แต่ก่อนที่คุณจะถอนหายใจว่า “เฮ้อ เด็กสมัยนี้” เมื่อคุณได้ยินว่าลูกกำลังร้องและเต้นเพลงอะไรอยู่นั้น เราขอบอกให้คุณทราบว่าการฟังเพลงขณะอ่านหนังสือช่วยเพิ่มความสามารถการเรียนรู้และการใช้สมาธิได้
ใช่แล้ว กระทั่งเพลงของนักร้องอย่างไมลีย์ ไซรัส หรือ จัสติน บีเบอร์ ก็เช่นกัน
ดร. เอมม่า เกรย์ นักจิตวิทยาคลินิกแบ่งปันข้อมูลจากงานวิจัยของเธอให้เราว่าการฟังเพลงขณะอ่านหนังสือและทบทวนบทเรียนนั้นมีผลดีต่อการเรียนรู้อย่างไร Spotify ซึ่งเป็นบริการดนตรีดิจิทัลเจ้าหนึ่ง เป็นผู้ให้เธอทำวิจัยในเรื่องนี้
หากคุณสามารถมองข้ามเนื้อเพลงหรือท่าเต้นประกอบที่ค่อนข้างรุนแรงของเพลงดังบางเพลงในยุคนี้ได้ คุณก็จะพบว่าจังหวะดนตรีแบบไหนที่ช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ของลูกสำหรับวิชาต่าง ๆ
วิทยาศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และภาษา
ทักษะสำคัญในวิชาวิทยาศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และภาษานั้นคือความสามารถการจัดการข้อเท็จจริงและแก้ปัญหา กระบวนการดังกล่าวต้องใช้สมองซีกซ้าย
การฟังเพลงที่มีจังหวะ 50-80 ครั้งต่อนาทีช่วยให้ใจเย็นลง ซึ่งช่วยให้การคิดใช้เหตุผลและสมองสามารถเรียนรู้และจดจำข้อมูลใหม่ ๆ ได้
ตัวอย่างเพลงที่มีจังหวะ 50-58 ครั้งต่อนาที
Man Down – Rihanna
We Can’t Stop – Miley Cyrus
Our First Time – Bruno Mars
Breakin’ Up – Gwen Stefani
Halo – Beyonce
Wide Awale – Katy Perry
คณิตศาสตร์
เพลงคลาสสิกที่มีจังหวะ 60-70 ครั้งต่อนาทีช่วยให้นักเรียนเรียนได้นานขึ้นและจดจำข้อมูลได้มากขึ้น ทำนองเพลงและระดับเสียงที่กว้างช่วยเสริมการเรียนคณิตศาสตร์ได้
สถิติแสดงให้เห็นว่านักเรียนที่เรียนคณิตศาสตร์ขณะที่ฟังเพลงมีคะแนนสอบคณิตศาสตร์มากกว่าค่าเฉลี่ยร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับนักเรียนที่ไม่ได้ฟังเพลงระหว่างเรียน
ตัวอย่างเพลงที่มีจังหวะ 60-70 ครั้งต่อนาทีที่เหมาะกับการเรียนคณิตศาสตร์
Fur Elise – Ludwig van Beethoven
Waltz In D Flat Major Op. 64 No. 1- Frederic Chopin
Largo, from “Xerxes” – George Frideric Handel
Swan Lake – Pyotr Ilyich Tchaikovsky
Ode to Joy – Ludwig van Beethoven
อ่านต่อหน้าถัดไป >>>
ภาษาอังกฤษ การละคร และศิลปะ
สมองซีกขวาประมวลความคิดสร้างสรรค์ งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าหากนักเรียนฟังเพลงร็อกและป๊อปที่เปี่ยมด้วยอารมณ์ล่ะก็ จะทำให้เพิ่มความตื่นเต้นที่มีแนวโน้มว่าจะส่งเสริมความสามารถทางศิลปะได้ การฟังเพลงแนวนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อเรียนรู้วิชาอย่างภาษาอังกฤษ การละคร หรือศิลปะ ที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์มาก ๆ
ตัวอย่างเพลงที่ร็อกและป๊อปที่เปี่ยมด้วยอารมณ์ที่จะเป็นแรงบันดาลใจความคิดสร้างสรรค์
Firework – Katy Perry
Diamonds – Rihanna
Stronger (What Doesn’t Kill You) – Kelly Clarkson
Biblical – Biffy Clyro
Sweet Child O’ Mine – Guns N’ Roses
Winder Winds – Mumford & Sons
It’s My Life – Bon Jovi
ดร. เกรย์บอกว่าดนตรีสามารถทำให้เราพร้อมที่จะเรียนวิชาประเภทที่เหมาะสม หากคุณทำตามเคล็ดลับเหล่านี้และเข้าใจว่าดนตรีมีข้อดีต่อการเรียนอย่างไร บางทีคุณอาจจะมีรายการเพลงสำหรับการเรียนรู้ที่ดีที่สุด (ที่มีเนื้อเพลงที่เหมาะสมต่อเด็ก) สำหรับลูกของคุณก็ได้นะ ถ้าคุณมีล่ะก็ อย่าลืมแบ่งปันกับเราในช่องแสดงความเห็นด้านล่างด้วยล่ะ
ฟังเพลงคลาสสิคดีกับลูกอย่างไร?