แล้วฉันก็เจอกับตัวเอง ‘ท้องก่อนแต่ง’

การตั้งครรภ์ก่อนแต่งงานหรือท้องก่อนแต่งดูเหมือนจะเป็นเรื่องเกือบจะธรรมดาไปแล้วในบ้านเรา แต่เอาเข้าจริงสำหรับเมืองไทยที่ให้ผู้หญิงยึดถือธรรมเนียมประเพณีรักนวลสงวนตัว เรื่องท้องก่อนแต่งก็ยังเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ของผู้ใหญ่และยังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในหมู่คนทั่วไป

แล้วฉันก็เจอกับตัวเอง ท้องก่อนแต่ง

ฉันเองก็ยังเคยเผลอวิจารณ์คู่แต่งงานหลายคู่ที่แต่งงานกันสายฟ้าแลบว่าท้องก่อนแต่งแน่ ๆ โดยที่ไม่รู้ว่าวันหนึ่งก็จะเจอเข้ากับตัวเอง

ฉันกับแฟนคบกันมานานพอสมควรตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย จนกระทั่งเรียนจบและทำงานได้พักใหญ่ก่อนตัดสินใจว่าจะแต่งงานสร้างครอบครัวร่วมกัน เราปฏิบัติตามธรรมเนียมเข้าตามตรอกออกตามประตู พ่อแม่ของแฟนขึ้นมาจากต่างจังหวัดเพื่อมาสู่ขอฉันกับพ่อแม่ราวเดือนมีนาคมของปีนั้น และวางแผนว่าจะจัดงานแต่งงานในเดือนสิงหาคม ระหว่างนั้นเราก็เตรียมการเรื่องงานแต่งงาน และเมื่อกลับจากการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งที่ต่างจังหวัดในเดือนพฤษภาคม เรื่องที่ไม่คาดฝันของเราสองครอบครัวก็เกิดขึ้น

ประจำเดือนของฉันไม่มา ทั้ง ๆ ที่ปกติจะมาตรงเวลาไม่เคยผิดวัน ฉันเริ่มเครียด เสิร์จหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ทก็พบว่ามีเด็กสาวหลายคนที่เจอปัญหาเดียวกัน และส่วนใหญ่สุดท้ายก็“ท้อง” เพราะไม่ได้ป้องกัน แถมยังรู้สึกเหมือนโดนตำหนิ เพราะมีคนมาตอบกระทู้ในเชิงอบรมสั่งสอนเยอะมาก เช่น “ทำไมตอนทำไม่รู้จักคิด” “พวกชิงสุกก่อนห่าม” “รักสนุกทุกข์ถนัด” เป็นต้น ทำให้ฉันถึงกับขวัญเสียเหมือนว่าโดนคนเหล่านี้รุมทำร้ายอยู่ในใจ

อ่านต่อหน้าถัดไป

เอาล่ะ! เป็นไงเป็นกัน ฉันบอกเรื่องนี้กับแฟน และในวันที่แฟนขึ้นมากรุงเทพฯ เพื่อคุยเรื่องงานแต่ง เราก็ซื้อที่ตรวจครรภ์มาลุ้นกันสองคน และแล้วก็เป็นดังคาด ที่ตรวจครรภ์ขึ้นสองขีด ฉันท้อง!! เราทั้งสองตั้งใจอยู่แล้วว่าจะมีลูก การมีลูกจึงไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือลูกมาเร็วเกินไป เราจะบอกคนอื่นยังไง พ่อแม่ของฉันพวกท่านเป็นคนอนุรักษ์นิยมรับเรื่องนี้ไม่ได้แน่ ๆ ไหนจะเพื่อน ๆ ไหนจะญาติพี่น้อง ไหนจะเพื่อนที่ทำงาน เรื่องนี้คงเป็นประเด็นให้ได้พูดถึงกันอย่างสนุกปาก ฉันหงุดหงิดและคิดมากกับเรื่องนี้อยู่นาน และยังมีความรู้สึกยอมรับความจริงไม่ได้ จนกระทั่ง…

