บล็อกเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นที่ไม่เหมาะสมกับลูกยังไงให้ได้ผล

ปัจจุบัน เครื่องมือสื่อสารยุคดิจิตอลอย่างสมาร์ทโฟนและแท็บเลตกลายเป็นเครื่องเล่นคู่ใจเด็ก ๆ เพราะพกพาสะดวก ใช้ง่าย และเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตที่มีเกม แอพพลิเคชั่นใหม่ ๆ ได้รวดเร็ว แต่เจ้าตัวเล็กอาจใช้เวลากับการเล่นเกมและท่องเว็บไซต์มากไปจนเกิดปัญหาสุขภาพ รวมทั้งเจอเนื้อหาที่ไม่เหมาะกับวัยโดยไม่รู้ตัว จะมีวิธีไหนที่บล็อกแอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์พวกนี้ได้บ้างนะ?

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บล็อกเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นที่ไม่เหมาะสมกับลูก

บล็อกเว็บไซต์ไม่เหมาะสมกับลูกยังไงให้ได้ผล?

ระบบ IOS

บล็อกเว็บไซต์ และ แอพพลิเคชั่น ที่ไม่เหมาะสมกับลูก คุณพ่อ คุณแม่ ที่ใช้สมาร์ทโฟน หรือ แท็บเลตในระบบ IOS อาจได้เปรียบนิดหน่อย เพราะผู้พัฒนาระบบ IOS 7 ปรับปรุงวิธีการจำกัดการใช้งาน ป้องกันการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น และ เกมที่มีความรุนแรง หรือ บล็อกการเชื่อมต่อไปเว็บโป๊ และ เว็บไซต์อื่น ๆ ที่ไม่เหมาะกับวัย ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้ ๆ

1. คลิกไปที่ “Setting”

2. เลือกหัวข้อ “General”

3. เลือกหัวข้อ “Restrictions”

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

4. เลือกเปิดการใช้งาน “Enable”

5. ตั้งค่าและยืนยันรหัสการเปิด – ปิดระบบการจำกัดการใช้งาน

6. กำหนดว่าจะจำกัดการใช้งาน แอพพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์สำหรับ เด็กระดับอายุใดบ้าง หรือเลือก “Limit Adult Content” ที่บล็อกการเข้าถึงเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ก็ได้

ระบบ Android และ Windows Phone

ใครที่ใช้ระบบแอนดรอยด์ หรือ วินโดวส์โฟนอย่าเพิ่งน้อยใจไป เพราะมีแอพพลิเคชั่นที่ช่วยกำหนดเวลาการใช้งาน หรือ การเข้าถึงข้อมูลในสมาร์ทโฟน และ แท็บเลตให้ดาวน์โหลดได้ฟรี ๆ เพียงพิมพ์คำว่า “parental control” ในแถบค้นหา รายชื่อของแอพพลิเคชั่นดี ๆ ที่ไม่มีค่าบริการก็ปรากฏพร้อมให้เลือกโหลดไปใช้ได้ตามใจ ๆ เช่น PlayPad Parental Control จาก PLAYPAD ที่บล็อก แอพพลิเคชั่น บางส่วนในเครื่องไม่ให้ลูกเผลอกดเข้าไปดู และ มีระบบ tracking ติดตามการใช้งานของลูกได้ตลอดเวลา หรือ Parental Control จาก Khon Kean University (KKU) ที่ใช้งานง่าย เพียงเลือกช่วงวัยที่ต้องการก่อนระบุแอพพลิเคชั่น และ เวลาใช้งานในแต่ละวัน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

