Phenomenon-Based Learning คืออะไร? การเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรงของนักเรียนสามารถวัดผลการเรียนรู้ของนักเรียนได้จริงหรือไม่? แล้วทำไมหลักสูตรนี้จึงมีความน่าสนใจ มาทำความรู้จักกับ Phenomenon-Based Learning ไปพร้อม ๆ กันเลย
การศึกษา ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ให้ความสำคัญอยู่เสมอ แน่นอนอยู่แล้วว่า กว่าจะเลือกโรงเรียนให้กับเด็ก ๆ ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ละครอบครัวก็มีเหตุผลที่นำมาประกอบการตัดสินใจเลือกโรงเรียนให้ลูกแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง ค่าใช้จ่าย สภาพแวดล้อมภายในโรงเรียน หรือแม้กระทั่งหลักสูตรการเรียนการสอนของโรงเรียน
โดยปกติแล้วหลักสูตรการเรียนการสอนแต่ละโรงเรียนมักมีจุดมุ่งหมายเพื่อวัดผลการเรียนรู้ผ่านการสอบ ซึ่งต้องยอมรับว่า ไม่ใช่เด็กทุกคนจะเหมาะกับระบบการศึกษาแบบท่องจำ ดังนั้น หากมีหลักสูตรใหม่ ๆ ที่ช่วยให้เด็ก ๆ เรียนรู้ได้อย่างเหมาะสมกับตนเอง น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย
ด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้ Thai International School (TIS) เล็งเห็นความสำคัญเกี่ยวกับการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละคน เนื่องจากการใช้วิธีการเรียนการสอนแบบเดียวกันกับเด็กนักเรียนทุกคน อาจเห็นผลสัมฤทธิ์น้อยกว่าการมุ่งเน้น และปรับใช้การเรียนการสอนให้เหมาะกับเด็กแต่ละคน และนี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม TIS ถึงนำหลักสูตร Phenomenon-Based Learning มาใช้กับเด็ก ๆ ในโรงเรียน
มาทำความรู้จักกับ Phenomenon-Based Learning
Phenomenon-Based Learning (PhBL) หรือที่เรียกกันว่า การเรียนรู้ที่ใช้ปรากฏการณ์เป็นฐาน คือ หลักสูตรการศึกษาที่โรงเรียนในประเทศฟินแลนด์ใช้มาอย่างยาวนาน ซึ่งฟินแลนด์ถือเป็นประเทศที่มีระบบการศึกษาดีที่สุดในโลก โดยหลักสูตร PhBL ถือเป็นหลักสูตรการเรียนการสอนที่จะทำให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ และหาคำตอบด้วยตัวเอง ผ่านการตั้งโจทย์ของคุณครูในห้องเรียน เป็นการเรียนการสอนที่เน้นให้เด็ก ๆ ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ การร่วมมือกันในกลุ่ม การใช้หลักเหตุและผล การวางแผนอย่างเป็นลำดับขั้นตอน และการสื่อสาร
สำหรับการสอนในหลักสูตรนี้ ทางคณะครูผู้สอนทุกท่านจะได้รับการอบรม และพูดคุยเกี่ยวกับหลักสูตร โดย Dr. Sari Muhonen หนึ่งใน 8 ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นผู้พัฒนาหลักสูตรการศึกษาแกนกลางของประเทศฟินแลนด์ Dr.Sari เริ่มทำงานในวงการการศึกษาตั้งแต่ปี 2539 และตลอดระยะเวลา 26 ปี เธอยังคงทำงานเกี่ยวกับการศึกษามาตลอด เป็นทั้งคุณครู นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ และวิทยากรระดับนานาชาติที่มีประสบการณ์ด้านการศึกษาและพัฒนาหลักสูตรอีกด้วย
ในระหว่างการฝึกอบรมคุณครูทุกท่านจะทดลองทำการสอนตามขั้นตอน และมีการสวมบทบาทสมมติเป็นนักเรียนเพื่อเรียนรู้วิธีการเรียนในหลักสูตรได้ในเชิงลึก เรียกได้ว่า แม้แต่การอบรมการสอนของคุณครูเอง ก็ใช้รูปแบบการเรียนการสอนเช่นเดียวกันกับนักเรียน และเห็นได้ชัดว่าคุณครูที่เข้าร่วมการอบรมในครั้งนี้ มีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้เป็นอย่างมาก จึงมั่นใจได้ว่าเด็ก ๆ เองก็คงสนุก และตื่นเต้นไม่แพ้กัน ซึ่งในฐานะคุณครู เมื่อเห็นผลตอบรับเป็นความกระตือรือร้นของนักเรียน ก็ต้องยอมรับว่าคุ้มค่ามากจริง ๆ
