แม่ซ่อน ศพเด็ก 4 คน ไว้นาน 20 ปี ยังอยากอยู่ใกล้ ๆ แม้ไร้วิญญาณแล้ว

lead image

ยังอยากอยู่ใกล้ ๆ แม้ไร้วิญญาณแล้ว แม่ซ่อนศพเด็ก ไว้เป็นเวลานานถึง 20 ปี โดยเก็บลูกสามคนไว้ในตู้เสื้อผ้า ส่วนคนที่สี่ แอบฝังศพไว้ที่สุสาน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

แม่ซ่อน ศพเด็ก ไว้นานถึง 20 ปี

ถึงแม้จะสูญเสียลูกไปแล้ว แต่บางครั้งก็ยังผูกพัน Bernadette Quirk วัย 55 ปี แม่ซ่อน ศพเด็ก โดยซ่อนทารกตายคลอดทั้งสามคนของเธอไว้ในตู้เสื้อผ้า และแอบฝังศพคนที่สี่ไว้ในสุสาน เก็บความลับนี้ไว้เป็นเวลานานถึง 20 ปีกว่าจะมีคนไปเจอ!

 

แม่ซ่อนศพเด็ก

 

คุณอาจจะเคยได้ยินเรื่องสยองขวัญเกี่ยวกับคุณแม่ที่เจอเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจจนกลายเป็นปม แล้วเกิดปัญหาทางจิตใจกันมาบ้าง เหมือนอย่าง Bernadette Quirk ที่สูญเสียลูกไปถึง 4 คน แล้วเธอก็ได้เก็บศพลูกทุกคนเอาไว้

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

เธอซ่อนทารกตายคลอดทั้งสี่ไว้ในบ้าน เหตุเกิดครั้งแรกตั้งแต่ปี 1985 หลังจากมีคนจับได้ เธอก็ยอมรับว่าซ่อนทารกทั้งสามไว้ในตู้เสื้อผ้าของเธอมาตลอด 20 ปี โดยนำศพทารกห่อด้วยผ้าขี้ริ้ว และทิ้งลงถังขยะที่อยู่ในตู้เสื้อผ้า ส่วนทารกคนที่สี่ถูกฝังอยู่ในสุสาน

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

Bernadette Quirk ต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากในชีวิต ติดเหล้า และเธอก็เป็นโรคซึมเศร้าด้วย แถมยังเกือบถูกขับไล่ออกจากบ้านอีกต่างหาก

แม้ว่า Quirk จะย้ายบ้านหลายครั้งในช่วงเวลาระหว่างปี 1985-1995 แต่เธอก็นำลูกน้อยของเธอติดตัวไปด้วยทุกครั้ง ไม่แน่ใจว่าทำไมเธอถึงทำเช่นนั้น บางคนคิดว่าเป็นเพราะเธอยังคงเศร้าโศกและผูกพันกับลูก ส่วนบางคนรู้สึกว่าเธออาจจะกลัวถูกจับ เพราะการกระทำเช่นนี้ถือว่ามีความผิด

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

สิ่งที่น่าประหลาดใจคือเธอบอกว่า เธอจำไม่ได้ว่าได้คลอดลูกคนที่สี่ เธอยอมรับว่าเมื่อ 20 ปีก่อน ตอนที่เธอท้อง เธอรู้สึกสับสนมาก แต่หลังจากนั้นเหมือนความทรงจำในอดีตก็ถูกลบล้างไปจากความคิดของเธอซะเฉย ๆ

จนถึงตอนนี้ผู้พิพากษาก็ยังไม่สามารถหาข้อสรุปกับเรื่องนี้ได้ เพราะเขาจำเป็นต้องได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภูมิหลังของคุณแม่มากขึ้นก่อน แต่ตัวคุณแม่ยังคงมีปัญหาทางสุขภาพจิต เธอยืนยันว่าจำรายละเอียดต่าง ๆ ไม่ได้ แม้ว่าเธอจะสารภาพผิดกับเรื่อง ศพเด็ก ทั้ง 4 แล้วก็ตาม

 

 

การสูญเสียลูกที่อุ้มท้องมาเป็นเวลานึง นับว่าเป็นสิ่งที่น่าเศร้า และยากที่จะยอมรับความจริงกับการลาจากได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็อย่าจมกับความเศร้ามากเกินไป ควรดูแลสุขภาพให้ดี ในอนาคตคุณแม่อาจจะมีโอกาสให้กำเนิดลูกน้อยน่ารัก ๆ อีกก็ได้นะ

 