การจำกัดการ ใช้งานอาจช่วยป้องกันอันตรายที่มากับ แอพพลิเคชั่น เว็บไซต์ หรือ สื่ออินเตอร์เน็ต ให้ลูกที่คุณรักได้ แต่ทางที่ดี คุณพ่อ คุณแม่ ควรชวนลูกทำกิจกรรมอื่นนอกจาก การขลุกอยู่กับเทคโนโลยีบ้าง เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ ระหว่างคนในครอบครัว และ ลดปัญหาสุขภาพ เช่น ปวดตา ข้อนิ้วอักเสบ ที่เกิดจากการใช้เครื่องมือสื่อสารเป็นเวลานาน ๆ

theAsianparent Thailand เชื่อว่าการศึกษาที่ดีจะช่วยเสริมสร้างรากฐานที่ดีให้ กับเด็ก เป็นการเริ่มต้นสร้างสภาะแวดล้อมในการเรียนรู้ได้อย่างสมวัย และ เป็นไปตามที่ คุุณพ่อ คุณแม่ ต้องการการเลือกโรงเรียนให้ กับลูกคือหัวใจหนึ่งของการศึกษา เพราะการเลือกโรงเรียนตั้งแต่เนอสเซอรี่ การเลือกโรงเรียนอนุบาล เป็นด่านแรกที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้ กับลูกได้ เช่น มีหลักสูตรที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง หลักสูตรวิชาการที่พอดีกับการเรียนรู้ การใช้ Play Base Learning เพื่อเสริทสร้างพหุปัญญษทั้ง 8 ด้าน หรือ EF ที่ทำให้ลูกได้เรียนรู้ทั้ง Hard Skill และ Soft Skill อย่างสมดุลย์ เพราะการเรียนรู้ที่ดี สามารถเรียนรู้ได้ต่อเนื่องไม่จำกัด และ ทำให้เด็กค้นพบตัวตน และ มีความสุขกับการเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง

บล็อกเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นที่ไม่เหมาะสมกับลูก เรามีเคล็ดลับมาฝาก สำหรับ คุณพ่อ คุณแม่

ให้การเล่นอินเทอร์เน็ตของลูก เป็นเวลาของครอบครัวด้วย

ไม่ควรปล่อยให้ลูกเล่นอินเทอร์เน็ตลำพัง ควรอยู่ใกล้ ๆ คอยแนะนำเว็บไซต์หรือเนื้อหาที่เหมาะสม ถือว่าเป็นการคอยสังเกตลูกไปในตัว ซึ่งเด็กจะรู้สึกอุ่นใจ กล้าพูด กล้าซักถามกับพ่อแม่มากขึ้น กลายเป็นการสร้างเวลาของครอบครัวไปด้วย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สร้างวินัยและกำหนดขอบเขตเวลาการเล่นเน็ต

กำหนดระยะเวลาในการเล่นของลูก เช่น บอกให้ลูกทำการบ้านให้เสร็จ ถึงจะให้เล่นอินเทอร์เน็ต 1 ชั่วโมง เป็นต้น ถือว่าเป็นการสอนให้ลูกมีความรับผิดชอบไปในตัว เมื่อทำได้ จะได้เล่นอินเทอร์เน็ตเป็นรางวัล

นอกจากนี้การกำหนดเวลา จะช่วยไม่ให้ลูกติดเล่นอินเทอร์เน็ต จนหลงลืมหน้าที่ของตัวเองไปด้วย

อย่าแชทกับคนแปลกหน้า

ไม่ว่าจะโลกจริง หรือโลกออนไลน์ สำหรับเด็กแล้วคนแปลกหน้า ไม่ควรไว้ใจ อธิบายลูกให้รู้จักระมัดระวังภัยประเภทนี้ ย้ำกับลูกเสมอ ห้ามบอกชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร หรือชื่อโรงเรียน และคอยระวังอย่าให้มีการแอบนัดเจออีกฝ่ายหลังจากแชท

ลูกให้รู้จักการใช้งานด้านอื่นๆที่เป็นประโยชน์

ควรสอนลูกถึงการใช้งานอื่นๆ นอกเหนือจากการเล่นอินเทอร์เน็ต เช่น การเรียนเขียนโค้ดออนไลน์ (www.code.org) การฟัง podcast สำหรับฝึกภาษาอังกฤษ เป็นต้น

ที่มาอ้างอิง https://www.catcyfence.com/it-security/article/12-ways-to-safe-kid-online/

 

ควรเป็นเพื่อนกับลูกในเฟสบุ๊คหรือไม่?

ตามลูกให้ทันในยุคโซเชียลมีเดียครองโลก

ข้อเสียของมือถือ: เด็ก 1 ขวบกดซื้อรถทางอีเบย์

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา