เมื่อบทบาทของ CFO ต้องเปลี่ยนไป เลี้ยงลูกสมัยใหม่ ตามสไตล์แม่ฝน!
เชื่อว่าในยุคปัจจุบัน การเลี้ยงลูกนั้นมีแนวทางในหลายแบบ หลายคนนั้นมีทิศทางที่แตกต่างกันไป และในมุมมองของ CFO (Chief Financial Officer คือ ผู้อำนวยการสายการเงิน) กันนะคะ เขาจะเลี้ยงลูกยังไง วันนี้เรามาดูวิธีเลี้ยงลูกของ คุณฝน CFO คนเก่ง แห่งสถาบันการเงินแห่งหนึ่งในประเทศไทย ว่าเธอมีวิธีเลี้ยงลูกยังไงและติวสอบเองเพื่อเข้าโรงเรียนประถมชื่อดังอย่างสาธิตเกษตรได้ เผยบทบาทผู้บริหารทั้งในและนอกบ้านของ CFO คนเก่งและเทคนิคการ เลี้ยงลูกสมัยใหม่ ตามสไตล์แม่ฝน!
อนาคตของลูกเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก สถาบันครอบครัวเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ลูกไปในทิศทางที่ดีขึ้น คุณฝนจึงต้องประยุกต์การเลี้ยงลูกแบบใหม่ เพื่อให้ลูกไปในทิศทางที่ดีที่สุด
เริ่มต้นจากลูกคนแรก
คุณฝนเผยว่า ตั้งแต่ในช่วงเริ่มต้นที่คุณฝนมีลูกคนแรกคือน้องข้าวฟ่างนั้น เธอเห่อลูกคนแรกมาก! เลี้ยงเองโดยไม่มีพี่เลี้ยงเลย และทุกอย่างจะต้องเป๊ะ การดูแลลูกเธอทุกอย่างต้องเป๊ะ แต่เมื่อมีประสบการณ์มากขึ้นพอมีลูกคนที่สองนั้นเมื่อเทียบกันจะผ่อนคลายลง เธอมีพี่เลี้ยงและเธอเริ่มที่จะฟรีสไตล์กับการเลี้ยงมากขึ้น
คุณฝนเผยว่า พ่อแม่มักคิดว่าศักยภาพของเด็กมีขีดจำกัด แต่เราไม่รู้หรอกว่าเด็กๆ มักมีเรื่องแปลกใหม่ให้เราได้สัมผัสเสมอ ดังนั้นจึงควรปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ลองผิดลองถูก และปล่อยให้ใช้ความคิดเลือกกิจกรรมที่เหมาะสมด้วยตัวเอง สิ่งนี้จะทำให้ลูกเกิดความเชื่อมั่นและความมั่นใจ เป็นตัวของตัวเองมากยิ่งขึ้น
การทำงานเป็น CFO (Chief Financial Officer คือ ผู้อำนวยการสายการเงิน) นั้นยุ่งมาก แต่คุณฝนเผยว่ากุญแจสำคัญ คือการใช้เวลากับลูกให้เยอะที่สุด
โดยกฏเหล็กที่คุณฝนนั้นมีคือ ต่อให้งานจะยุ่งมากแค่ไหน แต่ในสัปดาห์ที่ลูกสอบคุณฝนจะไม่รับงานเลย โดยเสาร์อาทิตย์ก็จะพยายามไม่รับงาน เพื่อจะได้ใช้เวลาอยู่กับลูกให้มากที่สุด นอกจากนี้ทุกๆวันตอนเช้าเธอก็จะพยายามเป็นคนปลุกลูก และ อาบน้ำให้ลูกเอง
คุณฝนเผยว่า คุณพ่อคุณแม่สามารถแบ่งเวลาให้กับลูกด้วยการชวนลูกเล่นหรือทำกิจกรรมง่ายๆ ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือนิทานให้ลูก หรือการชวนลูกมารดน้ำ ปลูกต้นไม้หน้าบ้าน รวมถึงกิจกรรมนอกบ้านที่คุณพ่อแม่คุณแม่สามารถใช้เวลาในวันหยุดพาลูกไปเรียนรู้ร่วมกันได้ การที่ลูกเติบโตร่วมกับพ่อแม่ที่ให้เวลาและความสำคัญในการเลี้ยงลูกแทนการใช้สื่อดิจิตอลที่เข้ามามีบทบาทในยุคนี้ จะทำให้ลูกรู้จักโลกของความเป็นจริง และรู้จักปรับตัวเข้าสังคมภายนอกได้ดีกว่า