เสียศูนย์

นับตั้งแต่วันที่ลูกลืมตาดูโลก สิ่งต่าง ๆ ในครอบครัวจะเปลี่ยนแปลงไป อย่างมาก ความสนใจทั้งหมดของคนสองคน ที่เคยมีให้แค่กัน และ กันจะถูกปันไปให้สมาชิกใหม่ของครอบครัว ชีวิตประจำวันจะถูกปรับ เพื่อ ให้เข้ากับวงจรชีวิตของเจ้าตัวน้อย แม้คุณพ่อ และ คุณแม่หวังว่าจะยังคงให้เวลากันและกัน แต่ แน่นอนว่าเวลาส่วนใหญ่ของทั้งคู่จะหมดไปกับการช่วยกันดูแลลูกน้อย เมื่อลูกจากไป สิ่งต่าง ๆ ในครอบครัวก็จะเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เจ็บปวด

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เมื่อลูกจากไป ชีวิตประจำวันที่เคยถูกปรับให้เข้ากับวงจรชีวิตของลูก ก็จะต้องเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน ทุก ๆ อย่างที่คุณทำในแต่ละวันจะคอยย้ำเตือนถึงช่วงเวลาที่ยังมีเขาอยู่ในครอบครัว และ เหลือไว้เพียงความว่างเปล่า เราเคยป้อนข้าวเขาเวลานี้ เคยพาเขาไปเล่นที่สวนเวลานั้น ฯลฯ ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน และ ไม่คาดคิด ทั้งพ่อ และ แม่ต่างไม่พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรกับเวลา และ พลังงานที่เคยทุ่มเทให้ลูก เจ้าตัวน้อยที่เราเคยรัก และดูแลได้จากโลกนี้ไปแล้ว ไม้ว่าทั้งคู่จะสามารถทำใจยอมรับกับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ได้ แต่ ความเจ็บปวดมักทำให้หลายคนเหินห่างจากกัน ทั้ง ๆ ที่ควรจะดูแลกันอย่างใกล้ชิด เพื่อรักษาชีวิตคู่ให้อยู่ต่อไป พฤติกรรมเช่นนี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ เหตุผลหลัก คือ ทั้งคู่มักไม่อยู่ในสภาพที่สามารถให้กำลังใจอีกฝ่ายได้ ต่างคนต่างบอบช้ำ และ ต่างก็ต้องการที่พึ่งในช่วงที่ตัวเองกำลังเจ็บปวด

เมื่อทั้งพ่อ และ แม่ต่างอ่อนแอเกินกว่าจะที่พึ่งให้กัน ทั้งคู่จึงเริ่มเหินห่างกัน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ทั้งคุณพ่อ และ คุณแม่ควรปรึกษาจิตแพทย์หรือหาคนที่สามารถพูดคุยด้วยสม่ำเสมอเพื่อสร้างกำลังใจ แทนที่จะตีตัวออกจากกัน เราควรหันหน้าเข้าหากัน หรืออย่างน้อยที่สุด ก็อยู่ในจุดเดิมจนกว่าจะรู้สึกแข็งแรงขึ้น สิ่งที่เลวร้ายอีกสิ่งหนึ่งที่พ่อแม่มักทำเมื่อสูญเสียลูกไป คือ การโทษอีกฝ่าย ในช่วงเศร้าโศกอย่างหนัก การโบ้ยความผิดให้ใครสักคน หรือ อะไรสักอย่างถือเป็นพฤติกรรมปกติตามธรรมชาติ เราต่างพยายามหาคำตอบให้กับคำถาม “ทำไม?” อีกร้อยคำถามที่วนเวียนอยู่ในหัว และ เรามักเลือกที่จะโทษคนอื่นเพื่อระบายความเจ็บปวด ชีวิตคู่จะสะบั้นลงเมื่อเราเริ่มโทษกันและกัน ต่างฝ่ายอาจต่างโทษตัวเองแม้ว่ามันอาจจะไม่ใช่ความผิดของพวกเขาเลยก็ตาม การโยนความผิดให้อีกฝ่ายยิ่งจะทวีความเจ็บปวดให้ตัวเอง ความคับแค้นใจก่อตัวขึ้น จนถึงจุดที่ความรักที่เคยมีให้กัน กลับกลายเป็นความเกลียดชัง

 

ที่มา : theasianparent

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ศพทารกโผล่กลางถนน เร่งพิสูจน์เด็กตายก่อน หรือคลอดแล้วถูกฆ่า คาดหล่นจากรถเก็บขยะ

9+ GOLD MOM CLINIC EP.1 สารอาหารสำคัญ & เพื่อ 1,000 วันแรก ที่สมบูรณ์ โดย พญ.นพรัตน์ ไชยบูรณะพันธ์กุล สูตินรีแพทย์ประจำ รพ. พญาไท 3

แม่ทิ้งศพลูกแรกเกิดในล็อคเกอร์ รับสารภาพซ่อนศพทารก ย้ายตู้ไปเรื่อย 4-5 ปีแล้ว

บทความโดย

PP.