เด็กยุคใหม่เครียด เรียนออนไลน์ ไม่รู้เรื่อง ปัญหาใหญ่ที่พ่อแม่ห้ามละเลย

มีงานวิจัยออกมาว่า ตั้งแต่เด็กไทยเริ่มเรียนออนไลน์แบบ 100% ทำให้เด็กมีความเครียดมากขึ้น เครียดสะสม ไม่มีใจจะเรียน เรียนไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ว่าอนาคตจะไปต่ออย่างไรดี เราในฐานะพ่อแม่ควรจะแก้ไขปัญหาอย่างไร จะช่วยลูกอย่างไรดี

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เรียนออนไลน์ ไม่รู้เรื่อง เป็นปัญหาใหญ่ที่เด็กไทยต้องเผชิญ เพราะรูปแบบการสอนที่ไม่น่าสนใจ เด็กต้องเรียนแบบคลาสใหญ่มีนักเรียนหลายคนต่อครูเพียงหนึ่งคน เด็กขาดการมีส่วนร่วม บวกการเรียนการสอนที่น่าเบื่อทำให้เด็กไม่สนใจจะเรียน เรียนไม่รู้เรื่อง นอกจากนี้ เด็กยังมีภาวะเครียดสะสมจากการเรียนไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ว่าอนาคตของตัวเองจะเป็นอย่างไร แล้วพ่อแม่จะมีวิธีช่วยลูกที่เจอปัญหาเหล่านี้อย่างไรดี วันนี้เรามีคำตอบพร้อมทั้งวิธีการเรียนรูปแบบใหม่มาฝาก ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยเป็นแนวทางสำหรับเด็กและพ่อแม่ได้อย่างแน่นอน

 

ผลวิจัยชี้ เด็กไทยเครียดหนักขึ้น เพราะ เรียนออนไลน์

ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้โรงเรียนและมหาวิทยาลัยต้องปิด เด็กต้องเรียนออนไลน์ ซึ่งเด็กต้องเผชิญกับปัญหาในการปรับตัวอย่างกะทันหัน เรียนไม่ทัน เด็กหลุดโฟกัสได้ง่าย เพราะบริบทไม่เอื้ออำนวยในการเรียน ไหนจะการบ้านที่เยอะ ยิ่งส่งผลให้เด็ก ๆ เครียด รู้สึกเบื่อหน่าย ไม่อยากจะเรียนต่อ ซึ่งสอดคล้องกับผลวิจัยของศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (TPAK) สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ได้สำรวจข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมและผลกระทบจากการเรียนออนไลน์ โดยระบุว่า จำนวนการบ้านมากขึ้น เด็กมีพฤติกรรมเนือยนิ่ง เครียด วิตกกังวล โดยเฉพาะนักเรียนชั้น ป.6 เตรียมศึกษาต่อ ม.1 และ ม.6 เตรียมศึกษาต่อมหาวิทยาลัย เพราะกังวลว่าจะไม่มีโรงเรียนที่ดีรับเข้าเรียน ซ้ำร้ายเด็กจำนวนไม่น้อยที่ต้องหยุดเรียนไปเป็นปี ๆ หรือพักการเรียน ทำให้ไม่รู้ว่าอนาคตของตัวเองจะไปในทิศทางไหน ซึ่งแน่นอนว่าย่อมสร้างความกังวลให้กับคนเป็นพ่อเป็นแม่ด้วย เพราะพ่อแม่ทุกคนต่างก็อยากให้ลูกมีอนาคตที่ดี

 

ปัญหาของการ เรียนออนไลน์ อยู่ที่รูปแบบการสอน

แม้ว่าการเรียนออนไลน์จะทำให้เด็กลดความสนใจในการเรียนอย่างมาก แต่เมื่อมาดูสาเหตุจริง ๆ แล้ว มันเกี่ยวข้องกับรูปแบบการสอนด้วย เช่น การสอนแบบหลายคนรวมกัน เด็กหาจุดโฟกัสไม่ได้ ไม่ได้พูดได้แต่ฟังอย่างเดียว แถมไม่รู้เรื่องอีก ดังนั้น หากมีการปรับรูปแบบให้น่าสนใจ เข้าถึงเด็กได้มากขึ้น ให้เด็กได้ตอบสนองต่อการเรียนการสอนอย่างเต็มที่ บวกกับเทคนิคการสอนของอาจารย์ที่ไม่น่าเบื่อ จะช่วยให้เด็กกระตือรือร้น และมีความสนุกที่จะเรียนมากขึ้น เมื่อเรียนแล้วสนุก ก็จะทำให้เข้าใจเนื้อหาของบทเรียนได้ไม่ต่างจากการเรียนในห้องเรียนปกติ