นอกจากนี้ ประเทศไทย และ สังคมไทย นั้นมีสถิติครอบครัวใหญ่ หรือ ที่รู้จักกันในครอบครัวข้ามรุ่นนั้นค่อนข้างเยอะ โดยหลายๆครอบครัวนั้นก็มีความสุขกับ ความหลากหลายทางรุ่น หรือ (Generational Diversity) คุณฝนก็เลี้ยงลูกแบบครอบครัวใหญ่ เช่นกัน โดย คุณฝนเล่าว่า สิ่งหนึ่งที่คุณฝนชอบมากในเรื่องของการที่อยู่แบบครอบครัวใหญ่ คือ ลูกของคุณฝนมีความอ่อนโยน และ มีสัมมาคาระวะ โดย ข้อดีของการเลี้ยงลูกในครอบครัวใหญ่ ที่คุณฝนเห็นได้ชัดคือ ลูก มีที่พึ่งพาทางใจมากขึ้น อย่างเช่นบางอย่างหรือเกิดเหตุการณ์ที่พ่อแม่โกรธ ลูกของเธอก็จะสามารถไปคุยกับคุณน้า หรือ คุณตา และ คุณยายได้เช่นกัน ลูกอยู่กับผู้ใหญ่ นั้นจะมีความอ่อนโยน และรู้จักดูแลคนอื่น นี้คือสิ่งที่คุณฝนเผย
ถึงจะได้หัวสมัยใหม่ ทันสมัย ขนาดนี้คุณฝนก็มีกฏเหล็ก ที่ไม่อยากให้ลูกทำเลยคือการก้าวร้าวกับคนอื่น และ มีนิสัยที่ไม่ค่อยเฟรนด์ลี่ เพราะ นิสัยนี้คุณฝนมองว่ามันไม่น่ารัก และ มีเป็นความก้าวร้าว
นิยามความคาดหวังต่อลูกของแม่ฝน
เวลาเลี้ยงลูกเราต้องยอมรับศักยภาพของลูก โดยการไม่คาดหวังว่าลูกจะต้องทำในสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่อยากให้ทำได้ ดังนั้นจึงไม่ควรที่จะใช้คำพูดเปรียบเทียบลูก ให้ลูกมองว่าคนอื่นเก่งกว่า ดีกว่า แต่ควรพยายามเข้าใจลูก และต้นแบบที่ดีที่สุดก็คือ พ่อแม่ ดังนั้นหากพ่อแม่อยากให้ลูกทำอะไร ก็ควรเป็นตัวอย่างที่ดีและทำให้ลูกเห็น และคอยสนับสนุนในด้านที่ลูกสนใจมากกว่าการบังคับให้ลูกทำในสิ่งที่เขาไม่ชอบ
โดยคำแนะนำสำหรับพ่อแม่ที่ ทำงานหนักนั้นแม่ฝนเผยว่า ต้องรู้จักการแบ่งเวลา และการ Switch Off ให้ได้ คือการที่ต้องเปลี่ยนโหมดทันที ถึงแม้จะเครียด หรือ มีเรื่องในหัวเยอะแค่ไหน แต่หากถึงบ้านก็ต้องเปลี่ยนโหมดและเป็นแม่ เป็นแจ๋วทันที เพราะฉะนั้นต้องปรับเปลี่ยนให้ดี เพื่อลูกและตัวเราเอง
เป็นอย่างไรบ้างคะกับการแชร์ประสบการณ์ของผู้บริหารคนเก่ง คุณฝน นริศรา กับการบริหารเวลาให้กับลูกๆสุดที่รัก TheAsianparent ว่าคงจะเป็นไอเดียในการนำไปปรับใช้ในแต่ละบ้านได้ไม่มากก็น้อยนะคะ
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ :
เปิดใจ “คุณแม่ปู” คุณแม่สายเฮลตี้ อยากแข็งแรง จะได้อยู่กับลูกไปนาน ๆ
” สอง บทบาทแม่ ในร่างเดียว ” แม่แนน ร่วมแชร์ การเป็นแม่และแม่พิมพ์ของชาติ