10 คำพูดที่เข้าใจหัวอกแม่ลูกอ่อนได้ตรงเป๊ะที่สุด!

ช่วง 3 เดือนแรกเป็นห้วงเวลาที่แม่ลูกอ่อนต้องเตรียมรับมือกับเวลานอนที่ไม่เป็นเวลา รวมถึงเวลานอนที่น้อยลง และไม่มีใครจะช่วยพวกคุณได้นอกจากแตะมือตื่นขึ้นมาเลี้ยงลูกกลางดึกกันเอง คำพูดที่เข้าใจหัวอกแม่ลูกอ่อนไม่มีอะไรมาก นอกจาก.....

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

10 คำพูดที่เข้าใจ หัวอก แม่ลูกอ่อน (ที่ไม่ค่อยมีเวลานอน)

แม่ลูกอ่อน หรือคุณแม่มือใหม่หลายๆคน คงกำลังรับมือกับเจ้าตัวน้อยอยู่ใช่มั้ยคะ โดยเฉพาะช่วงแรกๆที่ต้องปรับตัวคงเหนื่อยน่าดู หากได้ยินคำพูดที่เติมเต็มกำลังใจ คงมีกำลังใจเลี้ยงดูเจ้าตัวน้อยไม่มากก็น้อย
วันนี้เราเลยนำ 10 คำพูดที่เข้าใจหัวอกแม่ลูกอ่อนได้ตรงเป๊ะที่สุด มาฝากกันค่ะ

#1 “ให้ช่วยอะไรไหม”

หากมีแขกมาเยี่ยมบ้าน คำถามที่จะทำให้แม่ลูกอ่อนดีใจตีกลองรัว ๆ ก็คือคำถามง่าย ๆ อย่าง “ให้ช่วยอะไรไหม” ไม่ว่าจะเป็นการหยิบผ้าอ้อม หรือเข้าไปครัวเพื่อจัดอาหารมื้อกลางวันมาให้คุณแม่ได้ทานซักมื้อ หลังจากที่หมดแรงดูลูกมาทั้งคืน

แม่ลูกอ่อน-1

#2 “เธอยังดูดีอยู่นะ”

สิ่งหนึ่งที่แม่ลูกอ่อนกลัวที่สุดนั่นก็คือ การมีหน้าตาที่แลดูโทรมมาเกินไป จนไม่กล้าจะรับแขก สิ่งที่ช่วยสร้างกำลังให้พวกเธอได้ก็คือ พูดคำพูดอย่าง “เธอดูดีจัง” หรือ “เธอดูสวยจริงๆ”

#3 “ฉันทำอาหารมาให้นะ”

เจ้าตัวน้อยแรกเกิดนั้นเต็มไปด้วยความต้องการอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการหิวนม เปลี่ยนผ้าอ้อม หรืออยากให้อุ้มตลอดเวลา การไม่ค่อยได้หลับได้นอนของแม่ลูกอ่อนนั้นมักทำให้ไม่ค่อยได้ติดต่อกับใคร และบางทีก็แทบจะไม่ได้กินอะไรเลย มันเป็นเรื่องยากที่จะหาเวลาหรือเรี่ยวแรงที่จะลุกขึ้นมาทำอาหารเมื่อคุณต้องคอยดูแลทารกแรกเกิด ดังนั้นแค่มีใครเข้ามาเยี่ยมแล้วติดอาหารมาซักถุงสองถุง ก็เหมือนสวรรค์ส่งมาโปรดเชียวล่ะ

#4 “มีผลไม้มาฝากจ้า”

