เปิดผลทดสอบ IQ ทั่วโลก! เว็บไซต์ International IQ Test เผยผลการทดสอบจากผู้เข้าร่วมกว่า 1.6 ล้านคนทั่วโลก ประจำปี 2023 มาดูกันว่า ประเทศไหนฉลาดที่สุด และประเทศไทยเราอยู่ตรงไหนในอันดับโลกและเป็นอันดับที่เท่าไหร่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ผลการสำรวจนี้เผยค่าเฉลี่ย IQ ของแต่ละประเทศ อัปเดตเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2024 โดยการศึกษานี้ใช้ข้อมูลจากผู้คน 1,691,740 คนทั่วโลกที่ทำแบบทดสอบเดียวกันบนเว็บไซต์ในปี 2023
สารบัญ
Top 10 ประเทศไหนฉลาดที่สุด IQ สูงที่สุดในโลก
อันดับโลก | ประเทศ | ค่าเฉลี่ย IQ |
1 | เกาหลีใต้ | 107.54 |
2 | จีน | 106.99 |
3 | อิหร่าน | 106.84 |
4 | ญี่ปุ่น | 106.18 |
5 | สิงคโปร์ | 106.18 |
6 | ออสเตรีย | 102.71 |
7 | แคนาดา | 102.6 |
8 | เยอรมนี | 102.36 |
9 | สโลวีเนีย | 102.31 |
10 | มองโกเลีย | 102.3 |
สำหรับประเทศในอาเซียน ผลการทดสอบ ประเทศที่ IQ สูงสุด จะเป็นอย่างไร ประเทศไทยจะอยู่อันดับที่เท่าไหร่ มาดูพร้อมกันเลย
ประเทศไหนฉลาดที่สุด ในอาเซียน
อันดับ | ประเทศ | ค่าเฉลี่ย IQ | อันดับโลก |
1 | สิงคโปร์ | 106.18 | 5 |
2 | เวียดนาม | 101.45 | 20 |
3 | มาเลเซีย | 99.55 | 38 |
4 | ไทย | 98.46 | 53 |
5 | เมียนมา | 97.39 | 61 |
6 | ฟิลิปปินส์ | 96.37 | 70 |
7 | กัมพูชา | 95.36 | 75 |
8 | ลาว | 92.72 | 93 |
9 | อินโดนีเซีย | 92.64 | 95 |
10 | บรูไน | ไม่มีข้อมูล | ไม่มีข้อมูล |
การแบ่งระดับไอคิว
จากค่าเฉลี่ย IQ ของประเทศไทย อยู่ที่ 98.46 เมื่อเทียบกับเกณฑ์การแบ่งระดับไอคิว พบว่า ระดับ IQ ของคนไทยอยู่ในระดับ ฉลาดปานกลาง หรือระดับปกติค่ะ โดยดูจากการแบ่งระดับไอคิว ดังนี้
- 140 ขึ้นไป อัจฉริยะ ฉลาดมากที่สุด (very superior)
- 120 – 139 ฉลาดมาก (superior)
- 110 – 119 ฉลาดกว่าระดับปกติ (higher average)
- 90 – 109 ฉลาดปานกลาง หรือระดับปกติ (average)
- 80 -89 ต่ำกว่าปกติ (low average)
- 70 -79 คาบเส้นปัญญาอ่อน (borderline mentalretardation)
- ต่ำกว่า 70 ปัญญาอ่อน (mental ratardation)
ปัจจัยที่ทำให้ค่าเฉลี่ย IQ ของแต่ละประเทศแตกต่างกัน
มีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้ค่าเฉลี่ย IQ ระหว่างประเทศแตกต่างกัน โดยปัจจัยเหล่านี้สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มหลักต่อไปนี้
-
ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม
- สุขภาพ ประเทศที่มีอัตราการติดเชื้อโรคต่ำและมีระบบสาธารณสุขที่ดี มักจะมีประชากรที่มีสุขภาพแข็งแรง ซึ่งส่งผลดีต่อพัฒนาการทางสมองและสติปัญญา
- โภชนาการ อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการเพียงพอช่วยบำรุงสมองและส่งเสริมการเรียนรู้ การขาดสารอาหารสำคัญอาจส่งผลเสียต่อพัฒนาการทางสติปัญญา
- การศึกษา ระบบการศึกษาที่มีคุณภาพและเข้าถึงได้ง่าย ส่งเสริมให้ประชาชนได้พัฒนาความรู้และทักษะ
- วัฒนธรรมและสังคม วัฒนธรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ การคิดวิเคราะห์ และการแก้ปัญหา จะช่วยพัฒนาสติปัญญาของประชาชนได้ดีกว่า
- กิจกรรมที่กระตุ้นสมอง การเล่นเกมที่ใช้สมอง การอ่านหนังสือ การเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ หรือการทำกิจกรรมที่ท้าทาย จะช่วยพัฒนาความสามารถทางสติปัญญา
