การฟังเพลงระหว่างอ่านหนังสือช่วยให้ลูกฉลาดขึ้น

ถ้าลูกของคุณเลือกเพลงที่ถูกต้อง การฟังเพลงระหว่างอ่านหนังสืออาจช่วยให้ลูกฉลาดขึ้น

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เพลงส่วนใหญ่ที่เด็ก ๆ ชอบฟังกันสมัยนี้ดูเหมือนจะไร้รสนิยมสำหรับคุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คน เพลงป๊อปที่เป็นที่รู้จักกันมักจะมีเนื้อเพลงที่กล่าวถึงการปาร์ตี้ (ซึ่งมักมาพร้อมกับท่าเต้นยั่วยวนเซ็กซี่) แต่มีอะไรบางอย่างที่อยู่ในเพลงสมัยใหม่นี้นะ ใช่แล้ว คุณอ่านไม่ผิดหรอก

แต่ก่อนที่คุณจะถอนหายใจว่า “เฮ้อ เด็กสมัยนี้” เมื่อคุณได้ยินว่าลูกกำลังร้องและเต้นเพลงอะไรอยู่นั้น เราขอบอกให้คุณทราบว่าการฟังเพลงขณะอ่านหนังสือช่วยเพิ่มความสามารถการเรียนรู้และการใช้สมาธิได้

ใช่แล้ว กระทั่งเพลงของนักร้องอย่างไมลีย์ ไซรัส หรือ จัสติน บีเบอร์ ก็เช่นกัน

ดร. เอมม่า เกรย์ นักจิตวิทยาคลินิกแบ่งปันข้อมูลจากงานวิจัยของเธอให้เราว่าการฟังเพลงขณะอ่านหนังสือและทบทวนบทเรียนนั้นมีผลดีต่อการเรียนรู้อย่างไร Spotify ซึ่งเป็นบริการดนตรีดิจิทัลเจ้าหนึ่ง เป็นผู้ให้เธอทำวิจัยในเรื่องนี้

หากคุณสามารถมองข้ามเนื้อเพลงหรือท่าเต้นประกอบที่ค่อนข้างรุนแรงของเพลงดังบางเพลงในยุคนี้ได้ คุณก็จะพบว่าจังหวะดนตรีแบบไหนที่ช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ของลูกสำหรับวิชาต่าง ๆ

วิทยาศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และภาษา

ทักษะสำคัญในวิชาวิทยาศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และภาษานั้นคือความสามารถการจัดการข้อเท็จจริงและแก้ปัญหา กระบวนการดังกล่าวต้องใช้สมองซีกซ้าย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

การฟังเพลงที่มีจังหวะ 50-80 ครั้งต่อนาทีช่วยให้ใจเย็นลง ซึ่งช่วยให้การคิดใช้เหตุผลและสมองสามารถเรียนรู้และจดจำข้อมูลใหม่ ๆ ได้

ตัวอย่างเพลงที่มีจังหวะ 50-58 ครั้งต่อนาที

Man Down – Rihanna

We Can’t Stop – Miley Cyrus

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

Our First Time – Bruno Mars

Breakin’ Up – Gwen Stefani

Halo – Beyonce

Wide Awale – Katy Perry

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คณิตศาสตร์

เพลงคลาสสิกที่มีจังหวะ 60-70 ครั้งต่อนาทีช่วยให้นักเรียนเรียนได้นานขึ้นและจดจำข้อมูลได้มากขึ้น ทำนองเพลงและระดับเสียงที่กว้างช่วยเสริมการเรียนคณิตศาสตร์ได้

สถิติแสดงให้เห็นว่านักเรียนที่เรียนคณิตศาสตร์ขณะที่ฟังเพลงมีคะแนนสอบคณิตศาสตร์มากกว่าค่าเฉลี่ยร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับนักเรียนที่ไม่ได้ฟังเพลงระหว่างเรียน

ตัวอย่างเพลงที่มีจังหวะ 60-70 ครั้งต่อนาทีที่เหมาะกับการเรียนคณิตศาสตร์

Fur Elise – Ludwig van Beethoven

Waltz In D Flat Major Op. 64 No. 1- Frederic Chopin

Largo, from “Xerxes” – George Frideric Handel

Swan Lake – Pyotr Ilyich Tchaikovsky

Ode to Joy – Ludwig van Beethoven

อ่านต่อหน้าถัดไป >>>

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ภาษาอังกฤษ การละคร และศิลปะ

สมองซีกขวาประมวลความคิดสร้างสรรค์ งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าหากนักเรียนฟังเพลงร็อกและป๊อปที่เปี่ยมด้วยอารมณ์ล่ะก็ จะทำให้เพิ่มความตื่นเต้นที่มีแนวโน้มว่าจะส่งเสริมความสามารถทางศิลปะได้ การฟังเพลงแนวนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อเรียนรู้วิชาอย่างภาษาอังกฤษ การละคร หรือศิลปะ ที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์มาก  ๆ

ตัวอย่างเพลงที่ร็อกและป๊อปที่เปี่ยมด้วยอารมณ์ที่จะเป็นแรงบันดาลใจความคิดสร้างสรรค์

Firework – Katy Perry

Diamonds – Rihanna

Stronger (What Doesn’t Kill You) – Kelly Clarkson

Biblical – Biffy Clyro

Sweet Child O’ Mine – Guns N’ Roses

Winder Winds – Mumford & Sons

It’s My Life – Bon Jovi

ดร. เกรย์บอกว่าดนตรีสามารถทำให้เราพร้อมที่จะเรียนวิชาประเภทที่เหมาะสม หากคุณทำตามเคล็ดลับเหล่านี้และเข้าใจว่าดนตรีมีข้อดีต่อการเรียนอย่างไร บางทีคุณอาจจะมีรายการเพลงสำหรับการเรียนรู้ที่ดีที่สุด (ที่มีเนื้อเพลงที่เหมาะสมต่อเด็ก) สำหรับลูกของคุณก็ได้นะ ถ้าคุณมีล่ะก็ อย่าลืมแบ่งปันกับเราในช่องแสดงความเห็นด้านล่างด้วยล่ะ

ฟังเพลงคลาสสิคดีกับลูกอย่างไร?

บทความโดย

theAsianparent Thailand Team