หนึ่งในของเยี่ยมแม่ลูกอ่อนที่มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพคือ การเลือกซื้อผลไม้ที่จะช่วยให้แม่ลูกอ่อนได้วิตามินและธาตุอาหารต่าง ๆ เพื่อต่อสู้กับการที่ต้องนอนน้อย การออกซื้อของในซุปเปอร์มาเก็ตนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่ง่ายเลยเมื่อเพิ่งมีลูกแรกเกิด ดังนั้นการที่คุณได้ซื้อของไปฝากแม่ลูกอ่อนนั้นจะช่วยประหยัดเวลาและสร้างความประทับใจให้กับคุณแม่สุด ๆ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คำพูดที่เข้าใจหัวอกแม่ลูกอ่อน เอาไปฝากคุณแม่กัน หน้าถัดไปนะคะ >>

แม่ลูกอ่อน-2

#5 “เจ้าตัวน้อยน่ารักมาก”

ประโยคที่แม่ได้ยินแล้วจะปลื้มสุด ๆ แถมไม่มีเบื่อกับคำพูดแบบนี้ซ้ำ ๆ เลยละ พวก

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

#6 “คุณเป็นแม่ได้ดีแล้วนะ”

แน่นอนว่ามันต้องใช้เวลาซักพักในการปรับตัวมาเป็นแม่มือใหม่ สิ่งที่จะช่วยให้กำลังใจแม่ลูกอ่อนทั้งหลายได้คือ การที่เขาได้ทำหน้าที่คุณแม่ได้ดีเยี่ยมที่สุดแล้ว

#7 “งีบซักนิดไหมจะช่วยดูเจ้าตัวน้อยตอนหลับให้”

แม่ลูกอ่อนอาจจะใช้ช่วงเวลาที่มีคนมาเยี่ยมงีบพักซักหน่อยในขณะที่เจ้าตัวน้อยก็นอนหลับอยู่เช่นกัน หรืออาจจะได้เข้าห้องอาบน้ำ ทำธุระส่วนตัว แม้เพียงแค่ 20 นาทีที่ได้พักมันก็เพียงพอที่จะทำให้คุณแม่มือใหม่ทั้งหลายรู้สึกกระชุ่มกระชวยอีกครั้ง

#8 “เจ้าตัวน้อยนี่ดูช่างเป็นเด็กที่มีความสุขจริง ๆ”

บอกให้แม่มือใหม่ได้ชื่นใจว่าลูกของเขาดูมีความสุขแค่ไหนและสัมผัสได้ถึงความรักและความใกล้ของแม่ลูกที่คุณได้เห็น

#9 “อีกไม่นานลูกก็นอนนานขึ้นเอง”

กำลังส่วนสำคัญคือการบอกเล่าของผู้มีประสบการณ์ที่จะเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าสถานการณ์ที่อดหลับอดนอนของแม่ลูกอ่อนนี้มันเป็นแค่ช่วงเวลาไม่กี่เดือนเท่านั้น เพราะอีกไม่นานการนอนของลูกน้อยจะเป็นเรื่องง่ายขึ้น และลูกก็จะเริ่มนอนได้นานขึ้น

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

และประโยคสุดท้ายสำหรับคุณพ่อที่เหมาะสำหรับพูดให้กำลังใจแม่ลูกอ่อนที่สุด

แม่ลูกอ่อน-3

#10 “พ่ออยู่ตรงนี้เสมอเมื่อไหร่ก็ตามที่แม่ต้องการ”

แน่นอนว่าพ่อลูกอ่อนต้องมีส่วนร่วมในการเลี้ยงดูลูกน้อยด้วย แต่อาจจะไม่ทั้งหมด เพราะในช่วงแรก ๆ เจ้าตัวน้อยจะต้องการอะไรที่มากกว่าจากแม่ การที่พ่ออยู่ข้าง ๆ นั้นอย่างน้อยก็จะได้เป็นกำลังใจและทำให้คุณแม่สบายใจขึ้น เมื่อรู้ว่ามีคุณอยู่เพื่อที่จะคอยช่วยเธอเมื่อยามที่เธอนั้นต้องการ

