เครื่องรางเสริมโชคลาภ คนเล่นหวยต้องมีบูชา คนเสี่ยงโชคห้ามพลาด

เรื่องของ เครื่องรางเสริมโชคลาภ เป็นอีกหนึ่งที่คนเล่นหวยต้องมีบูชา ใครที่รักในการเสี่ยงโชคนั้น ห้ามพลาด และควรไปหามาติดตัวไว้เสริมดวง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ถ้าให้พูดถึงเรื่องเครื่องรางของขลัง แน่นอนว่า ชาติไทย ก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ไม่เพียงแค่คนไทยเท่านั้นที่เชื่อในเรื่องเครื่องรางนำโชคพวกนี้ เรามาดูกันดีกว่าว่า เครื่องรางเสริมโชคลาภ ที่เขานิยมกัน ไม่ว่าจะในไทยหรือต่างประเทศ เหล่าบรรดานักเสี่ยงโชค โดยเฉพาะคนที่ชอบเรื่องหวย หรือการเสี่ยงดวงทั้งหลาย มักจะพกพาเครื่องรางแบบไหนกันบ้าง

 

เครื่องรางเสริมโชคลาภ อยากถูกหวย ต้องมี

เครื่องรางนั้น ถือกำเนิดมานานมาก ซึ่งเราสามารถพบเห็นได้ตามบันทึกประวัติศาสตร์ทั้งไทย และหลากหลายประเทศทั่วโลก เนื่องจาก พื้นฐานของมนุษยชาติ มักจะเชื่อในเรื่องของอำนาจที่เหนือธรรมชาติ และการเคารพนับถือ ผีและวิญญาณ (Animism) การมีเครื่องราง หรือของแทนสัญลักษณ์ จึงถือกำเนิดเกิดขึ้น ตามลักษณะความเชื่อของผู้คนแต่ละท้องถิ่น

ในอดีตอาจจะพกพาเครื่องราง เพราะหวังว่าจะได้โชคจากการล่าสัตว์ หรือได้รับการคุ้มครองจากสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เป็นต้น แต่พอมาสู่ยุคสมัยนี้ ที่เราไม่จำเป็นจะต้องมีการล่าสัตว์เช่นดังเดิม เครื่องราง จึงมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป และที่เป็นที่นิยมกันมากในปัจจุบัน คือการพกเครื่องรางที่ช่วยเสริมทางด้านโชคลาภ วาสนา จากการเสี่ยงโชค เสี่ยงลาภ เช่นล็อตเตอรี่ หรือการเสี่ยงดวง ด้วยรูปแบบวิธีการต่าง ๆ กันออกไป ส่วนจะมีเครื่องรางแบบไหนที่ถูกจริตกับเราบ้าง ลองไปเช็คกันดูเลย

 

เครื่องรางเสริมโชคลาภ คนเล่นหวยต้องมีบูชา คนเสี่ยงโชคห้ามพลาด

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

1. เครื่องรางรูปสัตว์ต่าง ๆ

เรามักจะใช้ลักษณะเฉพาะของสัตว์ต่าง ๆ มาพกติดตัว เพราะเชื่อว่า คุณสมบัติเหล่านั้น จะช่วยให้ตัวคุณ ได้รับอิทธิพลด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องของโชคลาภ