โดย Mr. Gerald E.Schoen คุณครูใหญ่ของโรงเรียนได้อธิบายว่า การเรียนรู้ผ่านหลักสูตร PhBL เน้นให้ความสำคัญกับนักเรียน โดยจะยึดหลัก ให้นักเรียนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งจะทำการเรียนรู้ผ่านการตั้งคำถามและนำมาเชื่อมโยงกันในแต่ละวิชา นอกจากนี้ ในระหว่างการเรียนรู้จะช่วยส่งเสริมให้เด็ก ๆ มีความภาคภูมิใจในตัวเอง และจะได้ประสบการณ์ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้การใช้ชีวิตได้ ซึ่งจะแตกต่างจากรูปแบบการเรียนรู้ในห้องเรียนแบบเดิม ๆ ที่เน้นการท่องจำ ดังนั้นการเรียนรู้ในกระบวนการนี้ เด็ก ๆ จะพึ่งพาตัวเองได้มากขึ้น และทุก ๆ การหาคำตอบของเด็ก ๆ จะช่วยมอบประสบการณ์ที่ดี และมีความหมายกับพวกเขามากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Mr. Gerald ยังกล่าวว่า การเรียนรู้ในรูปแบบนี้จะทำให้เด็ก ๆ มีความกระตือรือร้น และมีส่วนร่วมในการเรียนรู้มากขึ้น ช่วยส่งเสริมให้เด็ก ๆ ได้เป็นตัวเอง และแน่นอนว่าหลังจากได้นำหลักสูตร PhBL มาทดลองใช้ ถือว่าได้รับผลตอบรับค่อนข้างดี เด็ก ๆ ชอบที่การเรียนรู้ของพวกเขาไม่เข้มงวดจนเกินไป และแน่นอนว่าพวกเขาได้เรียนรู้เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับการเรียนแค่จากในหนังสือและจบลงด้วยการทำข้อสอบ เด็ก ๆ สนุกกับกิจกรรมในเชิงปฏิบัติมากขึ้น ซึ่งถือเป็นแรงจูงใจในการเรียนรู้สำหรับเด็ก ๆ เป็นอย่างมาก
หากคุณพ่อคุณแม่ยังไม่เห็นภาพ และยังนึกไม่ออกว่าการเรียนการสอนของหลักสูตร PhBL เป็นอย่างไร คุณชยพล หลีระพันธ์ หรือคุณปอนด์ ผู้อำนวยการโรงเรียน ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า การเรียนการสอนในรูปแบบนี้จะเน้นการเชื่อมโยง โดยการตั้งโจทย์และจุดมุ่งหมาย ให้คุณครูในแต่ละวิชาทำการสอนเพื่อมุ่งไปยังจุดมุ่งหมายปลายทางทำให้เด็ก ๆ ได้เห็นความเชื่อมโยงเพื่อไปหาจุดมุ่งหมายเดียวกัน ซึ่งช่วยให้เด็ก ๆ เข้าใจมากขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องท่องจำ
คุณปอนด์ ได้อธิบายรูปแบบการเรียนให้ฟังง่าย ๆ โดยยกตัวอย่างว่า สมมติว่าครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายในการเรียนรู้ คือ แมว ในแต่ละวิชาคุณครูก็จะทำการเรียนการสอนให้เชื่อมโยงกับแมวมากที่สุด โดยการเรียนการสอนก็จะเน้นให้เด็ก ๆ ได้หาคำตอบด้วยตัวเอง และนำข้อมูลมาแบ่งปันกันภายในห้องเรียน เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เป็นผู้นำในการเรียนรู้ และสร้างภาคภูมิใจให้กับเด็ก ๆ ด้วย
ทำไม Thai International School ถึงนำเอาหลักสูตรนี้มาใช้กับนักเรียน
คุณปอนด์ ได้ให้เหตุผลว่า ประเทศฟินแลนด์ถือเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรมนอกห้องเรียน และใช้เวลาการเรียนรู้ในห้องเรียนน้อยเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก แต่ได้ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาเทียบเท่ากับประเทศสิงคโปร์ที่ใช้เวลาเรียนในห้องเรียนมากที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
หลักสูตร PhBL ไม่ใช่แค่การทำให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้เพียงฝ่ายเดียว แต่คุณพ่อคุณแม่ก็จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ไปพร้อมกับลูกเช่นกัน
อย่างที่กล่าวไปว่า การเรียนรู้ผ่านหลักสูตร PhBL คือ การเรียนรู้ที่เด็ก ๆ เป็นคนหาคำตอบด้วยตัวเอง เน้นการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม และนำข้อมูลมาแบ่งปันกันในห้องเรียน ด้วยเหตุผลนี้เด็ก ๆ จะเกิดความภาคภูมิใจในตัวเองในการหาคำตอบที่ถือว่าประสบความสำเร็จ พวกเขาจะนำข้อมูลต่าง ๆ มาแบ่งปันกับคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งถือเป็นการเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน
โดยทาง Mr. Maksymilian Alan Crawford รองคุณครูใหญ่ ได้อธิบายเกี่ยวกับการเรียนของโรงเรียนไว้ว่า การเรียนการสอนของโรงเรียน ใน 1 ปีการศึกษา จะมี 2 ภาคเรียน โดยภาคเรียนที่ 1 ทางโรงเรียนก็จะทำการเรียนการสอนในหลักสูตร PhBL ซึ่งจะให้เด็ก ๆ ได้ร่วมกันทำโปรเจกต์ต่าง ๆ ตามรูปแบบของหลักสูตรนี้ ซึ่งนักเรียนจะได้รับอิสระในการเลือกว่า ต้องการเรียนอะไร และต้องการเรียนอย่างไร เพื่อสร้างความกระตือรือร้น และความภาคภูมิใจให้กับเด็ก ๆ
และในภาคเรียนที่ 2 ทางโรงเรียนก็จะทำการจัดกิจกรรม หรือที่เรียกว่า Phenomenon-Based Learning Fair ซึ่งจะเป็นกิจกรรมที่เหล่าผู้ปกครองจะได้เข้ามาชื่นชมผลงาน โดยภายในงาน เด็ก ๆ จะได้นำเสนอโปรเจกต์ของตัวเองในภาคเรียนที่ 1 และแน่นอนว่าในงานนี้คุณพ่อคุณแม่จะได้เห็นว่าเด็ก ๆ ได้เรียนรู้อะไรบ้างในภาคเรียนที่ผ่านมา และเป็นเรื่องที่ดีที่เด็ก ๆ จะได้ทดลองสวมบทบาทเป็นผู้ที่ให้ความรู้แก่ผู้อื่น หรือได้เป็นผู้นำในการแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้มา และนี่ถือเป็นไอเดียหลัก ๆ ในการเรียนการสอนแบบ PhBL นั่นเอง
Thai International School ให้ความสำคัญต่อการเรียนรู้นอกห้องเรียนเป็นอย่างมาก ภายในโรงเรียนมีกิจกรรมมากมายให้เด็ก ๆ ได้ออกไปเรียนรู้ และหาคำตอบด้วยตัวเองอยู่เสมอ มีกิจกรรมที่อาจหาไม่ได้ในโรงเรียนอื่น ๆ แม้จะเป็นโรงเรียนนานาชาติ แต่ทางโรงเรียนก็ยังสอดแทรกความเป็นไทยผ่านการทำกิจกรรมภายในโรงเรียนให้เด็ก ๆ อยู่เสมอ เช่น กิจกรรมปลูกข้าว ให้เด็ก ๆ ทุกชั้นเรียน ได้ร่วมกันเรียนรู้กระบวนการปลูกข้าวอย่างละเอียดทุกขั้นตอน และได้ทดลองลงมือทำจริง
นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคสมัย การเรียนรู้หลายอย่างจำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยี จึงต้องประยุกต์เอาประโยชน์ของเทคโนโลยีมาใช้ในการเรียนรู้อย่างเหมาะสม เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้การนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในชีวิตประจำได้อย่างถูกต้อง รวมไปถึงวิธีการหารายได้เสริมจากเทคโนโลยี เช่น เทคนิคการซื้อขายออนไลน์ การสตรีมมื่งในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เป็นต้น
จะเห็นได้ว่าการเรียนการสอนที่ Thai International School ให้ความสำคัญมาโดยตลอด คือ การเรียนการสอนแบบ Learning by Doing อยู่ภายใต้หลักสูตร PhBL ซึ่งเป็นการเรียนรู้ในรูปแบบนี้จะทำให้เด็ก ๆ มีความรู้จากความเข้าใจ และมีโอกาสได้หาคำตอบในเรื่องที่ตัวเองต้องการรู้ด้วยตัวเอง และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมการเรียนรู้ผ่านหลักสูตร PhBL จึงเห็นผลสัมฤทธิ์ในระยะยาวกว่าการท่องจำในห้องเรียน
หากสนใจหลักสูตรการเรียนรู้ Phenomenon-Based Learning สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ Thai International School
อ้างอิง thaiinternationalschool eef
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
แนะนำกิจกรรม ‘บทบาทสมมุติ’ เป็นอะไรก็ได้ที่ลูกต้องการ เพื่อพัฒนาการเรียนรู้
เตรียมสมองให้พร้อมเสมอ เพื่อการเรียนรู้นอกกรอบ เคล็ดลับความสำเร็จของเด็กเจนอัลฟาที่พ่อแม่ต้องรู้
รวมค่าเทอมโรงเรียนปี 2023 อัพเดทใหม่ล่าสุด ต้องเตรียมเงินเท่าไหร่ไปส่องกัน