กว่าจะเข้าใจว่าการเป็นแม่คนนั้นต้องเสียสละเป็นอย่างมาก ก็ตอนที่ได้ตั้งท้องเองนี่แหละค่ะ ตลอดการอุ้มท้องตลอด 9 เดือน คุณแม่ต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมากมาย ทั้งด้านสภาพร่างกายและสภาพจิตใจ ที่จะเป็นบททดสอบให้คุณแม่เตรียมรับกับบทบาทที่หนักกว่านั้นในการเลี้ยงดูทารกในครรภ์ที่คลอดออกมา เปลี่ยนจากคุณแม่ที่อุ้มท้องมาเจอกับวิถี แม่ลูกอ่อน ที่ต้องสตรองสุด ๆ เรารวมมาให้ได้ดูกันว่าวิถีแม่ลูกอ่อนนั้นต้องสตรองกันขนาดไหน

อดหลับอดนอน จนตาเป็นหมีแพนด้า

คลอดเบบี๋แล้วก็ใช่ว่าจะหมดหน้าที่นะคะ บททดสอบความสตรองของแม่ลูกอ่อนเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น เตรียมใจไว้เลยกับการอดหลับอดนอน เพราะต้องคอยดูแลเจ้าตัวเล็กที่ตื่นบ่อย หิวบ่อยทุก ๆ 3-4 ชั่วโมง คุณแม่ก็เลยต้องคอยสแตนบายเพื่อตื่นขึ้นมาให้นมลูกในตอนกลางคืน และเฝ้าดูลูกในตอนกลางวัน แต่คุณแม่ก็ต้องไม่ลืมที่จะดูแลตัวเองด้วยเหมือนกันนะคะ อย่างการหาเวลางีบระหว่างวัน จะครึ่งชั่วโมงหรือ 1 ชั่วโมงก็ช่วยเติมพลังได้

ผมร่วงเป็นกำ ๆ เห็นแล้วมันช้ำใจ

คุณแม่หลังคลอดกว่า 50% ต้องเจอแน่กับปัญหาผมร่วง ซึ่งมักจะเกิดขึ้น 3 เดือนหลังคลอด ที่ต้องบอกให้คุณแม่ลูกอ่อนต้องสตรองนั่นเป็นเพราะว่าเส้นผมที่หลุดร่วงนั้นเยอะจนน่าตกใจนั้น ไม่ใช่แค่เส้นสองเส้น แต่ร่วงเป็นกำ ๆ นับได้ถึงวันละ 400-500 เส้นเลยล่ะ โดยเฉพาะตอนที่หวีผมและสระผม ช่วงนี้คุณแม่ก็เลยอยู่ในช่วงระยะทำใจ สตรองเข้าไว้ เดี๋ยวเส้นผมเส้นใหม่ก็จะขึ้นมาแทนภายใน 6-12 เดือน

มาม่าบลู ซึมเศร้าหลังคลอด

คุณแม่หลังคลอดจำนวนหนึ่งต้องเผชิญกับอาการมาม่าบลู หรือภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ซึ่งเป็นผลมาจากฮอร์โมนของคุณแม่ ที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งมีปัจจัยอื่น ๆ มากระตุ้นอารมณ์และสภาพจิตใจ เช่น ความเครียดจากการเลี้ยงลูก พักผ่อนน้อย ปรับตัวกับความเป็นแม่ไม่ทัน หรือแม้แต่ความสัมพันธ์กับสามี จนเกิดเป็นความวิตกกังวล รู้สึกไม่มีความสุข ร้องไห้บ่อย ๆ แบบไม่มีสาเหตุ น้อยใจง่าย โดยมีระยะเวลาตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป จนถึงเป็นสัปดาห์ หรือกินเวลานานเป็นเดือน