  • เครื่องรางรูปไก่ : เนื่องจากไก่เป็นสัตว์ที่มีลักษณะของการจิก กัด ขุ้ย เขี่ย และขยันในการหากิน แถมยังเป็นสัตว์ที่ตื่นเช้ามากอีกด้วย ดังนั้นหากพกเครื่องรางที่มีรูปไก่ ก็เชื่อกันว่า จะช่วยในการประกอบอาชีพ ทำมาหากินได้อย่างคล่องแคล่ว ค้าขายร่ำรวย และมีสายตาแหลมคม ในการเลือก ในการเสี่ยงดวงอีกด้วย
  • เครื่องรางรูปเสือ : อย่างที่เรารู้กันว่า เสือ เป็นตัวแทนของเจ้าป่า เป็นสัตว์ที่มีพลังอำนาจ น่าเกรงขาม การพกเครื่องรางที่มีรูปลักษณะ หรือสัญลักษณ์ของเสือ เป็นเสมือนการ เสริมบารมี ความน่าเคารพ น่ายำเกรงให้กับตนเอง อีกทั้ง เชื่อกันว่าเสือบางประเภท มีทั้งอำนาจ เวทย์มนต์ คาถาต่าง ๆ นอกจากการเสริมเรื่องของบารมีแล้ว ยังช่วยปกป้องการสิ่งชั่วร้าย และยังดึงดูดโชคลาภ ทรัพย์สมบัติได้อีกด้วย
  • เครื่องรางรูปจิ้งจก : เป็นสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่สามารถพรางตัว เข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ดี มีความแคล่วคล่องว่องไว จึงเชื่อกันว่า หากใครได้พกเครื่องรางนี้แล้ว จะช่วยให้เป็นคนที่มีเสน่ห์ เข้ากับผู้คนได้ง่าย และยังนำพาสิ่ง ๆ ดี ๆ ให้กับผู้ที่พกพาอีกด้วย

 

2. หินมงคล

ความเชื่อของการพกหินนำโชคมีมานานมาก และไม่ใช่เฉพาะที่ประเทศไทยเท่านั้น ที่มีความเชื่อแบบนี้ ด้วยความเชื่อเช่นนี้ จึงทำให้เกิดการทำหินแร่ต่าง ๆ ที่เชื่อว่า จะนำพาโชคลาภความสุข มาทำเป็นเครื่องประดับ ไม่ว่าจะเป็นจี้ห้อยคอ กำไลข้อมือ เข็มกลัด พวงกุญแจ หรือแม้กระทั่งน้ำยาทาเล็บ เพราะเชื่อกันว่า พลังจากธรรมชาติ ที่มาจากการทับถมมาเป็นเวลานาน จนทำให้เกิดแร่ หรือหินสีต่าง ๆ จะส่งพลังสู่ผู้ที่พกพา ให้ได้รับโชคลาภ ได้ด้วยเช่นกัน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • แร่ควอทซ์ไหมทอง (หินไหมทอง) : เป็นอัญมณี หรือแร่หิน ที่มีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องของเงิน ๆ ทอง ๆ มาที่สุด เนื่องจากลักษณะของสีที่เป็นเหมือนไหมสีทองในอยู่ภายในตัวหิน (Golden Rutile Quartz) ทำให้เชื่อว่าหินนี้ มีพลังในการเรียกเงิน เรียกทอง เรียกความสำเร็จ และความร่ำรวย ให้แก่ผู้ที่พกพา ด้วยลักษณะเฉพาะของสี หากจะต้องไปเสี่ยงโชค หรือติดต่อค้าขาย เจรจา การสวมใส่เครื่องรางประเภทนี้ติดตัวไว้ ก็จะทำให้การเจรจา ประสบความสำเร็จ และบังเกิดความโชคดีให้กับผู้พกพา
  • หินหยก : เป็นอีกหนึ่งอัญมณี ที่เรียบหรู ที่มีความเชื่อมาจากทางฝั่งประเทศจีน ที่เชื่อกันว่า การพกพาหยกนั้น จะช่วยในเรื่องของการปรับความสมดุล การปกป้องคุ้มครอง ช่วยปรับธาตุชีวิต เช่นหากใครรู้สึกว่าดวงตก การพกหินหยก จะช่วยมาปรับสมดุลของดวงชะตาให้กลับพลิกฟื้นได้ เชื่อว่าพลังจากหยก จะช่วยพลิกฟื้นชะตา ให้เกิดความสมบูรณ์ มั่งคั่ง ให้ชีวิตมีความเป็นอยู่ที่ร่มเย็นเป็นสุข ซึ่งเรามักจะพบเห็นผู้ที่มีอำนาจสูงศักดิ์ในจีนยุคโบราณ ที่มักจะมีแผ่นหยก พกติดตัวอยู่เสมอ ในบางตระกูล ก็ถึงขั้นให้เป็นหยกประจำตระกูลเลยก็มี

 

