เขาค้อ แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว ที่เหมาะสำหรับช่วงปลายฝนต้นหนาว เพราะนอกจากเราจะได้สูดอากาศสดชื่นของ แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ อย่างแท้จริงแล้ว ที่นี่ยังมีทั้งรีสอร์ท และคาเฟ่ต่างๆ ให้ได้ไปเช็คอินอัพเดตโปรไฟล์ กัน
ชื่อเขาค้อมีที่มามาจาก ป่าในบริเวณนี้มี ต้นค้อ ขึ้นอยู่มาก ซึ่งโดยปกติต้นค้อจะขึ้นในพื้นที่ที่มีภูมิอากาศหนาวเย็น ป่าไม้ในแถบนี้เป็นป่าเต็งรัง หรือป่าไม้สลัดใบ ป่าสน และป่าดิบ ที่น่าสนใจก็คือ พันธุ์ไม้ตระกูลปาล์ม ลักษณะคล้ายต้นตาล แต่ออกผลเป็นทะลายคล้ายหมาก แม้ปัจจุบันป่าจะถูกถางไปมากก็ตาม แต่ก็ยังมีให้เห็นอยู่บ้าง
1 5 สถานที่ท่องเที่ยวเขาค้อที่เหมาะแก่การไปเช็คอิน
1. เขาตะเคียนโง๊ะ
เขาตะเคียนโง๊ะ เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งบนเขาค้อ จะสามารถสัมผัสบรรยากาศทะเลหมอก 360 องศา ได้ในตอนเช้าพร้อมๆ กับดูพระอาทิตย์ขึ้น และจากจุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะสามารถมองไปเห็น เขาปู่ เขาย่า ซึ่งมีรูปทรงคล้ายภูเขาไฟฟูจิอีกด้วย
2. กังหันลมเขาค้อ
อีกหนึ่งแลนด์มาร์ค ที่ห้ามพลาดหากได้ไปเยือนเขาค้อ จุดชมวิวกังหันลมเด่นๆ จะมีอยู่ 2 จุดด้วยกัน คือ จุดชมวิวช้างดอย และ จุดชมวิวระเบียงกังหันลม โดยทั้ง 2 จุดจะอยู่ตรงข้ามกับลานจอดรถสวนสน ที่นี่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปสวยๆ และยังนี้ยังมีไร่สตรอเบอร์รี่อยู่ไม่ไกล รวมไปถึงร้านขายของท้องถิ่นต่างๆ อีกด้วย
3. จุดชมวิว วัดกองเนียม
วัดกองเนียม เป็นอีกจุดชมวิวทะเลหมอกยอดฮิตของเขาค้อ ที่นี่มีบรรยากาศที่สดชื่นอีกด้วย ช่วงเวลาที่เหมาะในการไปชมวิวก็คือ ช่วงพระอาทิตย์ขึ้น เพราะของพระอาทิตย์อ่อนๆ จะส่องกระทบกับ ทะเลหมอกเบื้องล่างสวยงามเป็นภาพที่สวยงามน่าชมอีกที่ทีเดียว
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : 11 ที่เที่ยวปิล็อก จุดเช็คอินที่น่าหลงใหล หากไม่ได้ไปถือว่าพลาด!
4. วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว
หากได้มาเยือนเขาค้อแล้ว ที่ที่ห้ามพลาดอีกที่เลยก็คือ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง เขาค้อ
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เป็นสถานปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนทั่วไป สถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ รายล้อมไปด้วยหุบเขาที่สงบเงียบ ภายใต้บรรยากาศร่มรื่น เย็นสบาย ที่นี่นอกจากจะเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม แล้วยังเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้อีกด้วย แต่หากต้องการเข้าชมนักท่องเที่ยว ควรปฏิบัติตามกฎของวัด เช่น การแต่งกายให้สุภาพ และห้ามส่งเสียงดังรบกวนผู้มาปฏิบัติธรรม อย่างเคร่งครัดอีกด้วย
5. พระตำหนักเขาค้อ
พระตำหนักเขาค้อ ตั้งอยู่บนที่สูงสุดของเขาค้อ ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 1,050 เมตร สามารถมองเห็นวิวเขาค้อได้แบบครอบคลุมทั้งเมือง ที่นี่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับแรมในโอกาสที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จฯ ตรวจเยี่ยมงานในโครงการพระราชดำริ และเยี่ยมเยียนประชาชน
นอกจากจุดชมวิวสวยๆ รอบพระตำหนักจะปลูกดอกไม้สีสันสวยงามหลากหลายชนิด และมีบ้านพักบริการให้นักท่องเที่ยวเช่าพัก หรือนักท่องเที่ยวสามารถกางเต็นท์พักแรมบริเวณใกล้กับบ้านพักได้อีกด้วย
6. แก่งบางระจัน
แก่งบางระจัน เป็นแก่งหินขวางลำน้ำเข็ก ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่รายล้อม มีบรรยากาศราวกับอยู่ในป่าลึก ที่อุดสมบูรณ์มากๆ นอกจากนี้ ที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ชมแมงกะพรุนน้ำจืด (Freshwater Jellyfish) ที่หายากมากๆ ซึ่งค้นพบเป็นประเทศที่ 5 ของโลก หลังจากที่พบที่ สหรัฐอเมริกา รัสเซีย อังกฤษ และญี่ปุ่น สายพันธุ์ที่พบคือ Crasapedacusta Sowerbyi โดยจะสามารถเห็นแมงกระพรุนสายพันธุ์ดังกล่าว ประมาณช่วงเวลา 10.00 – 16.00 น.
