เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดกับเงินสงเคราะห์บุตรคือตัวเดียวกันหรือไม่
คำถามที่แม่ ๆ ถามกันบ่อย คือ เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดกับเงินสงเคราะห์บุตรคือตัวเดียวกันหรือไม่ ขอตอบตรงนี้เลยว่า อยู่คนละส่วนกันค่ะ แล้วก็มีเงื่อนไขที่แตกต่างกันด้วย
โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด
เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด มีเงื่อนไขว่า เด็กที่มีสิทธิ์ได้รับเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด ต้องเป็นเด็กสัญชาติไทย บิดาและ/หรือมารดามีสัญชาติไทย อยู่ในครัวเรือนยากจนและครัวเรือนที่เสี่ยงต่อความยากจน และไม่ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใด จากหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ
นั่นหมายความว่า ต้องไม่ได้รับเงินสงเคราะห์บุตรจากกองทุนประกันสังคม
ครัวเรือนยากจนและครัวเรือนที่เสี่ยงต่อความยากจน
หมายถึง ครัวเรือนที่สมาชิกในครัวเรือนมีรายได้เฉลี่ยต่ำกว่า 3,000 บาท ต่อคน ต่อเดือน หรือต่ำกว่า 36,000 บาท ต่อคน ต่อปีโดยนํารายได้ของสมาชิก ทั้งหมดในครอบครัว หารด้วยจํานวนสมาชิกทั้งหมดในครอบครัว ซึ่งรวมเด็กแรกเกิดด้วย
สำหรับคุณสมบัติผู้มีสิทธิ์รับเงินอุดหนุน ปีงบประมาณ 2560
หญิงตั้งครรภ์ต้องมีกําหนดคลอดระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2559 – 30 กันยายน 2560 สามารถยื่นลงทะเบียนไว้ก่อนได้ (หากการคลอดบุตรในภายหลัง ไม่ได้เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2559 – 30 กันยายน 2560 ให้ถือว่าสิทธิ์ที่ลงทะเบียนไว้ถูกระงับไปโดยปริยาย)
รับลงทะเบียนตั้งแต่ วันที่ 1 เมษายน 2559 เป็นต้นไป จะสิ้นสุดการลงทะเบียนวันที่ 30 กันยายน 2560 ไม่รับลงทะเบียนย้อนหลัง ให้ลงทะเบียนตามระยะเวลาที่กําหนดเท่านั้น
สถานที่รับลงทะเบียน
- ส่วนภูมิภาค : ลงทะเบียนสำนักงานเทศบาลหรือที่ทําการองค์การบริหารส่วนตําบล
- เมืองพัทยา : ลงทะเบียน ณ ศาลาว่าการเมืองพัทยา
- กรุงเทพมหานคร : ลงทะเบียน ณ สำนักงานเขต
เอกสารหลักฐานประกอบการลงทะเบียน มีดังนี้
- แบบลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์ฯ (แบบ ดร. 01)
- แบบรับรองสถานะของครัวเรือน (แบบ ดร. 02)ที่ได้รับการรับรองแล้ว
- สำเนาบัตรประจําตัวประชาชนของหญิงตั้งครรภ์หรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ
- สำเนาเอกสารแสดงการฝากครรภ์หรือ สําเนาสมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก หน้า 1
- สำเนาสูติบัตรเด็กแรกเกิด (ยื่นหลังคลอด)
- สำเนาสมุดบัญชีธนาคารกรุงไทย (กรณีประสงค์รับเงินผ่านบัญชีธนาคาร)
การจ่ายเงิน 600 บาท จะเริ่มจ่ายเมื่อใด
เด็กที่เกิดปีงบประมาณ 2560 จะได้รับเงิน 600 บาท ตั้งแต่เดือนที่เกิดเป็นต้นไป
* เด็กที่ได้รับสทธิ์เงินอุดหนุนจะได้รับเงินอุดหนุน ตั้งแต่แรกเกิดถึง 3 ปี (36 เดือน)
ข้อมูลเพิ่มเติม : หากหญิงตั้งครรภ์คลอดบุตรแล้ว ปรากฏว่าเป็นลูกแฝด จะได้รับสิทธิ์เท่าจานวนของเด็กที่เกิดมา
อ่านเงื่อนไข เงินสงเคราะห์บุตร ประกันสังคม หน้าถัดไป
สิทธิประกันสังคม
แม่ท้องหรือคุณแม่ตั้งครรภ์ จะได้รับสิทธิประกันสังคม กรณีคลอดบุตร โดยมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเกิดสิทธิ ด้วยการจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนเดือนคลอดบุตร ในกรณีสามีและภรรยาเป็นผู้ประกันตนทั้งคู่ ให้ใช้สิทธิในการเบิกค่าคลอดบุตรฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่จำกัดจำนวนบุตร/ครั้ง
ผู้ประกันตนหญิง หรือคุณแม่ตั้งครรภ์