3. ของพื้นบ้านแบบไทย ๆ

หากจะกล่าวถึงทางประเทศไทย ที่มีความเชื่อในแบบพื้นบ้าน ก็คงจะหนีของที่เรามักจะใช้กันอยู่ประจำ แม้ว่าในปัจจุบัน อาจจะมีหลายครอบครัวที่ไม่รู้จักของต่าง ๆ เหล่านี้ไปแล้ว แต่ก็ยังคงได้ยินถึงคุณสมบัติ ของการให้โชคให้ลาภกันมาอย่างต่อเนื่อง

  • ไซดักปลา (ไซดักเงินดักทอง) : เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ทำมาหากินของไทย มาตั้งแต่ในอดีต ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงมีใช้อยู่บ้างประปราย หากแต่เรามักจะเห็นมีการนำมาเป็นเครื่องรางของขลัง ขนาดเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ตามแต่ไอเดียจะบรรเจิด เพราะมีความเชื่อกันว่า ไซดักปลานี้ จะช่วยในการดักทรัพย์ ดักเงิน ดักทอง ดักโชคลาภ ดักวาสนา ให้กับผู้ที่พกพา ผู้ที่บูชา และยังเชื่ออีกด้วยว่า จะช่วยให้การอยู่อาศัยนั้น มีความอุดมสมบูรณ์ และร่มเย็นเป็นสุขอีกด้วย
  • ปลาตะเพียนเงิน ปลาตะเพียนทอง : อีกหนึ่งเครื่องรางที่มีพุทธคุณทางด้านการค้าการขาย ให้โชคให้ลาภ เสริมทางด้านเมตตามหานิยม บ้างก็สร้างเป็นรูปโลหะ บ้างก็สานด้วยธนบัตร บ้างก็ทำเป็นผ้ายันต์ ซึ่งเครื่องรางของขลังประเภทนี้ เป็นหนึ่งในวิชาทางด้านพระเวทย์ที่ถูกรังสรรค์โดยเกจิอาจารย์โบราณ เพราะเชื่อกันว่า ปลาตะเพียนนั้น เป็นปลาที่มีลักษณะสวยงาม แหวกว่ายพริ้วไหว หากินเก่ง จึงเชื่อกันว่ามีคุณสมบัติในการเรียกโชคลาภ หาเงินหาทอง ยิ่งลงด้วยอักขระยันต์คาถาเพิ่มไปด้วย ก็จะยิ่งขลัง และมีฤทธานุภาพ เหมาะแก่การบูชา เพื่อการเสี่ยงโชค

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

4. ของเด็ด ของดังจากวัด

ถ้าให้พูดถึงเครื่องรางของขลัง อะไรจะดีไปกว่าการที่เราได้เครื่องรางมาจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เช่น วัดวาอาราม ต่าง ๆ โดยเฉพาะวัดดัง ไม่ว่าจะเป็นที่ไทย หรือต่างประเทศ