โชคดีที่วันถัดมาพี่ที่ทำงานเล่าถึงหนังสะท้อนชีวิตครอบครัวที่เพิ่งไปดูมาเรื่อง We Need to Talk About Kelvin เป็นเรื่องราวของนักเขียนสาวผู้รักอิสระมาก วันหนึ่งเธอเกิดมีลูกโดยไม่ทันตั้งตัว เธอจึงรู้สึกเหมือนลูกมาพรากชีวิตของเธอไป เธอเลี้ยงลูกโดยที่แทบไม่เคยให้ความรัก มีฉากหนึ่งที่ติดใจฉันมากคือ เธอทนเสียงร้องของลูกไม่ได้ จนถึงขั้นเข็นรถเข็นของลูกไปกลางสี่แยกที่กำลังมีการขุดเจาะถนน ให้เสียงก่อสร้างดังกลบเสียงร้องของลูก เรื่องซับซ้อนและเลวร้ายขึ้นเรื่อย ๆ เควินโตมาแบบไม่รู้จักความรัก และท้ายที่สุดเขาก็เป็นฆาตกรสังหารหมู่เพื่อนนักเรียนที่โรงเรียนเดียวกัน หนังเรื่องนี้กระทบใจฉันมาก จนฉันได้ตั้งสติ คิดว่ายังไง ๆ ลูกก็เกิดมาแล้วและฉันก็จะเลี้ยงลูกให้ดีที่สุดให้ความรักความอบอุ่นกับเขา ไม่ให้โตมาเหมือนเควินเด็ดขาด

หลังจากนั้นฉันจึงลางานไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล ทุกอย่างเรียบร้อยดี เรื่องนี้เป็นความลับสุดยอดที่มีเพียงฉัน แฟน และเพื่อนสนิทไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ ฉันกับแฟนตกลงกันว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับญาติพี่น้องคนไหนเลย จนกว่าจะแต่งงาน ส่วนเพื่อน ๆ ยิ่งแล้วใหญ่ อาจจะไปบอกก็ตอนคลอดลูกแล้วเลย และโชคดีมากที่ฉันแทบไม่มีอาการแพ้ท้อง มีอาการเหม็นอาหารมีกลิ่นอย่างกระเทียมบ้างเล็กน้อย และเคยอาเจียนเพียงครั้งเดียว จึงไม่เป็นที่สังเกตให้ใครได้จับพิรุธได้ ในวันแต่งงานฉันท้องได้สามเดือน และก็โชคช่วยอีกที่ท้องเล็กมากจนไม่มีแขกคนไหนดูออกเลยสักคนเดียว

พอแต่งงานเสร็จฉันเว้นระยะสักพักก่อนจะบอกความจริงกับครอบครัว ถึงพวกท่านจะค่อนข้างประหลาดใจ แต่ไม่ได้ตำหนิราวกับเรื่องนี้เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย และท่านก็ยังดีใจที่จะได้อุ้มหลาน

กรณีของฉันถือว่าโชคดีที่ท้องตอนใกล้จะแต่งงาน บางคนท้องโดยที่ยังเรียนอยู่ หรือไม่มีแผนว่าจะสร้างครอบครัว นับเป็นปัญหาที่ต้องฟันฝ่ากันไปให้ได้ ยังไงแล้วถ้าคิดจะมีเพศสัมพันธ์ก็ต้องป้องกันให้ดี เพราะถ้าท้องไม่พร้อมแล้วล่ะก็ ปัญหาต่าง ๆ ก็จะถาโถมมาไม่หยุด ส่วนถ้าท้องขึ้นมาโดยที่ยังไม่พร้อมจริง ๆ ขอให้ตั้งสติ คุยกันว่าจะแก้ปัญหายังไง หาคนช่วยเลี้ยง อย่าให้เด็กที่เกิดมาต้องเป็นเด็กที่ถูกทอดทิ้งหรือขาดความรักเหมือนเควินเด็ดขาดเลยนะคะ

ที่สุดในชีวิต คลอดลูกด้วยวิธีธรรมชาติ

ประสบการณ์ผ่าคลอดอย่างละเอียด

9 เดือนในท้องแม่ของหนู

บทความโดย

theAsianparent Editorial Team