แชร์ประสบการณ์จ้างพี่เลี้ยง อยากให้มาดูแลเราและลูก กลับได้ป้ามหาภัยมาแทน 

แชร์ประสบการณ์จ้างพี่เลี้ยง

แชร์ประสบการณ์จ้างพี่เลี้ยง เพื่อให้มาดูแลคุณแม่หลังคลอดและลูกน้อย แต่กลับได้ป้าตัวแสบเล่นเอาเสียทั้งเงินและเวลา…

เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่คุณแม่ท่านหนึ่งได้แชร์ประสบการณ์ในการว่าจ้างคนอยู่เดือน (ขอเรียกว่าคุณป้า) เพื่อต้องการให้ดูแลตัวเองหลังคลอดและลูกน้อย ในเรื่องของอาหารอยู่เดือน ต้มน้ำอาบให้แม่และเด็กตามสูตรคนจีน ดูแลเสื้อผ้าทำความสะอาดของใช้แม่และเด็ก แต่ปรากฏว่าคุณป้าไม่ทำงานตามสัญญา หนีหายออกจากบ้าน จนต้องมีการฟ้องร้องต่อศาล

เรื่องมีอยู่ว่า คุณแม่ท่านนี้ได้ว่าจ้างคุณป้าคนหนึ่ง อายุประมาณ 60 รูปร่างท้วม ผิวขาว วันที่มาคุณป้าได้มาต่อรองทำสัญญา โดยเรียกเงินเดือน 30,000 บาท ไม่รวมวันหยุด พร้อมกับนำสัญญาที่เคยทำไว้กับคนอื่นมาด้วย ทั้งยังระบุว่าต้องการเซ็นสัญญา 6 เดือน หากต้องการยกเลิกสัญญาจะต้องเซ็นเป็นลายลักษณ์อักษรทั้งสองฝ่าย ซึ่งคุณป้าให้เหตุผลว่า ตอนนี้ไม่รับดูแลสองเดือนแล้ว

หลังจากนั้นคุณป้าได้มาอยู่กับคุณแม่ท่านนี้เป็นเวลาเกือบ 3 เดือน ในช่วงเวลาดังกล่าวคุณป้าไม่ทำตามสัญญา ไม่เคยทำอาหารสักมื้อ เสื้อผ้าทั้งของลูกและแม่คนว่าจ้างก็เป็นคนทำเอง เคยจับไม้กวาดทำความสะอาดของลูกครั้งเดียวเท่านั้นที่บอกให้ทำ สิ่งที่คุณป้าทำมีเพียงช่วยอุ้มลูก และพับเสื้อลูกที่ซักแล้วเท่านั้น

ไม่เพียงแค่นั้น ช่วงแรกๆ คุณป้าจะขอยืมเงินครั้งละ 500 – 1,000 บาท พอทำงานได้ประมาณสองเดือนก็ขอยืมเงินก้อนประมาณ 30,000 บาท คุณแม่ก็ต้องให้ไป เพราะถ้าไม่ให้คุณป้าจะขอลางานเพื่อไปยืมเงินคนอื่น และคุณป้ายังบอกว่าจะให้เงินคืนหลังจากที่สัญญาสิ้นสุดลง แต่ว่าอย่าหักเงินเดือน

คุณป้ายังขอยืมเงินอยู่เรื่อยๆ จนคุณแม่ท่านนี้ไม่ให้ยืมเงินอีกแล้ว เมื่อไม่ให้ยืมเงินคุณป้าก็เริ่มออกลาย เล่่นหวยเกือบทุกวันทั้งของไทยและมาเลย์ เริ่มพูดหยาบคาย ขึ้นเสียง อารมณ์ร้าย เถียงทุกอย่างเวลาที่บอกให้เลี้ยงลูกในวิธีของคุณแม่ จนสุดท้ายคุยกันไม่รู้เรื่องจึงให้สามีเป็นคนพูดแทน เนื่องจากคุณป้าคนนี้แม่สามีเป็นคนเลือกมาจึงมีความเกรงใจแม่สามีอยู่ พอสามีพูดให้คุณป้าปรับการทำงานตามที่สัญญาไว้ คุณป้าก็ใช้อารมณ์และขึ้นเสียงจนสามีบอกให้กลับห้องไป คืนนี้ไม่ต้องช่วยดูแลน้อง