โดยคุณแม่สามารถป้องกันอาการมาม่าบลู หรือภาวะซึมเศร้าหลังคลอดได้ เริ่มตั้งแต่การดูแลตัวเองเมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์ หลีกเลี่ยงเรื่องที่ทำให้เครียด หรือเมื่อไหร่ที่รู้สึกเครียด ไม่สบายใจ ไม่ควรเก็บไว้คนเดียว หมั่นพูดคุยหรือระบายให้สามีและคนใกล้ชิดฟัง หรือหาเวลาพักผ่อนคลายความเครียดบ้าง จะได้ก้าวผ่านอาการมาม่าบลูนี้ไปได้นะคะ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เจอสารพัดปัญหาตอนให้นมลูก

คุณแม่อาจจะรู้สึกว่าขนาดหน้าอกหน้าใจดูม ๆ ตู้มมากมาตั้งแต่ตอนตั้งครรภ์ แต่จะมาพีคสุด ๆ ก็ตอนใกล้คลอดไปจนถึงหลังคลอด แต่นอกจากขนาดหน้าอกที่คุณแม่เป็นปลื้มแล้ว ยังมีอีกหลายปัญหาให้ต้องเตรียมรับ หนึ่งในนั้นก็คือปัญหาระหว่างการให้นมลูก มีตั้งแต่คัดตึงเต้านม เจ็บหัวนม หัวนมแตก หรือเต้านมอักเสบ เพื่อเป็นการทดสอบความสตรองของคุณแม่ ที่แม้จะเจ็บขนาดไหน คุณแม่ก็ทนได้ เพื่อให้ลูกได้สารอาหารที่ดีที่สุดจากนมแม่  

เซ็กส์ยังไม่พร้อม สามีรอก่อนนะ

หลังคลอดคุณแม่ควรรอไปก่อนประมาณ 4-6 อาทิตย์ เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัว ฮอร์โมนทุกอย่างในร่างกายของคุณแม่กลับเป็นปกติ รวมทั้งปรับสมดุลของฮอร์โมนเพศในร่างกายที่มีส่วนในการกระตุ้นช่องคลอดให้แข็งแรง และมีน้ำหล่อลื่นอย่างเหมาะสม แต่เพราะคุณแม่หลังคลอดต้องโฟกัสกับการเลี้ยงลูก เลยอาจทำให้หมดพลัง และมีอารมณ์ทางเพศเหือดหาย งานนี้คงต้องบอกให้สามีร้องเพลงรอไปก่อน เอาไว้ปรับตัวรับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ แล้วค่อยกลับมาสปาร์คกันเหมือนเดิม

ถือเป็นหลาย ๆ บททดสอบที่คุณแม่ลูกอ่อนต้องเจอในชีวิตจริง นอกเหนือจากการเลี้ยงดูทารกในครรภ์ที่ให้แข็งแรงสมบูรณ์นะคะหลัก ๆ แล้วคงต้องอาศัยการปรับตัวของคุณแม่เป็นหลัก ซึ่งก็ได้เห็นกันแล้วว่าวิถีแม่ลูกอ่อนนั้นต้องสตรองกันขนาดไหน แบบนี้ต้องขอยกนิ้ว ปรบมือให้รัว ๆ


Credit content : www.bellybelly.com.au

 

theAsianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น theAsianparent Thailand ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งาน เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว 

การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก theAsianparent Thailand เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง

เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”

 

บทความอื่นที่น่าสนใจ :

6 คำพูดไม่ควรพูดทำร้ายลูกวัยเตาะแตะ

7 คำพูดที่แม่ท้องจะโดนทักตอนตั้งครรภ์

14 คำที่ไม่ควรพูดกับพ่อแม่ คำพูดเล็กน้อย แต่ทำร้ายจิตใจไปทั้งชีวิต

8 คำพูดที่ลูกอยากได้ยินจากพ่อแม่ รู้แล้วลองทำซะ!

5 คำพูดพ่อแม่ ที่ลูกชอบแสดงออกด้วยการทำ “หูทวนลม”

 

 

บทความโดย

Napatsakorn .R