ตอนนี้ยิ่งเรียนออนไลน์ 100% ยิ่งทำให้เด็กเอียนกัน รูปแบบการสอนที่จะเน้นให้ผ่อนคลายไม่เครียด สิ่งที่พ่อแม่สามารถช่วยลูกได้ก็คือการหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูก เพื่อพัฒนาด้านการเรียนได้ต่อโดยที่ไม่ต้องบังคับ เช่น การหา activity อื่นที่ทำให้เด็กสนุก แต่ได้ฝึกทักษะและพัฒนาการไปด้วย  ยกตัวอย่างที่ฮิตเลยคือการฝึกให้ลูกได้เรียนภาษาที่ 3 และภาษาที่ได้รับความนิยมก็คือ ภาษาจีน เนื่องจากมีบริษัทจีนเข้ามาลงทุนในประเทศต่าง ๆ รวมถึงประเทศไทยเป็นจำนวนมาก การมีความรู้ภาษาจีนนอกเหนือจากภาษาอังกฤษ จะช่วยให้ส่งเสริมอนาคตในการทำงานได้อย่างดี อย่างไรก็ตาม การเรียนภาษาออนไลน์นั้น จำเป็นจะต้องมีรูปแบบที่ทันสมัย เข้าใจง่าย ไม่น่าเบื่อ พร้อมทั้งใช้ทักษะของอาจารย์ที่ช่วยทำให้เด็กมีสมาธิจดจ่อ จดจำบทเรียนได้ เรียนรู้เร็ว โดยที่ไม่ทำให้เด็กเครียด จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนออนไลน์สำหรับเด็กได้ดีมากขึ้น

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ทำไมการเรียนภาษาที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 จึงสำคัญ

เพราะสมองของคนเราถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน สมองซีกซ้ายเป็นส่วนของการตัดสิน ทำหน้าที่โดดเด่นในเรื่องของการใช้ภาษา การเขียน การอ่าน ทักษะด้านตัวเลข การใช้เหตุผล การควบคุม การพูด ทักษะด้านวิทยาศาสตร์ ในขณะสมองซีกขวาเป็นส่วนของการสร้างสรรค์ คือ ทำหน้าที่ในเรื่องของอารมณ์และความรู้สึก เช่น ด้านศิลปะ ความมีสุนทรียะด้านดนตรี เพลง และการใช้จินตนาการ นอกจากนี้ ภายในสมองของคนเรา จะมีเนื้อเยื่อสมองซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 2 สี ได้แก่ สีเทา และสีขาว

สมองส่วนที่เป็นสีเทา คือ สมองรอบนอก ทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหว การฟัง การมอง สมาธิ และความจำ ด้านสมองส่วนที่เป็นสีขาว คือ สมองด้านใน ทำหน้าที่ในการส่งกระแสประสาทที่ออกจากเซลล์ประสาทในเนื้อเยื่อส่วนสีเทา ดังนั้น เมื่อเนื้อเยื่อสมองส่วนสีเทายิ่งมีปริมาณเยอะ จะยิ่งส่งผลทำให้การประมวลผล และสั่งการของสมองส่วนต่าง ๆ ทำงานได้ดี เป็นผลให้เด็ก ๆ สามารถคิด วิเคราะห์ ประมวลผล แล้วตอบสนองออกไปได้อย่างรวดเร็ว

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

โดยมีงานวิจัยของมหาวิทยาลัยในลอนดอน พบว่า การเรียนรู้ภาษาที่ 2 สามารถพัฒนาสมองส่วนสีเทาให้มีเพิ่มขึ้นได้ ยิ่งเรียนรู้ตั้งแต่ในวัยเด็กสมองส่วนสีเทาจะพัฒนาได้เร็วมากกว่าคนที่มาเรียนตอนโต และยิ่งหากได้เรียนรู้ภาษาอื่น ๆ เป็นภาษาที่ 3 หรือ 4 สมองส่วนสีเทาจะถูกพัฒนาจนปริมาณเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้สมองทำงานได้ดีและมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งภาษาจีนก็ถือว่าเป็นภาษายอดฮิตในปัจจุบัน และเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับพ่อแม่ที่ต้องการพัฒนาการทักษะและสมองของลูก

⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀

LingoAce การเรียนภาษาจีนออนไลน์รูปแบบใหม่ เข้าใจง่าย ไม่น่าเบื่อ

สิ่งที่สำคัญอย่างมากในการเรียนภาษา คือ ความเข้าใจ การเรียนที่ไม่น่าเบื่อ และนำไปใช้ได้จริง ๆ ซึ่งที่ LingoAce เป็นสถาบันสอนภาษาจีนออนไลน์สำหรับเด็กอายุ 6 – 15 ปี ที่ใช้ระบบ Interactive ทำให้เด็กสามารถโต้ตอบกับผู้สอนได้แบบเรียลไทม์ และมีสื่อการเรียนการสอนที่ช่วยให้ไม่น่าเบื่อ สร้างสภาพแวดล้อมในสื่อการสอนที่แปลกใหม่ น่าสนใจ ทำให้เด็กมีความสนใจที่จะเรียนมากขึ้น ซึ่งจะแตกต่างจากการเรียนออนไลน์ทั่วไป ที่มักจะเป็นการสอนแบบไปเรื่อย ๆ เพราะอาจารย์ส่วนใหญ่ยังขาดทักษะในการเตรียมการสอนผ่านสื่อออนไลน์ ทำให้ยังคงติดรูปแบบการสอนแบบเดิม ๆ เพียงแต่เปลี่ยนมาอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์เท่านั้น นั่นจึงเป็นปัญหาที่ทำให้เด็กเบื่อ ไม่สนใจจะเรียน ซึ่งแตกต่างจากการเรียนออนไลน์แบบใหม่ของ LingoAce

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

LingoAce คัดเฉพาะเหล่าซือเจ้าของภาษา เพื่อการสอนที่มีประสิทธิภาพ

การเรียนภาษาต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นภาษาใดก็ตาม หากได้เรียนกับเจ้าของภาษา จะช่วยทำให้เด็กเรียนรู้ได้เร็วมากขึ้น และได้ทักษะการออกเสียงเหมือนเจ้าของภาษาจริง ๆ ทำให้การนำภาษาไปใช้ในชีวิตจริงมีประสิทธิภาพอย่างชัดเจน ดังนั้น LingoAce จึงคัดเหล่าซือ (อาจารย์) ที่เป็นเจ้าของภาษาอย่างเข้มข้น ซึ่งผู้ที่ผ่านมาตรฐานของ LingoAce มีเพียง 5% เท่านั้น

นอกจากนี้ ต้องมีประสบการณ์สอนไม่น้อยกว่า 3 ปี ต้องผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร MOE ของสิงคโปร์ สามารถออกแบบการสอนที่ช่วยให้เด็กพัฒนาทักษะการพูด อ่าน เขียน ไปพร้อมกันได้ และต้องมีความยืดหยุ่น เข้าใจธรรมชาติของเด็ก สามารถรับฟังปัญหาและแก้ไขปัญหาของเด็กได้ สิ่งสำคัญเลย เหล่าซือของ LingoAce ยังต้องมีความเข้าใจธรรมชาติของเด็ก เพื่อให้สามารถรับมือกับเด็กวัย 6 – 15 ปีได้อย่างเชี่ยวชาญ ทำให้เด็กไม่หลุดโฟกัส เรียนได้อย่างสนุก และมีประสิทธิภาพ

 

 

LingoAce มีหลักสูตร เรียนออนไลน์ แบบไหนบ้าง

ที่ LingoAce แบ่งการเรียนออนไลน์ออกเป็น 3 หลักสูตร ซึ่งผ่านการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการจีนและสิงคโปร์ ทั้ง 2 หลักสูตรมีความแตกต่างกัน ดังนี้

1. หลักสูตรสิงคโปร์ (Singapore Program)

เป็นหลักสูตรที่พัฒนามาจากหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์ เป้าหมายหลักเพื่อให้เด็กมีความสามารถในการสอบจบระดับประถมศึกษาของสิงคโปร์ (PSLE) ซึ่งเน้นพัฒนาทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียน โดยจำลองสิ่งต่าง ๆ และมีการโต้ตอบกับเหล่าซือตลอดคาบเรียน โดยหลักสูตรสิงคโปร์จะแบ่งออกเป็น 6 ระดับ ได้แก่

  • ระดับที่ 1 – 2 เน้นการออกเสียงขั้นพื้นฐานและทักษะการพูด
  • ระดับที่ 3 – 4 ฝึกทักษะการอ่าน เขียน และการสนทนาโต้ตอบ
  • ระดับที่ 5 – 6 การสนทนาด้วยปากเปล่า การอ่านบทความยาว และการเขียน

2. หลักสูตรสากล (International Program)