เช้าวันต่อมาคุณป้าขนของออกจากบ้านโดยที่ไม่แจ้งผู้ว่าจ้างเลยซักคำ หลังจากนั้นอีก 2 เดือนต่อมา อยู่ๆ ก็ได้หมายศาลจากการที่คุณแม่ได้ผิดสัญญาว่าจ้าง เนื่องจากคุณป้าได้ไปฟ้องศาลว่าคุณแม่ท่านนี้ไล่แกออก แถมยังเรียกเงินคุณแม่เกือบแสนบาท ซึ่งเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2561 คุณแม่ต้องไปไกล่เกลี่ยที่ศาล ซึ่งทางทีมงานไม่ขอลงรายละเอียด

คุณแม่ท่านนี้อยากจะฝากเตือนคุณพ่อคุณแม่ทุกคนที่กำลังหาคนมาช่วยเลี้ยงลูกว่า ถึงแม้สัญญาจะระบุว่าจะออกต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรทั้งสองฝ่าย แต่สุดท้ายกลับใช้ไม่ได้

นอกจากนี้ คุณแม่ยังบอกอีกว่ายังมีเงินมัดจำในการทำสัญญา 8,000 บาท กับเงินที่ยังค้างอยู่อีกเกือบหมื่นก่อนที่จะหายออกจากบ้านไปที่ยังไม่ได้คืน ซึ่งเงินที่เสียไปยังไม่มากเท่ากับความรู้สึกที่เสียไปที่ให้ใครไม่รู้มาอุ้มลูกเราอยู่เป็นเดือนๆ

อยากจะเตือนสำหรับคุณแม่ท่านอื่นอีกนิด คุณป้าท่านนี้ชอบอ้างว่าทำงานบริษัทดังๆ ยังไงคุณแม่ก็ต้องระวังด้วยนะคะ เวลาแกอยู่บ้านก็ชอบดึงปลั๊กกล้องวงจรปิดในบ้านออกอีกด้วย อีกอย่างที่ขอแนะนำคือ เวลาที่มีการให้ยืมเงินแนะนำให้ใช้วิธีการโอนเงินจะดีที่สุด เพราะเราจะได้มีหลักฐาน ไม่แนะนำให้ใช้การเซ็นยืมเงินค่ะ

อยู่เดือนคืออะไร เหมือนกับอยู่ไฟหลังคลอดใช่ไหม?

“การอยู่เดือน” เป็นความเชื่อในการปฏิบัติตัวหลังคลอดตามธรรมเนียมของคนจีน ซึ่งจะให้แม่หลังคลอดอยู่แต่ในบ้าน ไม่ทำงานหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน ให้รับประทานอาหารดี ๆ ไม่กินของแสลง เช่น น้ำปลา ของไม่สุก ไม่สะอาด ฯลฯ เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นตัวหลังคลอด และเมื่อแก่ตัวไปจะไม่เจ็บไข้ได้ป่วยง่าย ซึ่งถือเป็นกุศโลบายของคนในสมัยก่อนที่จะช่วยให้แม่ลูกอ่อนได้มีเวลาดูแลลูกเต็มที่แต่เพียงอย่างเดียว ไม่ต้องทำงานหนักหลังคลอด และใช้เวลาเดือนหนึ่งได้ปรับตัวเพื่อทำหน้าที่แม่อย่างสมบูรณ์ด้วย

ส่วน “การอยู่ไฟ” เป็นวิถีปฏิบัติตัวหลังคลอดของคนไทยโบราณ โดยมีจุดประสงค์เพื่อปรับสมดุลในร่างกายให้มดลูกกลับเข้าอู่เร็ว โดยใช้ความร้อนเข้าช่วย เป็นการพักพื้นเพื่องให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง มีน้ำนมมามาก โดยเชื่อว่าหากไม่ได้รับการอยู่ไฟจะมีผลกระทบต่าง ๆ ในร่างกายอาจเกิดทันที หรือปรากฏอาการให้เห็นเมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งคล้ายๆ กับการอยู่เดือนนั่นเอง

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:

อยากให้ลูกฉลาด พัฒนาการดี แม่ลูกอ่อนต้องให้คุณพ่อช่วยเลี้ยงลูกตั้งแต่เกิด

การดูแลแผลฝีเย็บหลังคลอด วิธีดูแลแผล และการกระชับฝีเย็บ

สารอาหารเด็กเล็ก อาหารที่เหมาะสมกับวัยทารก 1-3 ปี ลูกต้องการสารอาหารอะไรบ้าง