การคลอดบุตรโดยวิธีธรรมชาติ
การคลอดแบบธรรมชาติเป็นการตัดสินใจที่ยากเย็นอย่างหนึ่งของผู้หญิง ทว่าคุณแม่หลายคนยังยินดีที่จะเผชิญความเจ็บปวดนั้นโดยไม่ใช้ยาใด ๆ หรือบางคนอาจใช้ยาระงับความเจ็บปวด และสิ่งที่ได้รับกลับมาก็เหมือนกับได้รับรางวัลจริง ๆ แม้จะไม่ใช่รางวัลที่จับต้องได้ แต่เป็นรางวัลทางใจ “เยี่ยมที่สุด! ฉันทำได้!” แต่การคลอดแบบธรรมชาติ ไม่ได้เหมาะสมกับทุกคน และบางคนก็ไม่สามารถเลือกที่จะคลอดแบบธรรมชาติได้ แม้ว่าจะไม่มีโล่รางวัลใด ๆ ให้กับคุณแม่ที่คลอดเองโดยไม่ต้องได้รับการช่วยเหลือทางการแพทย์ ในทางกลับกัน คุณแม่ที่รับการช่วยเหลือทางการแพทย์ระหว่างการคลอด ควรต้องคำนึงถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้หลายประการ
การชักนำให้เกิดการเจ็บครรภ์
การชักนำให้เกิดการเจ็บครรภ์เป็นวิธีการช่วยเหลือทางการแพทย์วิธีหนึ่งที่ต้องใช้ในการคลอดแบบธรรมชาติซึ่งอาจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับคุณแม่หลาย ๆ คน กรณีที่ต้องมีการชักนำให้เกิดการเจ็บครรภ์เช่น ภาวะที่แพทย์ไม่มั่นใจในความปลอดภัยของทารก ความดันโลหิตสูง อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายกรณีที่จำเป็นต้องใช้วิธีนี้ เช่น ครรภ์ที่เลยกำหนดคลอด มักเป็นข้อบ่งชี้ที่ทำให้ต้องมีการชักนำให้เกิดการเจ็บครรภ์ แต่ต้องไม่ลืมว่ากำหนดคลอดนั้นเป็นเพียงการประมาณ หลายครั้งที่ทารกยังไม่พร้อมที่จะคลอดเมื่อถึงเวลาที่กำหนด หากทารกและคุณแม่ยังไม่พร้อมสำหรับ การคลอด ก็อาจเกิดปัญหาขึ้นได้
คุณแม่หลายคนอาจได้รับทราบว่าจำเป็นต้องมีการชักนำให้เกิดการเจ็บครรภ์เนื่องจากทารกตัวใหญ่ แต่เมื่อคลอดออกมาแล้วกลับพบว่าลูกไม่ได้มีขนาดใหญ่อย่างที่คาดไว้ การชักนำให้เกิดการเจ็บครรภ์อาจทำให้ต้องมีการใช้คีมในการช่วยทำคลอดเนื่องจากผลของยาระงับความเจ็บปวด หรือบางกรณีอาจต้องผ่าคลอด การคลอดแบบธรรมชาติ อาจจำเป็นต้องมีการใช้คีมช่วยหรือจบลงด้วยการผ่าคลอด แต่ก็ยังเป็นอัตราที่ต่ำอยู่
อ่านการคลอดบุตรโดยวิธีธรรมชาติ ต่อหน้าถัดไป >>>
ในตำราเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ คุณแม่จะเริ่มมีน้ำเดินหลังจากมดลูกเริ่มหดตัวได้ไม่นานนักซึ่งเป็นการเร่งกระบวน การคลอด บางครั้ง (หรืออาจหลายๆ ครั้ง) สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นไปตามตำรา ปกติแล้ว คุณหมอจะเจาะถุงน้ำคร่ำด้วยเหตุผลเพียงหนึ่งหรือสองอย่างเท่านั้นคือ เพื่อชักนำให้เกิดการเจ็บครรภ์หรือเพื่อเร่งกระบวน การคลอด เมื่อคุณหมอเจาะถุงน้ำคร่ำเพื่อเร่งคลอด อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นได้ การเจาะถุงน้ำคร่ำอาจประสบความสำเร็จตามที่วางแผนไว้ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่อาจต้องผ่าตัดคลอด ทั้งนี้เนื่องจากเมื่อถุงน้ำคร่ำแตก คุณแม่จะยังมีเวลาในการคลอดอีกนานพอควรก่อนที่ความเสี่ยงจากการติดเชื้อจะสูงขึ้น ซึ่งคุณหมอจะกำหนดเวลาในการคลอดหลังจากถุงน้ำคร่ำแตกก่อนที่จะทำการผ่าตัด หลังจากเจาะถุงน้ำคร่ำแล้วคุณแม่หลาย ๆ คนไม่ได้มีอาการแทรกซ้อนใ ดๆ ซึ่งจริ งๆ แล้วการเจาะถุงน้ำคร่ำไม่ได้มีความจำเป็นสำหรับคุณแม่และทารกที่แข็งแรงดี เมื่อทราบอย่างนี้แล้ว ทำไมจึงไม่ปล่อยให้ธรรมชาติได้ทำหน้าที่ของมันเองละคะ
การให้ยาชาทางไขสันหลัง