-
ปัจจัยทางพันธุกรรม
- รหัสพันธุกรรม ยีนของแต่ละคนมีบทบาทสำคัญในการกำหนดศักยภาพทางสติปัญญาเบื้องต้น
- การถ่ายทอดทางพันธุกรรม การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมจากรุ่นสู่รุ่นมีส่วนสำคัญในการกำหนดค่าเฉลี่ย IQ ของประชากรในแต่ละกลุ่ม
ทั้งนี้ ปัจจัยทั้งสองประเภทนี้มีปฏิสัมพันธ์กัน พันธุกรรมเป็นเหมือนพื้นฐานที่มั่นคง แต่สิ่งแวดล้อมจะเป็นตัวกำหนดว่าพื้นฐานนั้นจะถูกพัฒนาไปในทิศทางใดค่ะ
ปัจจัยที่ทำให้เด็กแต่ละคนมี IQ แตกต่างกัน
IQ ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลข แต่เป็นผลลัพธ์จากปฏิสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของปัจจัยหลายอย่าง ทั้งภายในและภายนอกตัวบุคคล มาดูกันว่าอะไรบ้างที่ส่งผลต่อความฉลาดของแต่ละคน
-
พันธุกรรม
- รหัสพันธุกรรม ยีนของเราเป็นเหมือนแผนผังที่กำหนดศักยภาพทางสติปัญญาเบื้องต้น
- 80/20 แม้พันธุกรรมจะมีบทบาทสำคัญ แต่สิ่งแวดล้อมก็มีส่วนช่วยในการพัฒนา IQ ถึง 20%
-
สมองและระบบประสาท
- โครงสร้างสมอง ความซับซ้อนและประสิทธิภาพของการเชื่อมต่อเซลล์ประสาทในสมองมีผลต่อความสามารถในการคิด
- สารสื่อประสาท สารเคมีที่ส่งสัญญาณในสมองส่งผลต่อการเรียนรู้และความจำ
-
สิ่งแวดล้อม
- ครอบครัว การเลี้ยงดูที่อบอุ่น การสนับสนุน และการกระตุ้นทางสติปัญญาตั้งแต่เด็กเล็กส่งผลต่อพัฒนาการของสมอง
- การศึกษา โอกาสในการเข้าถึงการศึกษาที่ดีมีผลต่อการขยายขอบเขตความรู้และทักษะ
- สังคม การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น การเรียนรู้จากประสบการณ์ใหม่ๆ ช่วยกระตุ้นการพัฒนาสมอง
- โภชนาการ อาหารที่มีประโยชน์ช่วยบำรุงสมองและส่งเสริมการทำงาน
- สุขภาพ สุขภาพกายและใจที่ดีเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาสติปัญญา
-
อายุและเพศ
- ช่วงอายุ ช่วงวัยรุ่นอายุ 15-25 ปี เป็นช่วงที่สมองพัฒนาอย่างเต็มที่ แต่ IQ จะค่อยๆ ลดลงเมื่ออายุมากขึ้น
- เพศ มีงานวิจัยชี้ให้เห็นว่าเพศชายและหญิงมีความถนัดที่แตกต่างกัน เช่น เพศชายอาจมีความสามารถทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์สูงกว่า ขณะที่เพศหญิงอาจมีความสามารถทางภาษาและความจำดีกว่า
-
ปัจจัยอื่นๆ
- เชื้อชาติ ผลการวิจัยยังไม่ชัดเจนว่าเชื้อชาติมีผลต่อ IQ โดยตรงหรือไม่ แต่ปัจจัยทางสังคมและเศรษฐกิจอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง
- ความผิดปกติทางสมอง โรคบางชนิด เช่น โรคดาวน์ซินโดรม อาจส่งผลต่อพัฒนาการทางสติปัญญา
พ่อแม่อยากให้ลูกมี IQ ดี ควรทำอย่างไร
จากที่กล่าวมา ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม การเลี้ยงดูให้การศึกษาที่ดีมีผลต่อ IQ ของลูก ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่คือกำลังสำคัญในการสร้างเสริมความสามารถทางสติปัญญาให้กับลูกน้อย ด้วยวิธีเหล่านี้ค่ะ
- ส่งเสริมการอ่าน การอ่านหนังสือเป็นประจำช่วยเพิ่มพูนความรู้และพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์
- กระตุ้นให้ลูกตั้งคำถาม การถามคำถามช่วยให้เด็กคิดวิเคราะห์และค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง
- เล่นเกมที่กระตุ้นสมอง เกมปริศนา เกมกระดาน และเกมที่ต้องใช้กลยุทธ์ ช่วยพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาและการคิดเชิงตรรกะ
- สนับสนุนให้ลูกเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ช่วยให้สมองพัฒนาและสร้างเซลล์ประสาทใหม่ๆ
- ให้โอกาสลูกได้สำรวจและทดลอง การได้ลงมือทำกิจกรรมต่างๆ ช่วยให้เด็กเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง
- ดูแลสุขภาพของลูก การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกาย และการนอนหลับพักผ่อนเพียงพอ มีความสำคัญต่อการพัฒนาสมอง
- สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ในครอบครัว การสนทนาและการทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กอยากเรียนรู้
15 เกมสนุกๆ พัฒนา IQ ให้ลูกฉลาดตั้งแต่เด็ก
การเล่นเกมสนุกๆ ช่วยพัฒนา IQ ของเด็กได้อย่างดีเยี่ยม และยังช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างพ่อแม่และลูกอีกด้วย ลองมาดูตัวอย่างเกมที่เหมาะกับเด็กแต่ละวัยกันเลยค่ะ
-
เกมพัฒนา IQ สำหรับเด็กวัย 2-5 ปี
- จับคู่รูปภาพ ช่วยให้เด็กเรียนรู้การจำ การเปรียบเทียบ และการจำแนกประเภท
- ต่อบล็อก ฝึกทักษะการแก้ปัญหา การวางแผน และความคิดสร้างสรรค์
- เล่นดินน้ำมัน ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมือและจินตนาการ
- เกมซ่อนหา ฝึกทักษะการสังเกต การจำ และการแก้ปัญหา
- เล่านิทาน ช่วยพัฒนาทักษะภาษา การจินตนาการ และความเข้าใจในโลก
-
เกมพัฒนา IQ สำหรับเด็กวัย 6-8 ปี
- เกมกระดาน (บอร์ดเกม) เช่น เกมหมากฮอส เกมเศรษฐี ช่วยฝึกทักษะการวางแผน การคิดเชิงตรรกะ และการแก้ปัญหา
- ปริศนาอักษรไขว้ ช่วยพัฒนาทักษะการใช้ภาษา การสังเกต และการคิดวิเคราะห์
- เกมต่อจิ๊กซอว์ ฝึกทักษะการสังเกต ความอดทน และการแก้ปัญหา
- เกมทายคำ ช่วยเพิ่มพูนคำศัพท์และทักษะการคิดเชื่อมโยง
- เกมวิทยาศาสตร์ง่ายๆ เช่น การทดลองกับน้ำแข็ง การปลูกต้นไม้ ช่วยกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นและพัฒนาทักษะการสังเกต
-
เกมพัฒนา IQ สำหรับเด็กวัย 9-12 ปี
- เกมหมากรุก ช่วยพัฒนาทักษะการวางแผน การคิดล่วงหน้า และการแก้ปัญหา
- เกมไพ่ เช่น เกมป็อกเด้ง เกมแบล็คแจ็ค ช่วยฝึกทักษะการคำนวณ ความน่าจะเป็น และการตัดสินใจ
- เกมคอมพิวเตอร์ที่ฝึกสมอง เช่น เกมปริศนา เกมต่อภาพ ช่วยพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา
- การเขียนโปรแกรม ช่วยพัฒนาทักษะการคิดเชิงตรรกะ การแก้ปัญหา และความคิดสร้างสรรค์
- การอ่านหนังสือ ช่วยเพิ่มพูนความรู้ พัฒนาทักษะภาษา และจินตนาการ
อย่างไรก็ดี IQ เป็นเพียงปัจจัยหนึ่งที่บ่งบอกถึงความสามารถของคนเรา ความสำเร็จในชีวิตยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ความสามารถทางอารมณ์ (EQ) ความขยันหมั่นเพียร และทักษะการเข้าสังคม ดังนั้น การส่งเสริมให้ลูกพัฒนาในทุกด้านจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดค่ะ
ที่มา สถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้ ม.มหิดล , คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
8 ทักษะจำเป็นที่เด็กอนุบาลต้องมี เพื่อก้าวสู่ศตวรรษที่ 21 (Part 1)
10 โรงเรียนแนวมอนเตสซอรี่ มีที่ไหนบ้าง ในกทม.และปริมณฑล
10 อันดับ โรงเรียนมัธยมต้นในกทม. ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ปี 2567