ค่าขนมเด็กไทย ส่วนใหญ่วันละกี่บาท : ผลสำรวจจาก theAsianparent Insights

เผยผลสำรวจ ค่าขนมเด็กไทย ส่วนใหญ่วันละกี่บาท เก็บข้อมูลจากคุณแม่ชาวไทยผ่านแอปพลิเคชัน theAsianparent พบข้อมูลที่น่าสนใจ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

จากผลสำรวจของ theAsianparent Insights ที่ได้สำรวจคุณแม่ชาวไทยจำนวน 450 คน เกี่ยวกับ ค่าขนมเด็กไทย ที่คุณแม่ให้ลูกไปโรงเรียน พบข้อมูลที่น่าสนใจซึ่งคุณแม่อาจนำไปใช้เป็นแนวทางในการกำหนดค่าขนมให้กับลูกน้อยได้ค่ะ

ค่าขนมเด็กไทย โดยเฉลี่ยต่อวัน

  • น้อยกว่า 20 บาท  11%
  • 21-30 บาท บาท 48%
  • 31-40 บาท 13%
  • 41-50 บาท 10%

ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า ค่าขนมที่คุณแม่ส่วนใหญ่ให้ลูกไปโรงเรียนอยู่ที่ 21-30 บาทต่อวัน คิดเป็นสัดส่วนถึง 48% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ค่าขนมในระดับนี้เหมาะสมกับค่าครองชีพในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ยังมีคุณแม่อีกจำนวนหนึ่งที่ให้ค่าขนมมากกว่านี้ โดยให้มากกว่า 50 บาทต่อวัน คิดเป็นสัดส่วนถึง 18% ซึ่งอาจเป็นเพราะปัจจัยหลายประการ เช่น อายุของเด็ก ระดับชั้นที่เรียน โรงเรียนที่เข้าศึกษา และสภาพเศรษฐกิจของครอบครัว

ระดับชั้นและประเภทของโรงเรียน

  • อนุบาล โรงเรียนรัฐ 51%
  • อนุบาล โรงเรียนเอกชน 19%
  • ประถม โรงเรียนรัฐ 24%
  • ประถม โรงเรียนเอกชน 5%

เมื่อพิจารณาถึงระดับชั้นและประเภทของโรงเรียน พบว่า เด็กอนุบาลที่ศึกษาในโรงเรียนรัฐมีสัดส่วนสูงสุดถึง 51% รองลงมาเป็นเด็กประถมที่ศึกษาในโรงเรียนรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 24% และเมื่อวิเคราะห์ในภาพรวม จะเห็นว่า เด็กนักเรียนโรงเรียนรัฐมีสัดส่วนมากถึง 75% ซึ่งสอดคล้องกับค่าขนมเฉลี่ยที่ค่อนข้างต่ำ ขณะที่เด็กนักเรียนในโรงเรียนเอกชน มีแนวโน้มที่จะได้รับค่าขนมที่สูงกว่า ซึ่งอาจเป็นเพราะค่าใช้จ่ายในโรงเรียนเอกชนโดยรวมสูงกว่า และมีกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องใช้เงินมากกว่า

สถานที่ตั้งของโรงเรียน

  • กรุงเทพและปริมณฑล 20%
  • ในเขตเทศบาล 53%
  • นอกเขตเทศบาล 26%

ผลสำรวจยังแสดงให้เห็นว่า สถานที่ตั้งของโรงเรียนก็มีส่วนสำคัญในการกำหนดค่าขนมเช่นกัน โดยเด็กส่วนใหญ่ศึกษาในโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลสูงถึง 53% ดังนั้นอาจเป็นไปได้ว่า เด็กที่ศึกษาอยู่ในโรงเรียนนอกเขตเทศบาล 26% มีแนวโน้มที่จะได้รับค่าขนมเฉลี่ยเท่ากับหรือน้อยกว่าเด็กในเขตเทศบาล ในขณะที่เด็กที่ศึกษาอยู่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑลมีแนวโน้มที่จะได้รับค่าขนมมากกว่า เนื่องจากค่าครองชีพในพื้นที่เหล่านี้โดยทั่วไปสูงกว่า และมีร้านค้า ร้านอาหาร หรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่มีราคาสูงกว่า

ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง

นอกจากผลสำรวจข้างต้นจะเป็นแนวทางให้คุณแม่ได้ทราบค่าขนมเฉลี่ยที่คุณแม่ไทยให้ลูกไปโรงเรียนแต่ละวันแล้ว คุณแม่ควรพิจารณาจากปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วยเพื่อให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น ดังนี้

  • อายุและระดับชั้น เด็กที่โตขึ้นและเรียนในระดับชั้นที่สูงขึ้น มักจะได้รับค่าขนมที่มากขึ้น เนื่องจากความต้องการในการใช้จ่ายและกิจกรรมต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น
  • ประเภทของโรงเรียน โรงเรียนเอกชนโดยทั่วไปจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าโรงเรียนรัฐ ทำให้เด็กที่ศึกษาในโรงเรียนเอกชนมีแนวโน้มที่จะได้รับค่าขนมที่สูงกว่า
  • สถานที่ตั้งของโรงเรียน ค่าครองชีพในแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน ทำให้ค่าขนมที่เหมาะสมก็แตกต่างกันไป
  • สภาพเศรษฐกิจของครอบครัว รายได้ของครอบครัวเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดจำนวนเงินที่สามารถให้เป็นค่าขนมได้
  • ทัศนคติของผู้ปกครอง ผู้ปกครองแต่ละคนมีทัศนคติที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการให้ค่าขนมแก่ลูก ซึ่งอาจส่งผลต่อจำนวนเงินที่ให้

เด็กส่วนใหญ่ใช้ค่าขนมซื้ออะไรบ้าง?