การให้ยาชาทางไขสันหลังหรือการบล็อกหลังเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดใน การคลอด สำหรับผู้หญิงจำนวนมาก โดยเฉพาะในรายที่เจ็บท้องมากและนาน เพื่อให้คุณแม่ได้พักก่อนที่จะทำ การคลอด การบล็อกหลังยังช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลของคุณแม่ได้ ในหลาย ๆ กรณี การคลอด จะทำได้ง่ายขึ้นเมื่อคุณแม่ผ่อนคลาย อย่างไรก็ดี การบล็อกหลังก็มีผลข้างเคียงได้เช่นกัน สิ่งที่คุณแม่ส่วนใหญ่จะกังวลมากที่สุดเกี่ยวกับการบล็อกหลังคือความกลัวว่าสุดท้ายแล้วจะต้องผ่าคลอด ขอย้ำให้คุณแม่ที่จะบล็อกหลังได้สบายใจว่า จากกรณีศึกษามากมายพบว่าการบล็อกหลังไม่ได้เป็นผลให้เกิดการผ่าคลอดมากขึ้น แม้ว่าโดยส่วนใหญ่แล้วจะไม่พบกรณีของการผ่าคลอดในภายหลัง แต่การบล็อกหลังก็ยังมีความเสี่ยงอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ซึ่งแน่นอนว่า การคลอด แบบธรรมชาติจะไม่มีความเสี่ยงเช่นนี้
ยาอื่นๆ
ขณะที่การบล็อกหลังเป็นวิธีการที่ใช้ระงับความเจ็บปวดที่ใช้มากที่สุด (หรืออย่างน้อยก็เป็นวิธีที่รู้จักกันมากที่สุด) ยังมีทางเลือกอื่นสำหรับคุณแม่ในการระงับความเจ็บปวด ไม่ว่าจะเป็นการฉีดยาชาเข้าไปในช่องไขสันหลัง การให้ยานอนหลับ การใช้ยาชาเฉพาะที่ การบล็อกเส้นประสาท การให้ยากล่อมประสาทและการสูดดมไนตรัสออกไซด์ แน่นอนว่าวิธีการเหล่านี้ใช้ได้ผลแต่ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน ทั้งนี้เราไม่ได้กำลังบอกว่า การคลอด แบบธรรมชาติจะไม่มีความผิดพลาดใดๆ เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ยิ่งคุณแม่ถอยห่างจากวิธีการธรรมชาติมากขึ้นเท่าใด ความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาดก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
การผ่าคลอดทางหน้าท้อง
แน่นอนว่าคุณแม่ส่วนใหญ่ไม่เลือกหรือไม่สามารถเลือกได้ว่าจะคลอดด้วยวิธีผ่าตัดทางหน้าท้อง การผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องเป็นวิธีการทำคลอดด้วยเหตุผลทางการแพทย์ในกรณีที่คุณแม่หรือทารกหรือทั้งคู่อยู่ในอันตราย การผ่าคลอดอาจให้ผลที่แตกต่างไปจาก การคลอด แบบธรรมชาติได้เช่นกัน ซึ่งความเสี่ยงในการผ่าคลอดจะยิ่งสูงขึ้นตามขั้นตอนการช่วยเหลือทางการแพทย์ โดยทั่วไปแล้วการผ่าคลอดจะปลอดภัยสำหรับแม่และเด็ก แต่ปัญหาอาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากเป็นการผ่าตัดใหญ่ นอกจากนี้ เด็กที่คลอดด้วยการผ่าอาจมีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจได้ในบางกรณี แรงบีบรัดจากการคลอดโดยผ่านช่องคลอดจะช่วยขับของเหลวออกจากปอดและกระตุ้นการหายใจของเด็ก แต่ขั้นตอนนี้จะไม่เกิดขึ้นในการผ่าคลอด อีกปัญหาหนึ่งที่พบได้จากการผ่าคลอดคือการตั้งครรภ์และการคลอดครั้งต่อๆ ไปจะยุ่งยากยิ่งขึ้น คุณหมอบางท่านจึงแนะนำไม่ให้ผ่าคลอดเกิน 2 ครั้ง ดังนั้นคุณแม่ที่วางแผนจะมีลูกหลายคนจะต้องพยายามทุกวิถีทางที่จะหลีกเลี่ยงการผ่าคลอด
ท้ายที่สุด
ผู้หญิงทุกคนต่างกัน แต่ละคนมีประสบการณ์การเจ็บท้องและคลอดลูกที่ต่างกันไป และแน่นอนว่าแต่ละคนย่อมมีเรื่องเล่าต่างกันไป ไม่ว่าจะใช้ยาระงับความเจ็บปวด ให้คุณหมอเจาะถุงน้ำคร่ำ ใช้ยาเร่งคลอด ผ่าคลอดหรือว่าจะเป็น การคลอดแบบธรรมชาติ สิ่งสำคัญที่สุดคือคุณแม่ได้ให้กำเนิดลูกน้อย ลูกเป็นดั่งรางวัลที่มีค่าที่คุณได้รับ ไม่ว่าจะด้วยวิธี การคลอด ใดก็ตาม
ที่สุดของชีวิต ประสบการณ์คลอดแบบธรรมชาติ
ราคาแพ็กเกจคลอด โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