หลังฤดูฝนเมื่อน้ำจะลดลง นักท่องเที่ยวสามารถชมหินสวยงามที่ซ่อนตัวอยู่ใต้น้ำของเกาะแก่งหิน อีกทั้ง นักท่องเที่ยวยังสามารถล่องเรือชมความสวยงามของธรรมชาติ ริมสองฟากฝั่งของแม่น้ำเข็กได้อีกด้วย ทำให้ที่นี่เป็นอีกแห่งน่าเที่ยวมากๆ
7. อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ
แม้เขาค้อ อาจจะเคยได้ชื่อว่า เป็นพื้นที่สีแดงของพรรคคอมมิวนิสต์ แต่ปัจจุบันที่นี่ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของบ้านเราไปแล้ว และอนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ ก็เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สร้างขึ้นเพื่อเทิดทูนวีรกรรมของเหล่านักรบในเหตุการณ์สู้รบคอมมิวนิสต์เขาค้อนั่นเอง
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : 11 ที่เที่ยวอำเภอปัว จังหวัดน่าน แวะชมธรรมชาติสวย ๆ เก็บความสุขทุกการเดินทาง
8. ไปรษณีย์เขาค้อ
จุดชมวิวไปรษณีย์เขาค้อ เป็นอีกจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ซึ่งอยู่ท่ามกลางขุนเขาต่างๆ เป็นอีกแลนด์มาร์คสำหรับใครที่เป็นสายล่าหมอก ต้องไม่พลาดที่นี่เป็นอันขาด นอกจากนี้บริเวณรอบๆ ยังมีที่ให้เก็บภาพอีกมากมาย มีสวนสตรอเบอรี่ และจุดกางเต็นท์หลายจุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากมาชมภาพทะเลหมอกในตอนเช้าตรู่อีกด้วย
9. พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก
พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก เป็นเจดีย์ที่สวยงามมีสถาปัตยกรรมผสมผสานทั้งแบบสุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ ยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระอัฐิของพระพุทธเจ้า ที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา โดยรัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานให้กับประชาชนในพื้นที่ หลังจากยุติการสู้รบกับคอมมิวนิสต์ในประเทศไทย ทั้งประชาชนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวจึงนิยมไปกราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลค่ะ
10. Pino Latte
เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวยอดนิยมของเขาค้อไปแล้วนั่นคือ จุดชมวิวที่คาเฟ่ Pino Latte ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดผาซ่อนแก้ว ในฤดูฝนบริเวณคาเฟ่แห่งนี้นี้จะเต็มไปด้วยหมอกที่ลอยฟุ้งอยู่รอบๆ ตัวเรา ถือเป็นจุดที่สวยงามที่สุดในฤดูฝนของเขาค้อเลยก็ว่าได้ อีกทั้งเรายังสามารถมองเห็นวิววัดผาซ่อนแก้วโดยมีสายหมอกล้อมรอบ ราวกับอยู่ในนวนิยาย หากยังตื่นไม่เต็มตา ที่ Pino Latte ยังมีบริการเครื่องดื่มต่างๆ เพื่อรอรับนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังมีบริการที่พักอีกด้วย
11. น้ำตกศรีดิษฐ์
