การซักผ้าถือเป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องทำกันอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้ก็จะมีทั้งแบบชนิดผงและชนิดน้ำ ซึ่งบทความในวันนี้เราจะมาพูดถึงเกี่ยวกับ วิธีใช้น้ำยาซักผ้า ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการซักผ้ากันค่ะ เพราะเมื่อคุณใช้อย่างถูกต้อง ก็จะช่วยให้การซักผ้าของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นค่ะ รวมถึงวันนี้เราจะมาบอกต่อสิ่งดี ๆ อย่าง วิธีการซักผ้าสี ให้มีสีสันสดใส ใช้งานได้ยาวนานเหมือนใหม่อยู่เสมอ หมดกังวลในเรื่องของปัญหาสีตก หรือสีซีดจางไปได้เลย ถ้าพร้อมแล้ว มาตามไปดูพร้อมกันเลยค่ะ
เผยเคล็ดลับ วิธีใช้น้ำยาซักผ้า อย่างถูกต้อง
ปัจจุบันการเลือกใช้น้ำยาซักผ้าถือเป็นอะไรที่สะดวกสบาย เนื่องจากมันเป็นผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่มาในรูปแบบของของเหลว ไม่ว่าคุณจะใช้งานด้วยการซักเครื่องหรือซักมือ ก็สามารถทำได้ง่ายเพียงแค่เทน้ำยาซักผ้าลงเครื่องซักผ้าหรือภาชนะที่ต้องใช้รองเวลาซักผ้า แต่เพื่อให้ใช้งานน้ำยาซักผ้าให้มีประสิทธิภาพ และคุ้มค่า เราจึงมี วิธีใช้น้ำยาซักผ้า อย่างถูกต้อง มาฝากกันค่ะ โดยจะแบ่งออกเป็น ดังนี้
เลือกน้ำยาซักผ้าให้เหมาะกับประเภทของเสื้อผ้า
- ขั้นตอนแรกในการที่จะใช้น้ำยาซักผ้า คือคุณจะต้องตรวจสอบชนิดน้ำยาซักผ้าของตัวเองก่อนว่ามันเหมาะที่จะนำมาซักผ้าของคุณหรือไม่ เพื่อที่จะได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการซักทำความสะอาดเสื้อผ้าให้ดียิ่งขึ้น เช่น น้ำยาซักผ้าบางชนิดก็สามารถใช้ซักได้กับผ้าทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น ผ้าฝ้าย, ผ้าใยสังเคราะห์, เสื้อผ้าเด็ก หรือผ้ายีน และบางยี่ห้อก็อาจจะเหมาะสำหรับการซักผ้าขาว หรือผ้าสีเท่านั้น เป็นต้น ดังนั้น อย่าลืมแยกประเภทของเสื้อผ้าก่อนทำการซักด้วยนะคะ
รูปแบบวิธีการซักผ้า
- ปัจจุบันได้มีการผลิตจำหน่ายน้ำยาซักผ้าออกมาหลากหลายยี่ห้อมาก ๆ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะวิธีการซักที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งบางยี่ห้อก็สามารถใช้งานได้ทั้งการซักผ้าด้วยเครื่อง และซักด้วยมือ แต่น้ำยาซักบางยี่ห้อก็จะระบุไว้ว่าสำหรับซักเครื่อง หรือซักมือเท่านั้น ดังนั้น เวลานำมาใช้งานอย่าลืมตรวจสอบรายละเอียดวิธีใช้ให้ดี ๆ นะคะ
ปริมาณการใช้น้ำยาซักผ้า
- การใช้ปริมาณน้ำยาซักผ้าให้เหมาะสม ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เพราะบางครั้งหากคุณใช้น้ำยาซักผ้าในปริมาณที่น้อยเกินไปก็อาจจะส่งผลทำให้การทำความสะอาดเสื้อผ้าไม่มีประสิทธิภาพมากเพียงพอ ทำให้เสื้อผ้าไม่ได้สะอาดหมดจด และยังคงมีสิ่งสกปรกหลงเหลือติดอยู่บนเสื้อผ้าได้
