วัคซีนไข้หวัดใหญ่ทำไมควรฉีดทุกปี? ต้องฉีดจริงมั๊ย ดีจริงหรือเปล่า
เรื่องโรคไข้หวัดใหญ่ เป็นอะไรที่เด็กทารก หรือ เด็กหลายคน อาจจะมีความเสี่ยงมากกว่าที่เราคิด เพราะฉะนั้นการมี วัคซีนเข้ามาก็จะช่วยให้ ความเสี่ยง นั้นลดน้อยลงไป แต่การทำวัคซีนนั้น จำเป็นจะต้อง วัคซีนไข้หวัดใหญ่ทำไมควรฉีดทุกปี? จริงรึเปล่า ระยะเวลาที่ใช้ป้องกันได้ มันมีแค่ไหนกันแน่
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ มีกี่ชนิด?
ปัจจุบัน วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ที่ฉีดกัน มี 2 ชนิด คือ
- ชนิด 4 สายพันธุ์มีส่วน ประกอบคือ สายพันธุ์ A จำนวน 2 สายพันธุ์ ได้แก่ H1N1 และ H3N2 กับ สายพันธุ์ B จำนวน 2 สายพันธุ์ คือ lineages ชื่อ Victoria และ Yamagata
- ชนิด 3 สายพันธุ์ซึ่งมี ส่วนประกอบ คือ สายพันธุ์ A จำนวน 2 สายพันธุ์ย่อย ได้แก่ H1N1 และ H3N2 กับ สายพันธุ์ B จำนวน 1 สายพันธุ์ ที่คาดว่าจะมีการระบาดในช่วงนั้น
การคัดเลือกสายพันธุ์ ที่มา ผลิตวัคซีนพิจารณาจากอะไร?
การเลือกสายพันธุ์ ที่มาทำวัคซีน จะมีการเปลี่ยนแปลงทุกปี โดยจะใช้สายพันธุ์ ที่คาดว่าน่าจะมีการระบาดในปีนั้นๆ ตามข้อมูล ทางระบาดวิทยาจากองค์การอนามัยโลก ซึ่งใน เดือนกันยายน ของทุกปีจะมี การประชุมคัดเลือก สายพันธุ์ ที่มาทำวัคซีน สำหรับประเทศ ทางซีกโลกใต้ และ เดือนกุมภาพันธ์ จะมี การคัดเลือก สายพันธุ์ สำหรับประเทศ ทางซีกโลกเหนือ ใช้เวลาผลิตวัคซีนประมาณ 6 เดือน
ดังนั้น วัคซีน ที่ผลิตเพื่อใช้สำหรับซีกโลก ใต้จะจำหน่ายช่วงต้นปี ส่วนวัคซีนที่ผลิตเพื่อใช้ สำหรับซีกโลก เหนือจะจำหน่าย ช่วงปลายปี สำหรับประเทศไทย มีทั้งวัคซีน แบบซีกโลกเหนือ และ ใต้ ขึ้นอยู่กับ ช่วงเวลา และ วัคซีน ที่ใช้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ในวัคซีน แล ะสายพันธุ์ ที่เกิด การระบาดในช่วงนั้นๆ ว่าตรงกันหรือไม่ อีกด้วยค่ะ
ควรฉีด วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ในช่วงใดของปี?
เนื่องจากการระบาด ครั้งใหญ่ของ ไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทย มักเกิดช่วงฤดูฝน เดือนมิถุนายน ถึง กันยายน โดยทั่วไปจึง แนะนำ ให้ฉีดวัคซีนสายพันธุ์ซีกโลก ใต้ก่อนเข้าฤดูฝน ซึ่งก็คือช่วง หน้าร้อน ก่อนเด็กๆ เปิดเทอม ภาคการศึกษาแรก นั่นเองค่ะ แต่หากฉีด ก่อนเข้าฤดูหนาว อาจฉีดสายพันธุ์ของ ขั้วโลกเหนือ ทั้งนี้ ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่มี การระบาดทั้งปี ในประเทศไทย จึงสามารถ ฉีดได้ตลอดปีนะคะ
ทำไมควรฉีด วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ทุกปี?
เนื่องจาก มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ ของไวรัสที่บรรจุในวัคซีนทุกปี ให้ตรงกับข้อมูลที่มีการระบาดดัง ที่หมอ กล่าวมาข้างต้น ร่วมกับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่มี การกลายพันธุ์ ระหว่างที่ไวรัสแบ่งตัวได้บ่อย ทำให้ ไวรัสที่กลายพันธุ์ แล้วไม่สามารถ ป้องกัน ด้วยวัคซีนเดิมได้ อีกทั้ง แม้ว่าสายพันธุ์ที่ระบาด จะป็นสายพันธุ์ เดียวกับปีที่ผ่านมา แต่ภูมิคุ้มกัน ที่สร้างขึ้นมักสูงที่สุดหลังฉีด 6 เดือนแรก และ คงอยู่ได้ประมาณ 1 ปี จึงควร ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ทุกปีค่ะ
หากฉีด วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ไปไม่นาน ในปีนั้นก็มีวัคซีนของสายพันธุ์ใหม่เข้ามา สามารถฉีดได้เลยหรือไม่?
โดยทั่วไป ไม่มีตัวเลขจาก การศึกษาวิจัย ว่าระยะห่างระหว่าง การฉีดไข้หวัดใหญ่ ในแต่ละ ปีควรห่างกัน อย่างน้อยกี่เดือน หากต้อง ฉีดก่อนครบ 1 ปีจะมี ผลเสียหรือไม่
ดังนั้นหาก เพิ่งฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ไปไม่นานแล้วมีวัคซีนใหม่ ซึ่งสายพันธุ์เปลี่ยนมาก ก็สามารถ ฉีดซ้ำได้ก่อนครบ 1 ปีนะคะ โดยควรฉีดห่างจากเข็ม ที่แล้วประมาณ 6 เดือน เพราะภูมิคุ้มกัน ที่สร้างขึ้นหลังฉีด ซึ่งอาจจะ สามารถป้องกัน เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ ใหม่ได้บางส่วนนั้น จะขึ้นสูงอยู่ประมาณ 6 เดือน หลังจากนั้นจึง เริ่มลดลงค่ะ
Source : euro
บทความที่น่าสนใจอื่นๆ :
แพ็คเกจวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ ราคาฉีดวัคซีนโรงพยาบาลชั้นนำ
ลูกแพ้ไข่ ห้ามฉีดวัคซีนอะไรบ้าง?
ตารางวัคซีนประจำปี 2559 เช็คเลย!