แพทย์ชี้ สเปรย์กันแดด อาจทำให้ ปอดอักเสบจากภูมิไวเกิน ในเด็ก สำนักข่าวอีทีทูเดย์ รายงาน กรณีเด็กหญิงชาวจีนวัย 7 ขวบ ไอ-อาเจียน หลังใช้สเปรย์กันแดด โดยแพทย์ชี้ว่าเป็นอาการ ปอดอักเสบจากภูมิไวเกิน ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาที่ทันเวลา อาจเสี่ยงปอดบวมรุนแรงได้
ตามรายงานกล่าวว่า เด็กหญิงวัย 7 ขวบเพิ่งฉีดสเปรย์กันแดดของแม่ ขณะที่เธอออกไปเล่นกลางแจ้งกับครอบครัว หลังจากฉีดสเปรย์ลงบนใบหน้าไม่กี่ครั้ง เธอก็เริ่มมีอาการไออย่างรุนแรงและอาเจียนออกมา ทางพ่อแม่ของเด็กหญิงจึงรีบพาตัวลูกสาวส่งโรงพยาบาลในทันที ด้านกุมารแพทย์ที่ทำการรักษา ค้นพบระหว่างการตรวจว่าผลการเอกซเรย์ปอดของคนไข้ว่า มีคราบขาวขนาดใหญ่บนปอดทั้งสองข้าง อีกทั้งการตรวจเลือดพบว่า เซลล์เม็ดเลือดขาวสูงและ C- โดยข้อวินิจฉัยขั้นแรก คือ การสูดดมสเปรย์ครีมกันแดดทำให้เกิดโรค ปอดอักเสบจากภูมิไวเกิน เฉียบพลัน ซึ่งทางแพทย์ได้กล่าวเสริมอีกว่า “นี่เป็นอาการโดยทั่วไปของโรคปอดอักเสบจากภูมิไวเกินเฉียบพลัน ซึ่งมักรุนแรง หากไม่ได้รับการรักษาทันเวลา อาจพัฒนาเป็นโรคปอดบวมรุนแรง ระบบหายใจล้มเหลว และอาการอื่น ๆ ที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้”
ทางทีมแพทย์ให้การติดตามคลื่นไฟฟ้าหัวใจของเด็กหญิงคนดังกล่าว พร้อมกับการรักษาอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ จึงทำให้อาการของเด็กหญิงวัย 7 ขวบ ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงอาการหายใจลำบากทุเลาลงอย่างเห็นได้ชัด และอาการไอหายไปอย่างสมบูรณ์หลังการรักษา 48 ชั่วโมง
กุมารแพทย์เตือนว่า ไม่แนะนำให้เด็กใช้ “สเปรย์กันแดด” โดยเฉพาะเด็กเล็กและเด็กที่เป็นภูมิแพ้ หากฉีดสเปรย์กันแดดบนศีรษะหรือใบหน้าของเด็กโดยตรง เด็กอาจสูดดมละอองที่ฉีดพ่นโดยไม่ตั้งใจ
ละอองของสเปรย์กันแดดอาจมีสารกันแดด, สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย, แอลกอฮอล์, น้ำหอม สารอื่น ๆ ที่นิยมใส่ในสำอางต่าง ๆ เป็นต้น จึงก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพโดยเฉพาะผู้ที่มีความไวต่อทางเดินหายใจสูง เช่น โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้, โรคผิวหนังภูมิแพ้, โรคหอบหืด เป็นต้น มีแนวโน้มที่จะมีอาการไอหรือหายใจไม่ออกอย่างรุนแรงได้
หากมีอาการต่าง ๆ เช่น ไอ แน่นหน้าอก และหายใจไม่สะดวกเกิดขึ้นหลังการใช้สเปรย์กันแดด ควรไปพบแพทย์ให้ทันเวลาและแจ้งประวัติการใช้สเปรย์กันแดดให้แพทย์ทราบ เพื่อให้แพทย์สามารถตัดสินได้อย่างถูกต้อง ให้การวินิจฉัยและการรักษาอย่างทันท่วงที
ขอขอบคุณที่มา : khaosod.co.th
ปอดอักเสบจากภูมิไวเกิน คืออะไร?
ปอดอักเสบจากภูมิไวเกิน หรือ Hypersensitivity pneumonitis เป็นโรคที่เกิดจากปฏิกิริยาแพ้ของปอดต่อสิ่งกระตุ้นจากภายนอก เช่น ฝุ่นละออง สปอร์ของเชื้อรา สารเคมี หรือแม้แต่ขนสัตว์ เมื่อร่างกายสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้ ระบบภูมิคุ้มกันจะตอบสนองอย่างรุนแรง ทำให้เกิดการอักเสบในปอด
สาเหตุ
- การสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ซ้ำ ๆ: การสูดดมสารก่อภูมิแพ้เข้าไปในปอดซ้ำ ๆ ทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันชนิดหนึ่งที่เรียกว่า IgE ซึ่งจะไปกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาแพ้เมื่อสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ในครั้งต่อๆ ไป
- อาชีพ: ผู้ที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม ฟาร์ม หรือสถานที่ที่มีฝุ่นละอองหรือสารเคมีมาก มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้สูง
- สิ่งแวดล้อม: ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง หรือมีเชื้อราในอากาศจำนวนมาก ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน
อาการ
อาการของโรคปอดอักเสบจากภูมิไวเกิน อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและปัจจัยอื่น ๆ ได้แก่
- อาการเฉียบพลัน: เกิดขึ้นทันทีหลังจากสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไอแห้ง หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก ไข้ หนาวสั่น
- อาการเรื้อรัง: เกิดขึ้นหลังจากสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน อาจมีอาการเหนื่อยง่าย ไอเรื้อรัง น้ำหนักลด และหายใจมีเสียงหวีด
การวินิจฉัย
- ประวัติทางการแพทย์: แพทย์จะสอบถามเกี่ยวกับอาการ อาชีพ และประวัติการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้
- การตรวจร่างกาย: แพทย์จะตรวจฟังเสียงปอด
- การตรวจเลือด: เพื่อตรวจหาระดับของ CRP (C-reactive protein) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้การอักเสบ และตรวจหาแอนติบอดีต่อสารก่อภูมิแพ้
- การตรวจเอกซเรย์ปอด: เพื่อดูความผิดปกติของปอด
- การตรวจปอดด้วยเครื่อง CT Scan: เพื่อดูรายละเอียดของปอดอย่างละเอียด
- การตรวจปอดด้วยการวัดปริมาณลมหายใจ: เพื่อประเมินความสามารถในการทำงานของปอด
การรักษา
- หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้: วิธีการรักษาที่สำคัญที่สุดคือการหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ที่ทำให้เกิดอาการ
- ยา: แพทย์อาจจ่ายยาเพื่อบรรเทาอาการ เช่น ยาแก้แพ้ ยาละลายเสมหะ
- ออกซิเจน: ในกรณีที่อาการรุนแรง อาจต้องได้รับออกซิเจนช่วยหายใจ
- การทำกายภาพบำบัด: เพื่อช่วยให้ปอดทำงานได้ดีขึ้น
การป้องกัน
- หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้: สวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องสัมผัสกับฝุ่นละออง หรือสารเคมี
- รักษาความสะอาดในบ้าน: ทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองและเชื้อรา
- ตรวจสุขภาพปอดเป็นประจำ: โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงสูง
สเปรย์กันแดดก่อให้เกิดปอดอักเสบจากภูมิไวเกินได้ไหม ?
สเปรย์กันแดดอาจก่อให้เกิดปอดอักเสบจากภูมิไวเกินได้ แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง และเป็นกรณีที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจงโดยอาจมีหลายสาเหตุดังนี้
- ส่วนผสมในสเปรย์กันแดด: สเปรย์กันแดดบางชนิดอาจมีส่วนผสมที่สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองในบางบุคคลได้ เมื่อสูดดมเข้าไป อาจทำให้เกิดอาการทางเดินหายใจ เช่น ไอ หายใจขัด หรือในกรณีที่รุนแรงอาจนำไปสู่ปอดอักเสบได้
- การสูดดมโดยตรง: การฉีดสเปรย์กันแดดใกล้ใบหน้าหรือในพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทไม่สะดวก อาจทำให้สูดดมสารเคมีจากสเปรย์เข้าไปในปอดโดยตรง เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้
- ภูมิไวเกิน: ผู้ที่มีอาการแพ้ง่าย หรือมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดปฏิกิริยาแพ้ต่อสารเคมีในสเปรย์กันแดดมากกว่าคนทั่วไป
ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ
- ชนิดของสเปรย์กันแดด: สเปรย์กันแดดแต่ละชนิดมีส่วนผสมที่แตกต่างกัน บางชนิดอาจมีสารเคมีที่ระคายเคืองมากกว่าชนิดอื่น
- ปริมาณที่ใช้: การใช้สเปรย์กันแดดในปริมาณมาก หรือฉีดซ้ำบ่อยครั้ง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการสูดดมสารเคมี
- สภาพแวดล้อม: การฉีดสเปรย์กันแดดในพื้นที่ปิด หรือพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทไม่สะดวก อาจทำให้ความเข้มข้นของสารเคมีในอากาศสูงขึ้น
ป้องกันอย่างไร ?
- เลือกสเปรย์กันแดดที่อ่อนโยน: เลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่าเป็นสูตรสำหรับผิวแพ้ง่าย หรือปราศจากสารเคมีที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
- ฉีดสเปรย์ในที่โล่งแจ้ง: เลือกฉีดสเปรย์กันแดดในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก และหลีกเลี่ยงการฉีดใกล้ใบหน้า
- ใช้ครีมกันแดดแทน: หากกังวลเรื่องการสูดดมสารเคมี อาจเลือกใช้ครีมกันแดดแทน ซึ่งมีความเสี่ยงน้อยกว่า
- ปรึกษาแพทย์: หากมีอาการแพ้หรือมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้สเปรย์กันแดด
การเกิดปอดอักเสบจากการใช้สเปรย์กันแดดจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้นการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม และใช้สเปรย์อย่างระมัดระวัง จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้ได้ หากมีอาการผิดปกติหลังจากใช้สเปรย์กันแดด ควรหยุดใช้ทันทีและปรึกษาแพทย์
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ปอดอักเสบในเด็ก อาการป่วยอันตราย สังเกตอย่างไรได้บ้าง ?
ปอดอักเสบ ปอดบวม โรคร้าย อันตรายถึงชีวิต อย่าปล่อยให้เรื้อรัง!
คุณแม่ขอแชร์เพื่อเป็นอุทาหรณ์ ที่ลูกเป็นแบบนี้เพราะสเปรย์กันแดด