- และถ้าหากใช้ในปริมาณที่มากเกิน ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาฟองล้นออกมามากเกินไป ทำให้สิ้นเปลืองน้ำยาซักผ้าโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดก็คือคุณจะต้องอ่านฉลากคำแนะนำที่ระบุไว้บนผลิตภัณฑ์ว่าจะต้องใช้น้ำยาซักผ้าในปริมาณเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม นั่นถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพียงแค่คุณใช้น้ำยาซักผ้าในปริมาณที่ฉลากกำหนด ก็จะช่วยให้คุณซักผ้าได้สะอาดเหมือนใหม่ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นแล้วค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ระวัง!! สารเคมีจากน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มทั่วไป สาเหตุของโรคภูมิแพ้ในเด็ก
เผยทริค วิธีซักผ้าสี ให้ไม่ซีดจาง ให้สีเสื้อดูสดใหม่อยู่เสมอ
- ขั้นตอนแรกนะคะ คุณจะต้องแยกผ้าสีอ่อน สีเข้ม และผ้าขาวออกจากกันก่อน เพื่อที่จะได้หลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาสีตกตามมา
- ขั้นตอนต่อมา กลับด้านผ้าในทุกครั้งก่อนซัก เหตุผลที่ต้องกลับผ้าด้านในของเสื้อผ้า เพราะว่าเป็นการช่วยลดการเสียดสี และป้องกันไม่ให้เนื้อผ้าด้านนอกถูกทำลายทำให้ผ้าเสื่อมลงไป ดังนั้น การกลับผ้าจึงถือเป็นวิธีที่จะช่วยให้เนื้อผ้า และสีของเสื้อยังคงสดใหม่ และไม่เสื่อมสภาพลงค่ะ
- ผสมน้ำส้มสายชู ถือเป็นไอเทมเด็ดที่จะช่วยให้เสื้อผ้าของคุณยังคงสีสันที่สดใสไว้อยู่เสมอ ช่วยทำให้ผ้าสีไม่ซีดจางลง สำหรับคนที่ใช้เครื่องซักผ้า ก็เพียงแค่ทำการผสมน้ำส้มสายชูลงไปในช่องใส่น้ำยาซักผ้า ½ ถ้วงตวง หรือไม่ก็นำผ้าสีไปแช่ในน้ำส้มสายชูก่อน 1 คืน จากนั้นก็นำมาซักปกติ
- ใช้เกลือในการซัก จะช่วยป้องกันไม่ให้สีผ้าตก หรือซีดจางลง เพียงแค่ใส่เกลือ ½ ถ้วยตวง ลงในถังซักผ้าที่มีผ้าอยู่ แต่ถ้าหากใครที่ซักผ้าด้วยมือก็ใช้วิธีการนำเสื้อผ้าไปแช่ในน้ำเกลือ ประมาณ 1-2 ชั่วโมง แล้วทำการซักตามปกติ
- ต่อมาก็จะเป็นในเรื่องของอุณหภูมิน้ำ สำหรับการซักผ้าสีในเรื่องของอุณหภูมิน้ำถือเป็นสิ่งที่จะต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะอุณหภูมิน้ำนั้นจะส่งผลกับสีของเสื้อผ้าเป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากใช้น้ำที่มีความร้อนสูง จะทำให้สีของผ้าซีดจางลง แนะนำให้ใช้น้ำอุณหภูมิปกติ หรือน้ำเย็นแทนจะดีที่สุด เพื่อที่สีของผ้าจะได้คงทนและไม่ซีดจางลงค่ะ
- ซักผ้าแบบถนอมเสื้อผ้า สำหรับใครที่ใช้เครื่องซักผ้าในการซักผ้า แนะนำให้ตั้งค่าเครื่องซักผ้าให้อยู่ในโหมดถนอมเสื้อผ้า เพื่อลดความเสียดสีระหว่างเสื้อผ้ากับถังซัก และยังเป็นการป้องกันไม่ให้ผ้าเกิดความเสียหายอีกด้วย และสำหรับใครที่ซักผ้าด้วยมือ ควรหลีกเลี่ยงการใช้แปรงซักผ้า เพราะอาจจะทำให้ผ้าเกิดความเสียหายได้ วิธีนี้จะช่วยไม่ให้เส้นใยของเนื้อผ้าเกิดความเสียหาย และป้องกันสีของเสื้อผ้าไม่ให้ซีดจางลงค่ะ