  • หุ่นไอ้ไข่ เหรียญ ยันต์ไอ้ไข่ : ถ้าพูดถึงเรื่องการเสี่ยงโชค เสี่ยงลาภ การเสริมดวงด้านเงินทองนั้น คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า หนึ่งในนั้น จะต้องมีเรื่องราวของไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ปรากฎอยู่ด้วย หากจะถามว่าทำไมไอ้ไข่ถึงให้โชคให้ลาภเกี่ยวกับเรื่องเงินทองมากมายขนาดนี้ ซึ่งมีการสันนิษฐานว่า ส่วนหนึ่งของการช่วยอำนวยพร เกี่ยวกับเรื่องของโชคลาภ และเงินทองนั้น สันนิษฐานว่า น่าจะมีสาเหตุมาจากการที่ต้องการระดมเงินทุนมาเพื่อบูรณะวัดเจดีย์ เชื่อกันว่า เนื่องจากภารกิจสำคัญของไอ้ไข่ คือการอยู่เฝ้า และช่วยพัฒนาวัดให้มีความเจริญตามคำสั่งของหลวงปู่ทวด การดลบันดาลให้ผู้ที่มีศรัทธา ร่วมระดมทุนเพื่อช่วยกันสร้างศาสนสถานให้เจริญ จะต้องมาจากความพร้อมทั้งทรัพย์สิน เงินทอง และความศรัทธาที่เข้มแข็ง การดลบันดาลให้เกิดโชคลาภ จากการอธิษฐานขอกับไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์ จึงทำให้เกิดการสัมฤทธิ์ผล จนเกิดการร่วมบุญสร้างทะนุบำรุงวัด จนยิ่งใหญ่ อย่างที่พวกเราได้ ประจักษ์เห็นกันแล้วในทุกวันนี้ ดังนั้น ไอ้ไข่ จึงได้กลางเป็นอีกหนึ่งเครื่องรางในการอธิษฐานขอโชค ขอลาภ จากบรรดา นักเสี่ยงโชค เสี่ยงดวงทั้งหลาย >>> เคล็ดไม่ลับ ! บูชาไอ้ไข่ ให้ได้เกิดผล ขอโชค ขอลาภ ให้ได้ดั่งใจหวัง
  • องค์พญานาค : การบูชาองค์พญานาค เป็นความเชื่อที่มีมาแต่ดั่งเดิม โดยเฉพาะผู้คนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง อาจจะเนื่องจากอาศัยในพื้นที่ที่ใกล้กับแหล่งน้ำ และมีตำนานเก่า ๆ เหล่าต่อ ๆ กันมา ว่าพญานาค หรือพญานาคราช เป็นสัตว์ในตำนานโบราณตั้งแต่สมัยพุทธกาล ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีอิทธิฤทธิ์ และที่สำคัญคือ เป็นผู้ที่เฝ้าสมบัติพัสถานมากมายมหาศาล ดังนั้น ผู้ที่เชื่อและบูชาองค์พญานาค พญานาคราช จึงมักจะได้โชคได้ลาภ ประสบความสำเร็จ และมีสมบัติมากมาย ไม่อับจน จนได้กลายเป็นอีกหนึ่งเครื่องรางของการพกพา เพื่ออธิษฐาน ขอโชค ขอลาภ จากนักเสี่ยงโชคทั้งหลาย >>> ฝันเห็นพญานาคสีขาว พญานาคแต่ละสี พญานาคหลายเศียร แปลว่าอะไร
  • องค์พระพิฆเนศ : เป็นอีกหนึ่งความเชื่อของทางศาสนาฮินดู ในเรื่องของการขอโชคลาภ ความประสบความสำเร็จ การบูชาองค์พระพิฆเนศนั้น เปรียบเสมือนอีกหนึ่งเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ที่หลาย ๆ คนต่างก็ยอมรับ แต่โดยมาก เรามักจะได้ยินในเรื่องของการบูชาขอเกี่ยวกับเรื่องของหน้าที่การงาน แต่คุณรู้หรือไม่ว่า การอธิษฐานขอโชคลาภ จากการเสี่ยงดวง ก็เป็นอีกหนึ่งพรที่หลาย ๆ คนมักจะได้จากองค์พระพิฆเนศเช่นกัน >>> บทสวดมนต์บูชาพระพิฆเนศ ช่วยให้ค้าขายร่ำรวย ชีวิตมีแต่ความสำเร็จ
  • จี้กังหัน วัดแชกงมิว (ฮ่องกง) : ไม่มีใครที่จะไม่เคยได้ยินกิตติศัพท์ของเครื่องรางจี้กังหัน แห่งวัดแชกงหมิว แม้ว่าจะเป็นวัดดังในฮ่องกง แต่ชื่อเสียงของความเฮงความปังนั้น ดังไกลจนมาถึงประเทศไทย จนกลายเป็นอีกหนึ่งไอเท็มเครื่องรางที่หลาย ๆ คนต้องมีไว้ในครอบครอง โดยที่มาของกังนี้ เชื่อกันว่า มีแม่ทัพชาวจีน นามว่า “แชกง” เป็นแม่ทัพออกศักคราได้ ก็มักจะได้รับชัยชนะกลับมาทุกครั้ง โดยที่ท่านจะมีสัญลักษณ์ของรูปกังหัน 4 ใบ ติดไว้ด้านหน้ารถศึกนำขบวน จึงเชื่อกันว่า สัญลักษณ์นี้ เป็นเครื่องหมายที่นำมาซึ่งชัยชนะ และความโชคดีแก่กองทัพ ณ ปัจจุบัน จี้กังหันนี้ จึงได้กลายเป็น เครื่องรางที่ได้รับความนิยมมากมาย โดยมีความหมายแฝงอยู่ในนั้นคือ ใบที่ 1 เชื่อกันว่า จะช่วยให้การเดินทางปลอดภัย ใบที่ 2 จะช่วยในเรื่องของสุขภาพแข็งแรง มีอายุที่ยั่งยืน ใบที่ 3 ช่วยในเรื่องของโชคลาภ เงินทอง ส่วนใบสุดท้ายใบที่ 4 จะหมายถึงการขอพรให้สมดั่งปรารถนา