เป็นหลักสูตรที่เกิดจากความร่วมมือของการสอบวัดระดับความรู้ภาษาจีนสำหรับเยาวชน (YCT) เพื่อพัฒนาทักษะฟัง พูด อ่านและเขียนให้เด็ก ๆ สามารถสื่อสารภาษาจีนในชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจ โดยแบ่งออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่

  • ระดับที่ 1 ทำความเข้าใจประโยคที่ใช้ประจำวันได้
  • ระดับที่ 2 สามารถพูดคุยสื่อสารขั้นต้นได้
  • ระดับที่ 3 สื่อสารหัวข้อในชีวิตประจำวันที่คุ้นเคยกับอิริยาบถทั่วไป
  • ระดับที่ 4 สื่อสารภาษาจีนเพื่อการศึกษา ในขั้นต้น และระดับผู้เชี่ยวชาญ

3. หลักสูตรพื้นฐานใหม่ (Foundation Program)

หลักสูตรพื้นฐาน มีความโดดเด่น และแตกต่างจากบทเรียนทั่วไปด้วยรูปแบบการสอนที่เน้นสร้างการจดจำโดยไม่ต้องท่องจำ โดยจะกระตุ้นให้เด็กเกิดกระบวนการเรียนรู้อย่างเป็นธรรมชาติ รวมทั้งค่อย ๆ ซึมซับ และคุ้นเคยกับการเรียนภาษาจีนด้วยบทเรียนเกี่ยวกับวัฒนธรรมจีน จำลองสถานการณ์คล้ายการเล่นเกมผ่านด่านต่าง ๆ และใช้เวลาเรียนเพียงครั้งละ 25 นาที ไม่ใช้เวลาเรียนนานเกินไป แบ่งเป็น 2 ระดับ เหมาะกับเด็กที่ไม่มีพื้นฐานภาษาจีนโดยเฉพาะ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ทำไมถึงต้องเรียนภาษาจีนออนไลน์กับ LingoAce

นอกจากข้อมูลเกี่ยวกับสถาบัน หลักสูตร และอาจารย์ ที่บอกไปในข้างต้นแล้ว LingoAce มีความเข้าใจว่า เด็กแต่ละคนมีพัฒนาการที่แตกต่างกัน จึงต้องให้ความสำคัญกับพัฒนาการเด็กแบบรายบุคคล โดยเริ่มตั้งแต่แนะนำหลักสูตรและครูที่เหมาะสม การใช้วิธีการดูแลเด็ก ๆ แบบ Personalise 4 ต่อ 1 เพื่อให้เด็กแต่ละคนมีประสบการณ์การเรียนรู้ที่ยอดเยี่ยม และเหมาะสมตรงตามวัตถุประสงค์มากที่สุด พร้อมทั้งสามารถปรึกษาการเรียนส่วนตัวได้ตลอดเวลา และมีผู้เชี่ยวชาญด้านปฏิบัติการช่วยแก้ไขปัญหาทางเทคนิค เพื่อการเรียนการสอนที่ไม่สะดุดอีกด้วย

ในปัจจุบันที่ LingoAce มีผู้เรียนทั่วโลกมากกว่า 200,000 คน มีคลาสที่เปิดสอนกว่า 250,000 ต่อวัน และมีชั่วโมงเรียนมากกว่า 7000 ชั่วโมง มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ และมีสำนักงานอื่น ๆ อีกทั่วทุกมุมโลก

 

แม้ว่าการเรียนออนไลน์จะกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ในการศึกษาและพัฒนาความรู้ของเด็ก ๆ แต่หากเข้าใจหลักของปัญญา และเริ่มแก้ไขอย่างตรงจุด ด้วยการมอบโอกาสการเรียนการสอนที่สนุก น่าสนใจ และมีประสิทธิภาพ เชื่อว่าจะทำให้ปัญหาเด็กเครียดเพราะเรียนออนไลน์ลดลงได้อย่างมาก อย่างการมาเรียนภาษาจีนรูปแบบใหม่กับ LingoAce ที่จะแก้ไขปัญหาการเรียนออนไลน์แบบเดิม ๆ ให้หมดไป และสามารถพัฒนาทักษะด้านภาษาจีนให้เด็กได้จริงอย่างแน่นอน

 

 

พิเศษ! สำหรับแฟนเพจ theAsianparent รับสิทธิ์ทดลองเรียน หรือปรึกษาก่อนตัดสินใจเรียนจริง พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ เพียงลงทะเบียนที่นี่ คลิก

 

 

บทความโดย

theAsianparent Editorial Team