- หลีกเลี่ยงการนำผ้าไปตากในที่แดดแรง ๆ เพราะแดดจะทำให้สีของเสื้อผ้าซีดจางลง ดังนั้น หลังการซักผ้าทุกครั้ง แนะนำให้นำเสื้อผ้าไปตากไว้ในที่ร่ม มีลมพัดผ่าน หรือมีอากาศถ่ายเทจะดีที่สุดค่ะ
วิธีทำให้ผ้าแห้งเร็วทันใช้
- นำราวตากผ้ามาวางไว้ตรงจุดที่มีแดดอ่อน ๆ ส่องผ่าน หรือที่ที่มีอากาศถ่ายเท มีลมพัดผ่าน ก็เป็นวิธีที่จะช่วยให้ผ้าแห้งได้เร็วขึ้น แต่วิธีนี้อาจจะใช้ได้เฉพาะกับเสื้อผ้าที่ไม่ได้มีความหนามากจนเกินไป
- วิธีต่อมา จะเป็นวิธีที่อยู่ในขั้นตอนที่ซักผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็นำผ้ามาบิดน้ำออก และสะบัดผ้าเพื่อให้รอยยับหายไป จากนั้นก็นำเสื้อ ไปใส่ในไม้แขวนเสื้อให้เรียบร้อย ก่อนจะยกขึ้นแขวนราวตาก ถ้าหากตากผ้าในปริมาณที่เยอะ แนะนำให้เว้นระยะของไม้แขวนเสื้อให้เท่า ๆ กันนะคะ ไม่ควรตากเบียดกันจนใกล้กันเกินไป เพราะการเว้นระยะจะช่วยทำให้ผ้าของคุณแห้งไวมากยิ่งขึ้น
- ผึ่งผ้าไว้กับพัดลม หรือใช้ไดร์เป่าผม การจะให้ผ้าแห้งแบบรวดเร็ว การใช้พัดลมเป็นตัวช่วย ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยคุณได้ค่ะ เพราะว่าพัดลมนั้นจะช่วยไล่ความชื้นบนเสื้อผ้าออกไปได้เป็นอย่างดี รวมถึงการใช้ไดร์เป่าผม ก็สามารถนำมาใช้เป่าเสื้อผ้าให้แห้งได้ด้วยเช่นเดียวกัน แต่ระวังอย่าจ่อไดร์ที่จุดใดจุดหนึ่งนานเกินไป เพราะอาจจะทำให้ผ้าร้อนจนไหม้ได้
- ใช้เครื่องอบผ้า ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้เสื้อผ้าแห้งเร็วได้ทันใจ เพราะเครื่องอบผ้านั้นสามารถปรับอุณหภูมิการอบแห้งได้ตามความต้องการ แถมยังไม่ต้องมาคอยกังวลในเรื่องของกลิ่นอับอีกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : วิธีตากผ้าหน้าฝน ไม่ให้เหม็นอับ เคล็ดลับที่คุณควรรู้!
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับวิธีการใช้น้ำยาซักผ้า และวิธีซักผ้าสี ให้ไม่ซีดจางลง ที่เรานำมาฝากกัน เรียกได้ว่าเป็นทริคง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถนำไปทำตามกันได้นะคะ เสื้อผ้าถือเป็นสิ่งที่เมื่อถูกใช้งานไปนาน ๆ ก็อาจจะเสื่อมสภาพตามกาลเวลาได้ แต่ถ้าหากคุณทำการดูแล ซักทำความสะอาดอย่างถูกวิธี ก็จะเป็นการยืดระยะเวลาให้เสื้อผ้านั้นดูเหมือนใหม่อยู่เสมอได้ค่ะ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้สำหรับทุกคนนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
8 วิธี ล้างเครื่องซักผ้า ด้วยตัวเองง่าย ๆ ให้ไร้คราบสกปรกกวนใจ ป้องกันกลิ่นอับ!
แนะนำสูตร ซักผ้าขาว เปลี่ยนผ้าหมองให้กลับมาขาวสะอาดเหมือนใหม่!
11 วิธีซักผ้าให้หอม กลิ่นติดทนนาน ตลอดทั้งวัน เคล็ด(ไม่)ลับของคุณแม่ยุคใหม่
ที่มา : cleanipedia, promotions, mover.in