เด็กส่วนใหญ่ใช้ค่าขนมซื้อของต่างๆ กันไปตามความชอบและวัยแต่โดยทั่วไปแล้ว มักจะนิยมซื้อ ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม ของเล่น อุปกรณ์การเรียน และของใช้ส่วนตัว เป็นต้น โดยเด็กเล็กอาจเน้นซื้อของเล่นหรือขนมขบเคี้ยวที่มีสีสันน่าสนใจ ส่วนเด็กโตอาจสนใจซื้ออุปกรณ์การเรียนหรือของใช้ส่วนตัวมากขึ้น 

นอกจากนี้ เด็กมักจะเลียนแบบพฤติกรรมของเพื่อนๆ ในการเลือกซื้อของ จึงมีแนวโน้มที่จะซื้อของตามเพื่อน และตามที่เห็นจากโฆษณาต่างๆ ก็มีส่วนสำคัญในการดึงดูดความสนใจของเด็กให้ต้องการซื้อสินค้า

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คำแนะนำสำหรับผู้ปกครอง

นอกจากกำหนดวงเงินค่าขนมลูกที่เหมาะสมกับอายุและความสามารถในการใช้จ่ายของลูกแล้ว ควรสอนให้ลูกรู้จักวางแผนการเงินและจัดสรรค่าใช้จ่ายตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อให้มีความรู้ด้านการเงินที่เหมาะสมกับวัย ดังนี้

วัยอนุบาล: ปลูกฝังเรื่องเงินเบื้องต้น

  • เงินคืออะไร? เล่าให้ลูกฟังว่าเงินคือสิ่งที่เราใช้แลกเปลี่ยนกับของที่เราอยากได้ เช่น ขนม ของเล่น 
  • เงินมาจากไหน? อธิบายว่าพ่อแม่ต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว
  • เก็บเงินทำไม? สอนให้ลูกรู้จักการออมเงินด้วยการหยอดกระปุก พูดคุยเรื่องความสุขที่ได้เห็นเงินในกระปุกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเป้าหมายที่เราจะเก็บเงินไปซื้อของที่อยากได้

วัยประถม: สอนให้รู้จักค่าของเงิน

  • รู้จักเงินในรูปแบบต่างๆ สอนให้ลูกรู้จักเหรียญและธนบัตรชนิดต่างๆ ฝึกนับเงิน และแลกเปลี่ยนเงิน
  • แยก “ความจำเป็น”กับ “ความอยากได้” สอนให้ลูกแยกแยะความต้องการที่จำเป็น เช่น อาหาร กับความอยากได้ เช่น ของเล่น
  • เปรียบเทียบราคา พาลูกไปซื้อของแล้วให้ลูกเปรียบเทียบราคาและคุณภาพของสินค้า
  • สอนการออม สอนให้ลูกแบ่งเงินส่วนหนึ่งเก็บออม เพื่อใช้ในอนาคต สอนให้ลูกตั้งเป้าหมาย และให้รางวัลเมื่อลูกทำเป้าหมายสำเร็จ

หวังว่า ผลสำรวจ ค่าขนมเด็กไทย ครั้งนี้ จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่วางแผนค่าขนมได้อย่างเหมาะสมและสอนลูกให้รู้จักใช้เงินอย่างคุ้มค่า เพราะการให้ค่าขนมที่เหมาะสม ไม่ใช่แค่เรื่องของเงิน แต่ยังเป็นการส่งเสริมให้ลูกเรียนรู้การใช้เงินอย่างชาญฉลาด ซึ่งเป็นทักษะสำคัญที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตในอนาคตค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เรายังมี Insights ที่น่าสนใจอีกมากมาย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ salesth@tickledmedia.com

 

ผลสำรวจที่น่าสนใจอื่นๆ 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

พฤติกรรมช้อปปิ้งออนไลน์ของคุณแม่ชาวไทย ปี 2567 : ผลสำรวจจาก theAsianparent Insights

ปัจจัยสำคัญที่ผู้ปกครองตัดสินใจ เลือกโรงเรียนให้ลูก : ผลสำรวจจาก theAsianparent Insights

ปัจจัยในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย บ้าน VS คอนโด แบบไหนดีต่อพัฒนาการเด็ก

 

ที่มา: theAsianparent Insights , ธนาคารเกีรยตินาคินภัทร