เราเคยได้ยินเกี่ยวกับการที่เด็กทารกใช้ภาษาของตัวเองสื่อสารกับพ่อแม่และเด็กอื่น ๆ ภาษานี้อาจจะฟังดูไม่ได้ศัพท์สำหรับผู้ใหญ่ แต่เด็กเล็ก ๆ ต่างมีภาษาเป็นของตัวเอง ซึ่งเราอาจต้องพยายามเรียนรู้กันสักหน่อย เรามีคำแนะนำที่จะช่วยให้คุณเข้าใจภาษาอ้อแอ้ของเด็กน้อยมากขึ้นและทำไมเด็ก ๆ จึงสื่อสารเช่นนั้น?
ภาษาของเด็กทารก เข้าใจภาษาทารก
การสื่อสารของทารกแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ระยะแรกคือการเริ่มส่งเสียงเพื่อเรียกร้องความสนใจ ระยะที่สองคือการส่งเสียงพยางค์เดิมซ้ำ ๆ เมื่อทารกอายุได้ประมาณ 6-9 เดือน เช่น “มามามามามามามา! มามา! มามามามา!” และระยะสุดท้ายคือการพูดเสียงหลาย ๆ แบบ ซึ่งเมื่อฟังผ่าน ๆ อาจฟังดูคล้ายคำที่มีความหมายจริง ๆ ในช่วงที่เด็กเริ่มฝึกกล้ามเนื้อและพยายามเลียนแบบเสียงที่เขาได้ยิน
เด็กสองภาษา ลูกเข้าใจสิ่งที่พูดหรือไม่
ภาษาอ้อแอ้
เพื่อทำความเข้าใจภาษาอ้อแอ้ของเด็กทารก ก่อนอื่นคุณต้องตั้งใจฟังโทนเสียงและคำที่เด็กใช้ เพราะโทนเสียงและ “คำ” เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถระบุเจตนาและอารมณ์ของเด็ก
นี่เป็นข่าวดีสำหรับครอบครัวที่ใช้หลายภาษา เพราะแต่ละภาษาก็มีโทนเสียงที่แตกต่างกันออกไป เด็ก ๆ ก็เหมือนฟองน้ำที่พร้อมจะซึมซับทุกอย่างที่พวกเขาได้ยินและมองเห็น เด็กทารกในจีนที่พ่อแม่พูดภาษาฝรั่งเศสก็จะสื่อสารไม่เหมือนกับเด็กในฝรั่งเศสที่ผู้ปกครองพูดภาษาฝรั่งเศสและโปรตุเกส
เปิดหน้า 2 มีคลิปวีดีโอฮา ๆ ที่พิสูจน์ว่าทารกเค้ามีภาษาของเค้าเอง
“ภาษาอ้อแอ้” ในที่นี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เด็กที่ได้ยินเป็นปกติเท่านั้น เด็กทารกที่หูหนวกที่ “ฟัง” จากภาษามือ ก็สามารถสื่อสารภาษาอ้อแอ้ผ่านการเคลื่อนไหวเช่นกัน
เคล็ดลับการอ่านหนังสือให้ลูกวัยหัดพูด
ลูกของคุณเป็นแบบไหน?
คุณอาจสังเกตว่าลูกคนโตของคุณสื่อสารไม่เหมือนกับลูกคนสุดท้องของคุณเลยสักนิด เพราะเด็กแต่ละคนก็มีวิธีการสื่อสารที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งหลัก ๆ แบ่งได้ออกเป็น 2 ประเภท คือ เด็กที่ใช้คำ และเด็กที่ใช้น้ำเสียง
เด็กที่ใช้คำพูดอาจพยายามออกเสียงคำต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในขณะที่เด็กที่ใช้น้ำเสียงอาจพยายามเล่นกับเสียงสูงต่ำของคำมากกว่า และจะเปลี่ยนไปพูดคำอื่นต่อเมื่อพอใจกับเสียงของคำที่หัดพูดก่อนหน้าเท่านั้น เด็กประเภทหลังนี้มักใช้เวลากับการออกเสียงพยางค์เดิมซ้ำ ๆ แต่โดยปกติเด็กทั้งสองประเภทจะมีพัฒนาการด้านภาษาไม่ต่างกัน
ภาษาของเด็กทารกถือเป็นการสื่อสารรูปแบบหนึ่ง หากเราสังเกตปฏิกิริยาของผู้ปกครองต่อเสียงของทารกอย่างละเอียด เราจะพบว่าเด็กสามารถทำให้ผู้ปกครองเข้าใจพวกเขาได้ก่อนที่เขาจะเข้าใจผู้ปกครองเสียอีก