เบิกกรณีคลอดบุตรจะได้รับค่าคลอดบุตรเหมาจ่าย 13,000 บาทต่อครั้ง เงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตรในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย เป็นเวลา 90 วัน (คิดจากฐานค่าจ้างที่นำส่งประกันสังคม ฐานสูงสุดไม่เกินเดือนละ 15,000 บาท)
ทั้งนี้ การใช้สิทธิบุตรคนที่ 3 จะไม่ได้รับสิทธิเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตรเหมาจ่ายในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ยเป็นระยะเวลา 90 วัน
แต่หากมีอายุครรภ์ 28 สัปดาห์ ต่อมาแท้งบุตร ผู้ประกันตนมีสิทธิเบิกค่าคลอดบุตรเหมาจ่ายและเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตรได้ เนื่องจากการตั้งครรภ์ไม่น้อยกว่า 28 สัปดาห์ ไม่ว่าทารกจะมีชีวิตรอดหรือไม่ถือเป็นกรณีคลอดบุตร
ผู้ประกันตนชาย หรือสามี
สามารถเบิกค่าคลอดบุตรให้ภรรยาได้ แต่ต้องมีการนำส่งเงินสมทบมาแล้ว 5 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนคลอดบุตร โดยผู้ประกันตนชายจะได้รับเงินค่าคลอดบุตรเหมาจ่ายกรณีคลอดบุตรจำนวน 13,000 บาท และถ้าสามีภรรยาอยู่กินกันโดยเปิดเผย แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน สามารถเบิกค่าคลอดบุตรได้ โดยในการยื่นคำขอให้ใช้หนังสือรับรองของผู้ประกันตนกรณีไม่มีทะเบียนสมรสแทนทะเบียนสมรส ในกรณีที่สามีเป็นผู้ประกันตนและมีภรรยาเพียงคนเดียว
อ่านเพิ่มเติม เช็คเลย! เรื่องที่แม่ท้องต้องรู้ เกี่ยวกับสิทธิประกันสังคม กรณีคลอดบุตร
สิทธิประกันสังคม กรณีสงเคราะห์บุตร
หลักเกณฑ์และสิทธิประโยชน์
- หลักเกณฑ์ที่จะทำให้ท่านมีสิทธิ คือ จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน ก่อนเดือนที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน สิทธิที่ท่านจะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเหมาจ่ายเดือนละ 400 บาทต่อบุตรหนึ่งคน
- สำหรับบุตรชอบด้วยกฎหมาย ยกเว้น บุตรบุญธรรมหรือบุตรซึ่งยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่นและบุตรมีอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จำนวนคราวละไม่เกิน 3 คน
เงื่อนไขที่ได้รับกรณีสงเคราะห์บุตร
- เงินสงเคราะห์บุตร สำหรับบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งมีอายุแรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จำนวนคราวละไม่เกิน 3 คน (บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวไม่รวมถึงบุตรบุญธรรมหรือบุตรซึ่งได้ยกให้ เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น)
- ผู้ประกันตนมี สิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตรสำหรับบุตรซึ่งมีอายุไม่เกิน 6 ปีบริบูรณ์ เว้นแต่ผู้ประกันตนเป็นผู้ทุพพลภาพหรือถึงแก่ความตาย ในขณะที่บุตรมีอายุแรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จะมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนต่อจนอายุ 6 ปีบริบูรณ์
การหมดสิทธิรับเงินกรณีสงเคราะห์บุตร
- เมื่อบุตรมีอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์
- บุตรเสียชีวิต
- ยกบุตรให้เป็นบุตรบุญธรรมของคนอื่น
- ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
ไขข้อข้องใจกันไปแล้วว่า เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดกับเงินสงเคราะห์บุตรนั้นเป็นคนละส่วนกัน คุณพ่อคุณแม่สามารถเข้าไปดูเงื่อนไขและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ด้านล่างค่ะ
โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด
กองทุนประกันสังคม กรณีสงเคราะห์บุตร
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
พ่อกับแม่ใครมีสิทธิในตัวลูกมากกว่ากัน
เบิกค่าคลอดบุตรประกันสังคม ได้มั๊ยถ้าพ่อแม่ไม่ได้จดทะเบียน??!! ฟังชัดๆ จากประสบการณ์คุณแม่
บ้านไหนมีหนี้เตรียมเฮ! รัฐเปิด คลีนิกแก้หนี้ ช่วยปลดหนี้สูงสุด 2 ล้าน!