หนิง ศรัยฉัตร แนะสอนภาษาอังกฤษให้ลูกง่ายนิดเดียว
หนิง ศรัยฉัตร แนะสอนภาษาอังกฤษให้ลูกง่ายนิดเดียว มาดูกันดีกว่าว่า คุณหนิง จะแนะนำเรื่องการ สอนภาษาอังกฤษกับลูกน้อยว่าอย่างไรบ้าง ทำอย่างไร ให้ ภาษา อังกฤษ ของลูก มีความสามารถ และ ทักษะ ด้านภาษา ที่ดีมากกว่าที่คิด
วันนี้ theAsianparent จึงขอสัมภาษณ์คุณแม่เวิร์คกิ้งมัมคนเก่งท่านนี้ ลองมาดูคำแนะนำของคุณหนิง ศรัยฉัตรกันค่ะ
theAsianparent: คุณหนิงมีวิธีการปูพื้นฐานหรือเตรียมพร้อมด้านภาษาอังกฤษให้กับน้องเบลล่าอย่างไรบ้างคะ
หนิงพูดภาษาอังกฤษกับลูกตั้งเเต่เกิดค่ะ จะสอนคำไหน ก็พูดคำนั้นทั้งไทยเเละอังกฤษ เเบ่งการอ่านหนังสือภาษาไทยเเละภาษาอังกฤษอย่างละครึ่ง ให้ความสำคัญกับภาษาไทยมากกว่า เพราะตั้งใจเลือกโรงเรียนอินเตอร์ให้ลูกเรียนอยู่เเล้วค่ะ แต่สำคัญคือต้องมีคนที่บ้านที่พร้อมสื่อสารกับเขาได้ทั้งไทยเเละอังกฤษ
theAsianparent: ทำไมจึงตัดสินใจส่งลูกเข้าเรียนในโรงเรียนอินเตอร์คะ
ชีวิตหนิงคือตัวอย่างที่ดีที่สุด การได้สองภาษาทำให้หนิงมีโอกาสในชีวิตมากมาย ได้เปรียบในเเง่ของการทำงาน เเต่ทั้งนี้ที่หนิงได้โอกาสอันดี เพราะหนิงได้ทั้งไทยเเละอังกฤษ พูด เขียน อ่าน ได้ทั้งคู่ จึงอยากให้ลูกมีโอกาสเเบบหนิงค่ะ เเถมโรงเรียนอยู่ในซอยบ้าน สะดวก หนิงได้มีโอกาสเรียนทั้งโรงเรียนที่อเมริกา เเละโรงเรียนไทย เห็นความเเตกต่างอย่างชัดเจน อยากให้ลูกมีทัศนคติที่ดีต่อการไปโรงเรียน หนิงเรียนเมืองไทยหนักมาก หลายอย่างเรียนไปไม่รู้เรียนไปทำไม การไปโรงเรียน ไม่ใช่เรื่องสนุก เเต่ไปโรงเรียนทีอเมริกา กลับเป็นเรื่องที่น่าสนุก สุขภาพจิตดี หนิงไม่เน้นให้ลูกต้องเป็นที่หนึ่ง หนิงอยากให้ลูกเรียนเพื่อค้นหาสิ่งที่เขาชอบคะ
ทางเลือกโรงเรียนอินเตอร์แบบสิงคโปร์
theAsianparent: มีวิธีสอนให้น้องเบลล่าปรับตัวอย่างไรกับทั้งสองภาษา รวมทั้งปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมที่แตกต่างคะ
พูดทั้งสองภาษาอย่างชัดเจน หนิงพูดภาษาอังกฤษ ให้คุณพ่อพูดไทย ส่วนวัฒนธรรมบางอย่าง เวลาลูกมีพฤติกรรมเเบบเด็กฝรั่ง จะไม่ดุ เพราะฝรั่งเขาทำกันปกติ เเต่จะสอนเขาว่าคนไทยไม่ทำ ฉะนั้นลูกต้องเรียนรู้ปรับตัวให้ได้ว่า อยู่กับคนไทย เป็นอย่างไร อยู่กับฝรั่งเป็นอย่างไรค่ะ สำคัญคือพ่อเเม่เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด ต้องทำให้ลูกเห็นค่ะ
theAsianparent: จากการส่งลูกเข้าเรียนในโรงเรียนอินเตอร์ คิดว่าข้อดีและข้อเสียของเด็กสองภาษามีอะไรบ้างคะ
