สำหรับช้อปดีมีคืน 2566 ช่วยลดหน่อยภาษีรายได้บุคคลธรรมดา สูงสุดถึง 40,000 บาท โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถช้อปภายในงาน Baby Fair 2023 Central x theAsianparent ได้เลย โดยสามารถเริ่มช้อปเก็บสะสมได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ (ระยะเวลา 46 วัน) ทั้งนี้จะต้องมีใบเสร็จรับเงิน หรือใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ด้วยนะ

กลับมาอีกครั้งกับ งานแฟร์แม่และเด็ก 8-18 ม.ค. 66 Baby Fair 2023 ต้อนรับปีใหม่ 2566 งานแม่และเด็กที่ใหญ่ที่สุด ถูกกว่างานไหน ๆ งานเบบี้แฟร์ มาแล้ว! งานแม่และลูก เซ็นทรัล ลดกระหน่ำต้อนรับปีใหม่ ลงทะเบียนรับของสมนาคุณก่อนใคร ที่นี่! (https://babyfair8-18jan23.paperform.co/)

 

 

 

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ช้อปดีมีคืน มาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย ลดหย่อนภาษี ได้สูงสุดถึง 3 หมื่นบาท

8-18 ม.ค. 66 Baby Fair 2023 Central x theAsianparent ช้อปดีมีคืน!

สินค้านาทีทอง ลดแบบจัดเต็มรับต้นปี Baby Fair 8-18 ม.ค. 2023

ที่มา : thairath

บทความโดย

Kanthamanee Phisitbannakorn