 

5. เครื่องรางในรูปของสัญลักษณ์

  • รูปเกือกม้า : หลายคนมักจะพบเห็นเครื่องประดับ ที่มักจะทำออกมา ในรูปแบบของเกือกม้า ไม่ว่าจะเป็นแหวาน สร้อยคอมือ จี้ห้อยคอ หรือเครื่องประดับต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้ เป็นประหนึ่งเครื่องรางที่ถูกทำออกมาในรูปแบบของเครื่องตกแต่งในร่างกาย เชื่อกันว่า ช่วยส่งเสริมเกี่ยวกับ ความโชคดี เสริมสร้างความสุข ความสมหวัง ความสำเร็จทางด้านการเงิน และพลิกฟื้นชะตาชีวิต ซึ่งเป็นความเชื่อที่คนทั่วโลก ต่างก็เชื่อไปในทิศทางเดียวกันอย่างน่าประหลาดใจ
  • เหรียญนำโชค : ในแต่ละประเทศ มักจะมีความเชื่อคล้าย ๆ กัน โดยเฉพาะเรื่องของเหรียญนำโชค อย่างเช่นทางญี่ปุ่น ก็จะเชื่อกันว่า เหรียญ 5 เยน เป็นเหรียญนำโชคสำหรับเขา ในขณะที่ประเทศไทย จะเป็นเหรียญที่มีเครื่องหมายครุฑ ซึ่งเราจะเชื่อในเรื่องของการปกป้องรักษา หากคิดถึงเรื่องโชคลาภการเงิน ก็คงไม่พ้น เหรียญเพนนีของประเทศสหรัฐอเมริกา เขาเชื่อกันว่า หากเราอยากถูกหวย ถูกล็อตเตอรี่ ให้หาเหรียญพวกนี้ พกติดกระเป๋าสตางค์เอาไว้ แล้วห้ามใช้เป็นเด็ดขาด ก็จะทำให้ช่วยเสริมดวงด้านการเสี่ยงโชค ช่วยเพิ่มเงินในกระเป๋าให้พอกพูนยิ่งขึ้น

 

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับเครื่องรางแต่ละอย่างที่เรายกเป็นตัวอย่างมานำเสนอให้กับนักเสี่ยงดวง เสี่ยงโชคทั้งหลาย แต่การจะเชื่ออะไรก็ไม่สู้ เชื่อในความขยัน ความหมั่นเพียร เรียนรู้ ทำงาน และทำมาหากินเลี้ยงชีพ ส่วนเรื่องของโชคลาภ ขอให้เป็นส่วนเสริม เล่นเอามันส์ เล่นเอาสนุก แต่อย่าเล่นเป็นจริงเป็นจัง จนถึงขั้นไม่ยอมทำมาหากินกันเลยนะคะ ขอให้โชคดี เป็นเศรษฐีกันในงวดที่จะถึงนี้ค่ะ

 

ที่มา : playusalotteries , bangkokbiznews

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

สถิติหวยออกวันเสาร์ ย้อนหลัง 10 ปี หวยสลากกินแบ่งรัฐบาล

คาถา ขอให้ถูกหวย สวดก่อนวันหวยออก สายมูห้ามพลาด

ใส่แหวนเสริมดวงตามวันเกิด สวมแหวนยังไงให้ปัง ดวงพุ่งฉุดไม่อยู่

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

บทความโดย

Arunsri Karnmana