น้ำตกศรีดิษฐ์ ตั้งอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาค้อ ซึ่งเป็นจุดที่อุดมสมบูรณ์มากๆ น้ำตกแห่งนี้ เป็นน้ำตกชั้นเดียวไหลผ่านหน้าผาหินกว้าง และมีน้ำไหลตลอดทั้งปี อีกทั้งยังเคยเป็นพื้นที่ฐานเสบียบงของกลุ่ม ผกค. ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ส.อ.ประพจน์ ศรีดิษฐ์ ผู้ที่สละชีพที่น้ำตกแห่งนี้ นี่จึงเป็นที่มาของชื่อน้ำตกศรีดิษฐ์นั่นเอง อีกทั้งยังตั้งชื่อไว้เพื่อเชิดชูเกียรติ แด่ ส.อ.ประพจน์ ศรีดิษฐ์ ผู้สละชีพ ณ สมรภูมิแห่งนี้ในครั้งนั้น ทำให้ที่นี่เป็นทั้งที่เที่ยวธรรมชาติ และที่เที่ยวเชิงประวัติศาสตร์
12. The Blue Sky Garden
The Blue Sky Garden เป็นสวนดอกไม้สไตล์อังกฤษ เป็นอีกสถานที่เที่ยวที่สวยงามของเขาค้อ บรรยากาศดีมาก นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสบรรยากาศได้เหมือนอยู่ต่างประเทศเลยทีเดียว ภายในสวน The Blue Sky Resort มีพื้นที่กว่า 30 ไร่ แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ดดยจัดแต่งตามฤดูกาล คือ Summer Spring Autumn และ Winter โดยแต่ละส่วนก็จะปลูกดอกไม้และตกแต่งอย่างงดงาม มีมุมให้เก็บภาพสวยๆ มากมาย
13. คิงคอง เขาค้อ
ไร่คิงคอง เขาค้อ จุดเช็คอินถ่ายรูปสวยของทุ่งกังหันลมเขาค้อ โดยจะมีหุ่นฟางคิงคองตัวโต และไดโนเสาร์ตั้งอยู่เด่นมากๆ และยังมีทางเดินลอยฟ้าทอดยาวออกไปให้เราได้เดินไปชมความสวยงามของวิวสวๆย และถ่ายรูปเกๆ ได้อีกด้วย
14. ไร่ บี เอ็น
ไร่ บี.เอ็น. เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร และเป็นจุดแวะของนักท่องเที่ยวอีกจุด ที่นี่ นัักท่องเที่ยวสามารถซื้อพืชผัก ผลไม้เมืองหนาวนานาชนิดตามฤดูกาล เช่น บรอคเคอรี่ ฟักแม้ว ผักกาดแก้ว สตรอเบอร์รี่ ลิ้นจี่ น้อยหน่าออสเตรเลีย อโวคาโด และอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีผลไม้แปรรูปมากมาย รวมทั้งไม้ดอกไม้ประดับหลายชนิด เช่น เบิร์ดออฟพาราไดซ์ ดาหลา ตระกูลเฮลิโกเนีย นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมแปลงผัก สวนพันธุ์ไม้ในบริเวณได้ค่ะ
15. ภูแก้ว แอดเวนเจอร์ ปาร์ค
นอกจากคาเฟ่และจุดชมวิวภายในภูแก้ว รีสอร์ทแล้ว ที่นี่อีกหนึ่งจุดเช็คอินห้ามพลาดก็คือ ภูแก้ว แอดเวนเจอร์ ปาร์ค ที่มาพร้อมเครื่องเล่นสนุกๆ สำหรับคนที่ชอบทำกิจกรรมผจญภัยไว้ให้บริการโดยเฉพาะ ซึ่งค่าเล่นเริ่มต้นตั้งแต่ 50-300 บาทเท่านั้นเอง มีความสนุกให้เลือกสรรมากมายทั้ง High Flying ที่เราจะได้โหนสลิงข้ามแม่น้ำ, Giant Swing ที่เราจะได้แกว่งชิงช้ายักษ์บนสายสลิงความสูง 20 ฟุต, Tower Jump ที่เราจะได้ท้าทายความกล้าโดยการกระโดดลงมาจากหอสูงถึง 50 ฟุต!! หรือเทียบเท่าความสูงประมาณตึก 3 – 4 ชั้นเลยทีเดียวและอีกมากมายให้เลือกสนุกกับกิจกรรมแอดเวนเจอร์สุดมันส์
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :
เพชรบูรณ์ มีอะไรให้เที่ยวบ้าง วิวภูเขา และทะเลสายหมอกที่ต้องสัมผัสสักครั้งในชีวิต
21 ที่พักวังน้ำเขียว บรรยากาศดี วิวธรรมชาติ ราคาดี ต้องโดน !
ไปเที่ยวไหนดี ? ให้แพลนหน้าฝนปีนี้ ดีต่อหัวใจ ไม่มีทริปล่ม
ที่มา (trueid) (chillpainai)