นับเป็นข่าวที่ชวนคุณแม่สะเทือนใจอีกครั้ง กับเหตุการณ์ที่ ด.ช.นัท (นามสมมุติ) อายุ 11 ปี ได้ขี่จักรยานมาเจอเพื่อนหญิงสองคน กล่าวคือ ด.ญ.ปิยาพัชร วัย 11 ปี และด.ญ.สุภาวดี วัย 12 ปี ที่นั่งอยู่ริมคลองประเวศบุรีรมย์ หน้ามัสยิดอัลเอี๊ยะติซอม ซอยอ่อนนุช 43 ถนนสุขุมวิท 77 เขตสวนหลวง จากนั้นได้ ด.ช.นัทได้ถีบ ด.ญ.ปิยาพัชรตกลงไปในน้ำ โดย ด.ญ.สุภาวดี พยายามยื่นมือไปช่วย ทำให้ถูกถีบตกน้ำไปอีกคน
แม้เด็กทั้ง 2 จะพยายามจับขอบปูนริมคลองไว้เพื่อปีนขึ้น แต่ด.ช.นัท ได้กระทืบมือทำให้เพื่อนตกน้ำในที่สุดก่อนจมน้ำหายไป แม้ต่อมามีชาวบ้านกระโดดลงไปช่วยกันงมหาร่าง แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ เบื้องต้น ด.ช.นัทให้กล่าวว่าแค่แกล้งหยอกเล่น ไม่ทราบว่าจะเกิดเหตุร้ายเช่นนี้
อย่างไรก็ดี ทั้งหมดเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ด.ญ.ปิยาพัชร หรือน้องเมย์ เปิดโปง เป็นชาวไทย และด.ญ.สุภาวดี หรือแหวน วาระทุม อายุ 12 ปีเป็นชาวกัมพูชา และเป็นนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่ง
จากเหตุการณ์ดังกล่าวแม่ๆ ย่อมได้อุหาหรณ์เตือนใจ จะสอนลูกอย่างไรไม่ให้เขาคุกคามเพื่อนและคนรอบข้าง รวมทั้งเรื่องที่หลายคนมองข้ามอย่างการว่ายน้ำ ว่ายังเป็นสิ่งจำเป็นเมื่อเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอาจเกิดขึ้นได้เสมอ
เด็กใจร้าย เกิดได้อย่างไร
ในกรณีที่ลูกมีความเสี่ยงที่จะใจร้ายและก้าวร้าวโดยไร้เหตุผล นักจิตยาให้คำแนะนำไว้ว่า
– ให้กลับมาดูที่การเลี้ยงดูของพ่อแม่ อย่าได้มองว่าเป็นความผิดของเด็ก เพราะนั่นเกิดจากประสบการณ์ระหว่างเด็กและพ่อแม่ในบ้าน
– เด็กที่ก้าวร้าว มักเติบโตมากับพ่อแม่ที่ดุด่าและก้าวร้าวกับลูกเป็นประจำ ทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้ ที่จะเอาชนะผู้อื่นโดยการใช้อารมณ์ทางลบ
– เด็กสามารถเรียนรู้ความอ่อนโยนจากแม่ได้ตั้งแต่ในครรภ์ เมื่อเติบโตก็เรียนรู้จากวิธีปฏิบัติของพ่อแม่ ซึ่งพัฒนาไปเป็นบุคลิกภาพต่อไป
แหล่งข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
รู้ก่อนดีกว่า อย่าปล่อยให้เด็กจมน้ำ เรื่องสะเทือนใจของชีวิต