ข้อดี คือเรื่องภาษาเเน่นอน สุขภาพจิตดี กล้าเเสดงออก วันนึงไปเรียนต่อลูกก็ช่วยเหลือตัวเองได้ ข้อเสียคือจะอ่อนภาษาไทย เเละเป็นฝรั่งมากไป เเต่หนิงว่าสภาพเเวดล้อมเเก้ได้ค่ะ หนิงว่าได้ 2 ภาษาจะมีโอกาสที่มากกว่า หนิงถือว่าเป็นการลงทุนให้ลูก
theAsianparent: อยากให้ช่วยแนะนำคุณแม่ท่านอื่น ๆ ที่ลูกเรียนในโรงเรียนไทย ว่าควรปูพื้นฐานภาษาอังกฤษให้ลูกอย่างไรบ้าง
พูดกับเขาเยอะ ๆ ค่ะ สนับสนุนเขาให้กล้าพูด กล้าอ่าน ถ้าพ่อเเม่ไม่พูด ลูกก็ไม่พูด อย่าเเอนตี้ความเป็นตะวันตก เพราะภาษาอังกฤษ คือ ภาษาที่จะทำให้ลูกได้เปิดโลกกว้าง ถ้าเป็นไปได้ เวลาปิดเทอม ลองให้ลูกเรียนซัมเมอร์ที่โรงเรียนอินเตอร์ดูค่ะ หนิงเห็นเด็ก ๆ จากโรงเรียนไทยมาเรียนที่โรงเรียนเบลล่าในช่วงซัมเมอร์ด้วย เป็นไอเดียที่ดีมากค่ะ หรือถ้ามีโอกาสส่งไปซัมเมอร์ต่างประเทศ ภาษาอังกฤษต้องเรียนตั้งเเต่เล็กถึงจะได้สำเนียง เมื่อได้เเล้วได้เลย ฉะนั้นควรลงทุนในช่วง 10 ปีเเรกของลูก
theAsianparent: คุณหนิงได้จัดทำหนังสือสองภาษาด้านธรรมะให้กับเด็ก และเร็ว ๆ นี้ได้เปิด เว็บไซต์ saraichatt.com อยากทราบว่าได้รับแรงบันดาลใจอย่างไรคะ จึงเกิดเป็นผลงานเหล่านี้ขึ้น
นิทานธรรมะ เกิดจากเเรงบันดาลใจที่เราอ่านนิทานให้ลูกฟังทุกวัน ไม่ต่ำกว่า 5 เล่มต่อวัน เเละก่อนนอนทุกคืน วันนี้คิดว่า อยากให้เขาได้อ่านนิทานที่เเม่เขียน เลยลองหาเรื่องที่ยังไม่ค่อยมี ปรากฏว่านิทานธรรมะมีน้อยมาก ทั้ง ๆ ที่เราเป็นเมืองพุทธ อีกอย่าง คือ อยากปลูกฝังจริยธรรมให้ลูกตั้งเเต่เล็ก ทุกวันนี้ลูกไม่กล้าใส่ขาสั้นหรือเเขนกุดไปวัด นั่นเพราะเราสอนเขา ส่วนเรื่อง blog เกิดจากกระเเส blogger ที่มีเยอะขึ้น เเต่ยังไม่เห็นเซเลบคนไหนทำครอบคลุมทุกเรื่อง หนิงได้เปรียบมีงานพิธีกรทุกวัน เเถมหลากหลาย ประกอบกับเป็นครอบครัวไฮเปอร์ มีกิจกรรมตลอด เลยอยากเเบ่งปันประสบการณ์ต่าง ๆ ในชีวิต เเละรองรับงานพิธีกร เผื่อว่างานลดลง ก็ยังมีบล็อกให้ทำ ในขณะเดียวกันการมี blog ยังทำให้ได้งานเพิ่ม ทั้ง mc เเละงานจ้างลง blog เปิด 1 เดือน มีรายได้เข้า 6 หลัก ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะยังไม่มีคู่เเข่ง เเละ blogger ที่เป็นceleb mom ยังไม่มีค่ะ รวมทั้งประสบการณ์ชีวิตเเละภาพลักษณ์ของหนิง ทำให้คนอ่านเชื่อถือด้วยในขณะเดียวกัน หนิงนำเสนออย่างจริงใจ เเละเป็นตัวตนของหนิงที่ทำจริง ๆ ไม่มีหลอก เช่นเรื่องออกกำลังกายที่ทำมาปีกว่าแล้วค่ะ
