กำลังท้องต้องป้องกัน ถ้าไม่อยากให้ ทารกในครรภ์ผิดปกติ เสี่ยงพิการแต่เกิด!!
สำหรับความหวังของว่าที่คุณแม่ที่เฝ้ารอลูกน้อยที่กำลังจะเกิดมา กำลังท้องต้องป้องกัน ถ้าไม่อยากให้ ทารกในครรภ์ผิดปกติ เสี่ยงพิการแต่เกิด!!
5 สิ่งที่คุณแม่ต้องป้องกัน!
สิ่งที่แม่ทุกคนคาดหวังคือ อยากให้ลูกรักออกมาดูโลกด้วยสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ ร่างกายครบ 32 แต่ก่อนจะถึงวันนั้น แม่ต้องเตรียมตัวอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกออกมาผิดปกติ
สำหรับคนเป็นแม่แล้ว พรอันวิเศษที่สุดที่อยากจะขอคือให้ลูกน้อยในท้องออกมาอย่างสมบูรณ์ ร่างกายแข็งแรง อวัยวะครบถ้วน แต่ถ้าอยากให้ลูกแข็งแรง แม่ๆ ต้องรู้วิธีป้องกันไม่ให้ลูกออกมาผิดปกติ
#1. ตรวจหา HPV
HPV หรือ Human papillomavirus เป็นเชื้อไวรัสที่ติดต่อกันได้ผ่านทางเพศสัมพันธ์ แม้ HPV อาจไม่ได้เกี่ยวข้องหรือเป็นสาเหตุโดยตรงของภาวะผิดปกติแต่กำเนิดในทารกแต่ HPV ก็เป็นสาเหตุหนึ่งของการคลอดก่อนกำหนด และการคลอดก่อนกำหนดก็ทำให้เกิดภาวะบกพร่องทางสมองและปอดในเด็กได้อีกทีหนึ่ง เพราะฉะนั้นเพื่อป้องกันความเสี่ยง ใครที่อยากมีลูกควรไปปรึกษาคุณหมอลองไปตรวจหา HPV ก่อนดีกว่าค่ะ
การพบแพทย์เพื่อปรึกษาขอคำแนะนำก่อนจะมีลูก ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องใส่ใจ เพราะร่างกายของคุณแม่แต่ละคนไม่เหมือนกัน จึงจำเป็นต้องตรวจเช็คอย่างละเอียด รวมไปถึงการเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนการตั้งครรภ์ คุณหมอจะได้แนะนำว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไรให้เหมาะสมสำหรับแม่แต่ละคน แต่หากตั้งครรภ์แล้ว ขอแนะนำให้ไปฝากครรภ์เร็วที่สุด ถ้าร่างกายแม่มีความผิดปกติใดๆ จะได้แก้ไขทันท่วงที
#2. ทานกรดโฟลิก
กรดโฟลิกสำคัญสำหรับแม่ท้องมาก ใครที่วางแผนจะมีลูก ควรเริ่มกินกรดโฟลิกเสริมก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 1-3 เดือน และเริ่มกินเมื่อตั้งครรภ์แล้วต่อไปอีก 3 เดือน การรับประทาน “โฟลิก” จำเป็นมากในการสร้างเซลล์ต่าง ๆ ของตัวอ่อนทารก หากขาดกรดโฟลิก อาจเป็นสาเหตุให้ทารกพิการ สมองและระบบประสาทส่วนกลางผิดปกติ หรือถึงกับกระดูกสันหลังแหว่งได้
แม่ท้องสามารถลดความพิการของลูกในครรภ์ได้ตั้งแต่แรกเกิด ด้วยการทานโฟลิกแอซิดวันละ 1 เม็ดต่อวัน สำหรับผู้หญิงที่วางแผนจะตั้งครรภ์ ควรทานโฟลิกแอซิดวันละ 1 เม็ด ก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 3 เดือน และทานต่อเนื่องไปจนถึงอายุครรภ์อย่างน้อย 3 เดือน สามารถทานต่อไปได้เรื่อยๆ ไม่มีผลเสียต่อร่างกายและเด็กในครรภ์
ด้วยความสำคัญของโฟลิกแอซิดหรือโฟเลต ทางสภากาชาดไทย ได้ออกมาเตือนแม่ๆ ให้ใส่ใจในการทานโฟลิกแอซิดอย่างต่อเนื่อง อ่านต่อได้ในบทความ สภากาชาดไทยเตือนใจแม่อย่ารังแกลูกในครรภ์
#3. หลีกเลี่ยงสารเคมีอันตราย
การได้รับสารเคมีบางชนิดขณะตั้งครรภ์ สามารถทำให้เกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ ดังนั้นในขณะที่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการสูดดมหรือแตะต้องสารเคมีทำความสะอาดหรือสารเคมีอื่นๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะสารที่ได้รับเข้าไปในร่างกายอาจมีผลทำให้ทารกเกิดมามีอาการผิดปรกติและเสี่ยงแท้งได้ หากเป็นงานที่คุณแม่ต้องทำทุกวันและเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ควรใส่ถุงมือ ผ้าปิดปาก และอุปกรณ์ป้องกันอื่น ๆ ไว้นะคะ
แม่ๆ อาจเผลอลืมตัวทำความสะอาดบ้านด้วยอุปกรณ์ที่คุ้นเคย แต่เต็มไปด้วยสารเคมี ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อแม่ท้องเอง รวมไปถึงลูกในครรภ์ ถ้าแม่ท้องต้องทำความสะอาด อย่าลืมใส่ถุงมือ ผ้าปิดปาก และอุปกรณ์ป้องกันอื่นๆ รวมถึงเลือกสรรผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารสกัดจากธรรมชาติ ลด ละ เลี่ยง สารเคมี ที่อาจก่อให้เกิดอันตราย หรืออยู่ให้ห่างสถานที่ที่มีสารเคมี จำพวกโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ
#4. ห้ามดื่มแอลกอฮอล์
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการดื่มแอลกอฮอล์ขณะตั้งครรภ์นั้นเป็นอันตรายมากต่อแม่และลูกในท้อง การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะ fetal alcohol syndrome (FAS) โดยเป็นกลุ่มอาการของทารกที่เกิดจากแม่ที่ดื่มแอลกอฮอล์ ส่งผลให้เด็กในครรภ์มีสภาพร่างกายที่ผิดปกติ เช่น ช่องตาสั้น ปลายจมูกเชิด พิการ บางครั้งก็เสียชีวิตจากการคลอดก่อนกำหนดด้วย นอกจากนี้ฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เกิดการทำลายของเซลล์ประสาท ส่งผลทำให้การเจริญเติบโตของทารกบกพร่อง น้ำหนักแรกเกิดน้อย และมีอัตราการเพิ่มน้ำหนักหลังเกิดน้อย เกิดความผิดปกติของโครงสร้างสมอง ส่งผลพัฒนาการด้านสติปัญญาบกพร่อง ภาวะปัญญาอ่อน ปัญหาด้านความจำ การเคลื่อนไหวผิดปกติ เป็นต้น
การดื่มแอลกอฮอล์มีผลต่อแม่และลูกในท้อง เป็นหนึ่งในสาเหตุทำให้เกิดภาวะ fetal alcohol syndrome (FAS) ส่งผลให้เด็กในครรภ์มีสภาพร่างกายที่ผิดปกติ เช่น ช่องตาสั้นและปลายจมูกเชิด บางรายเสียชีวิตจากการคลอดก่อนกำหนด
#5. ห้ามสูบบุหรี่
สารเคมีในบุหรี่ทำลายโครโมโซมของทารก ส่งผลให้ทารกตายแรกคลอด! หรือแม้แต่เจริญเติบโตช้ากว่าปกติ มีปัญหาระบบประสาท ระบบการหายใจและหลอดเลือด และเมื่อโตขึ้นอาจเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็ง นอกจากแม่ท้องจะห้ามสูบบุหรี่อย่างเด็ดขาดแล้ว ยังต้องหลีกเลี่ยงควันบุหรี่ด้วย เพราะลูกรักสามารถได้รับสารเคมีผ่านทางน้ำนมแม่อีกทาง
แม่ท้องที่สูบบุหรี่หรือได้รับสารเคมีในบุหรี่ จะมีส่วนไปทำลายโครโมโซมของทารก เสี่ยงทำให้ทารกตายแรกคลอด หรือทำให้ทารกเจริญเติบโตช้ากว่าปกติ มีน้ำหนัก ส่วนสูง รอบอกและรอบศีรษะต่ำกว่าเกณฑ์ ระบบประสาท ระบบการหายใจและหลอดเลือดและอาจมีปัญหาในระบบทางเดินหายใจภายหลังคลอดทันที มีแนวโน้มจะเป็นโรคหอบหืดเมื่อโตขึ้น มีความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะแต่กำเนิด และเมื่อโตขึ้นเด็กอาจเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งในระบบต่าง ๆ
#6. กินยาต้องระวัง
ยาบางอย่างนั้นอาจส่งผลต่อแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ได้ ดังนั้นแม่ท้องควรระมัดระวังในการใช้ยาให้มากที่สุด เพราะยาสามารถซึมผ่านรกไปยังทารกในครรภ์ได้ การรับประทานยาที่เป็นอันตรายมีผลทำให้ทารกในครรภ์พิการ โดยเฉพาะระยะ 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์และใกล้คลอด ผลทำให้ทารกคลอดออดมาพิการ แขนขากุด มีโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ดังนั้นหากเจ็บป่วยมีโรคประจำตัวจะรับประทานยาอะไรควรปรึกษาคุณหมอหรือได้รับยาตามที่แพทย์สั่งเพื่อความปลอดภัยของแม่และลูกนะคะ
การมีลูกนั้นนำมาซึ่งความสุขของพ่อแม่และญาติพี่น้องในครอบครัว ไม่ใช่ปัญหาถ้าหากใครที่คิดจะมีลูก ซึ่งควรได้วางแผนก่อนการมีลูก การได้เข้าไปปรึกษาแพทย์ก่อนคิดจะมีลูกเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะคุณแม่แต่ละคนมีสภาพร่างกายไม่เหมือนกัน การตรวจร่างกายหรือปรึกษาแพทย์ก่อน จะช่วยป้องกันการเกิดเหตุร้ายใด ๆ กับลูกน้อยที่จะเกิดมาได้ และเมื่อตั้งครรภ์แล้ว สิ่งสำคัญที่แม่ท้องควรทำอย่างแรกก็คือ การฝากครรภ์กับคุณหมอ ซึ่งจะดูแลครรภ์ ตรวจอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เริ่มไปจนถึงคลอด หากมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นก็สามารถดูแลรักษาแก้ไขได้ทันที เพื่อให้ทารกนั้นออกมามีร่างกายที่แข็งแรงและสุขภาพดีที่สุด.
ที่มา : 1
บทความอื่นที่น่าสนใจ :
กินอย่างไรให้ลงลูก ส่งเสริมสุขภาพทารกให้แข็งแรงตลอดการตั้งครรภ์
ยาเร่งคลอด ส่งผลต่อทารกอย่างไร อันตรายกับแม่ท้องมากไหม