แผนเปิดประเทศ เพื่อการท่องเที่ยว นำร่อง "ภูเก็ต" จังหวัดแรก

คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ได้เปิดไฟเขียวถึงนโยบาย เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยมี แผนเปิดประเทศ เพื่อการท่องเที่ยว สนับสนุนให้มีการรับชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวพักผ่อนในประเทศไทยได้ และจะเริ่มนำร่องที่จังหวัด "ภูเก็ต" จังหวัดแรก

โดย นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. ได้มอบหมายให้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยว และกีฬา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายท่องเที่ยวแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2564 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อสรุปข้อตกลง แผนเปิดประเทศ เพื่อการท่องเที่ยว โดยกำหนดให้จังหวัดภูเก็ต เป็นจังหวัดแรกในการนำร่อง

และมีข้อสรุปจากการประชุม เห็นชอบกับการเปิดแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยว โดยการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้ามาในประเทศ พร้อมมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมเพื่อการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนที่มีการกำหนดเอาไว้

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : ไปเที่ยวไหนดี ? ให้แพลนหน้าฝนปีนี้ ดีต่อหัวใจ ไม่มีทริปล่ม

โดยกำหนดให้มีการควบคุม และดำเนินการเป็น 4 ระยะด้วยกัน ได้แก่

• ระยะที่ 1 เป็นระยะนำร่อง โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. - 30 มิ.ย. 2564

โดยจะเปิดให้รับนักท่องเที่ยวที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว เข้ามาในประเทศเพื่อการกักตัวตามระยะเวลาที่ทางศบค.กำหนดเอาไว้ ซึ่ง ณ เวลานี้ ได้มีการดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ว่าจะไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศตามที่คาดเอาไว้ก็ตาม

• ระยะที่ 2 Phuket Sandbox โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. - 30 ก.ย. 2564

จะเป็นการเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับการฉีดวัคซีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะต้องมีใบรับรองการฉีดวัคซีนยืนยัน และสามารถเข้าสู่พื้นที่จังหวัดภูเก็ต และท่องเที่ยวภายในจังหวัดได้โดยไม่มีการกักตัว

• ระยะที่ 3 ผ่อนคลายในพื้นที่ที่มีศักยภาพ โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป

โดยเป้าหมายจะมุ่งเน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ได้รับการฉีดวัคซีน และมีใบรับรองการฉีดวัคซีนยืนยัน โดยจะขยายพื้นที่การท่องเที่ยวจากภูเก็ตไปยังจังหวัดกระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ ชลบุรี บุรีรัมย์ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และกรุงเทพฯ โดยไม่จำเป็นจะต้องกักตัว (ทั้งนี้จำเป็นจะต้องประกาศปลดล็อคตามศักยภาพของแต่ละจังหวัด)

• ระยะที่ 4 เข้าสู่ภาวะปกติ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565 เป็นต้นไป

ในระยะนี้ จะเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างเต็มศักยภาพ โดยนักท่องเที่ยวที่ผ่านเกณฑ์ จะสามารถไปท่องเที่ยวได้ทุกจังหวัด โดยไม่ต้องทำการกักตัวแต่อย่างใด

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : เที่ยวแบบไม่กักตัว ประเทศไหนที่ต้อนรับนักเดินทาง หลังฉีดวัคซีนโควิดแล้ว

โดยทางที่ประชุมได้เปิดเผยถึงการเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วตามจังหวัดที่กล่าวมาว่า จังหวัดที่ถูกเลือกเพื่อการดำเนินการนั้น เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพเพียงพอ และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อน และการจัดการแข่งขันกีฬา ที่ยอดนิยมของชาวต่างชาติอีกด้วย

อีกทั้งปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดมาตรการผ่อนคลายในครั้งนี้ก็คือ การดำเนินงานตามแผนของการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนชาวไทย และบุคลากรทางด้านการท่องเที่ยวให้ได้ครบทั่วทุกพื้นที่ ให้ได้ทันตามกำหนดที่วางแผนเอาไว้ หรือขั้นต่ำ ต้องให้ได้เกินกว่า 70 % และได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานงาน เพื่อเตรียมความพร้อมในการกระจายวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด - 19 ให้ทันตามแผนงานที่กำหนดเอาไว้

โดยทางรัฐก็มุ่งหวังให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ครบทั่วทุกจังหวัด ทั่วประเทศ เพื่อการรองรับนโยบายในครั้งนี้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในท้องที่ และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย หลังจากมีการล็อคดาวน์การท่องเที่ยวมาไปต่ำกว่า 1 ปี

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : กิจกรรมฮา ๆ ที่บ้าน คลายเครียด ให้เหมือนได้เที่ยวช่วงโควิด

เพราะเนื่องจากในปี 2562 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ถึง 39.9 ล้านคน ทำให้เกิดเงินหมุนเวียน ในระบบการท่องเที่ยวในประเทศไทยสูงถึง 1.5 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 80 % ของรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมด และเป็นรายได้หลักของประเทศ ที่จำเป็นจะต้องให้ความสำคัญ และฟื้นฟูโดยเร่งด่วนที่สุด

และคาดหวังว่า จากการผ่อนปรนนโยบายการเปิดประเทศในครั้งนี้ จะเห็นการตอบรับที่ดี และยอดการเข้ามาท่องเที่ยวภายในประเทศสูงถึง 3.5 ล้านคนในช่วงแรก ซึ่งจะทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบการท่องเที่ยวต่างชาติเกิน 298,192 ล้านบาท ขึ้นไป

โดยทางกระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬา ได้มอบอำนาจให้กับ คณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยวในแต่ละเขต ที่จะเข้ามาผลักดัน บทบาทการท่องเที่ยวเชิงรุก ในพื้นที่ของตนเองให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งในแง่การรักษา ฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว การบริหาร และพัฒนาการท่องเที่ยว ให้สอดคล้องกับแผนหลักของการพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ เพื่อให้มีรายได้ กระจายสู่การท่องเที่ยวเชิงท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม

ที่มา : thaigov.go.th/news

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

50 สถานที่ท่องเที่ยวไทย ที่ต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต ทะเล หรือ ภูเขา เราก็มี

เงื่อนไขสำหรับนักท่องเที่ยวใน การเดินทางเข้าไทยในช่วง COVID - 19

เที่ยวนอกกระแส ที่ไหนดี ที่น่าไป และไม่ต้องเจอความวุ่นวาย