theAsianparent: ในฐานะที่เป็น working mom มีวิธีการแบ่งเวลาให้ลูกอย่างไรบ้างคะ
เป็น mc ก็มีเวลาว่างเยอะคะ ได้เปรียบกว่าคนทำงานออฟฟิศ หนิงสามารถพาลูกไปไหนมาไหน พามาทำงานได้ด้วย ฉะนั้นถึงวันนี้ ดูจะทำงานมากเเค่ไหน เเต่คิดว่าตัวเองเป็น fulltime mom เสมอ วางเเผนทุกอย่างในชีวิต เวลาลูกไปโรงเรียน คือ เวลาที่หนิงได้ทำธุระอื่น ๆ เช่น mc หรือ ออกกำลังกาย เเต่จะไม่เบียดเบียนเวลาลูก เช่น ก่อนนอน คือ ช่วงของลูกที่ต้องให้เวลา ได้อ่านนิทานเเละนอนคุยกัน
เลี้ยงลูกสไตล์คุณแม่งานเยอะกับฮันนี่ ชลพรรษา นารูลา
theAsianparent: แล้วน้องเบลล่าเคยทำอะไรให้แล้วรู้สึกประทับใจที่สุดคะ
ทุกอย่างค่ะ เรารักกันมาก คงเพราะหนิงเลี้ยงเองตั้งเเต่เกิด การที่เขาติดเรามาก ๆ นั้นเพราะเขารักเรา เคยบอกเขาว่ามนุษย์ทุกคนต้องมีวันตาย วันนึงถ้าเเม่ตาย เเม่จะเป็นดาว เเล้วรอลูก เบลล่าร้องไห้ กอดหนิง บอกว่า ไม่อยากให้เเม่ตาย หนิงบอกว่า เเม่ก็ไม่อยากตาย ไม่มีใครอยากตาย ถ้าเลือกได้เเม่อยากอยู่กับเบลล่าตลอดไป เเต่มันคือธรรมชาติมนุษย์ เขาเลยบอกหนิงว่า ไม่เป็นไร ถ้างั้นเขาจะดูเเม่ที่เป็นดาว เเล้ววันนึงเขาจะตามไป มีครั้งนึงเขาป่วย ไอ ไม่หยุด พูดไม่ไหว เเต่ก็พยายามฝืนพูด เขาพูดผสมไอว่า เขารักเเม่ เเค่นี้หนิงก็ดีใจจะร้องไห้ เราให้ความสำคัญกับความรัก มากกว่าวัตถุ ให้ความสำคัญมากกว่าสิ่งอื่น วันนี้ลูกหลับในรถ หนิงหลับข้าง ๆ เขาตื่นมา รีบเอาผ้าห่มของตัวเองห่มหนิง เขารู้จักเสียสละ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้น เพราะเราทำให้เขา เขาก็ทำให้เรา เราอยากให้ลูกเป็นเเบบไหน ขอให้เราเป็นเเบบนั้นกับลูกค่ะ
จากบทสัมภาษณ์ของคุณหนิง ทุกท่านคงเห็นได้ว่าเธอเป็นคุณแม่ที่เยี่ยมยอดจริง ๆ ไม่ใช่แค่เรื่องการทุ่มเทให้กับลูกด้านภาษา แต่เธอยังเป็นทั้งคนทำงานและคุณแม่เต็มเวลาที่มอบแต่สิ่งดี ๆ ให้กับลูกและรักลูกอย่างสุดหัวใจ หากคุณแม่ทุกท่านลองนำคำแนะนำด้านการสอนภาษา และ การสอนลูกในเรื่องอื่น ๆ ของคุณหนิงไปใช้ น่าจะเป็นประโยชน์มากมายทีเดียวเลยค่ะ
theAsianparent.com สัมภาษณ์คุณหนิงไว้เมื่อเดือนกรกฎาคม 2556
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ :
500 ชื่อลูกชายภาษาอังกฤษ ชื่อเท่ๆ ชื่อเล่นชื่อจริง ทันสมัยเข้ายุค 2020
บุ๋ม ปนัดดา กับความประทับใจที่มีต่อลูก
5 นิทานเด็กภาษาอังกฤษ ที่ควรให้ลูกอ่าน สนุกได้ความรู้ภาษา