“ชาเขียว” เป็นอีกหนึ่งสารสกัดจากธรรมชาติที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการนำมาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์สกินแคร์บำรุงผิว อาทิ เช่น เซรั่มชาเขียว น้ำตบชาเขียว ครีมบำรุงผิวชาเขียว โฟมล้างหน้าชาเขียว มาสก์หน้าชาเขียว และอีกมากมาย เพราะเป็นสารสกัดที่จะช่วยบำรุงฟื้นฟูผิวหน้าจากปัญหาสิว รอยแดง ช่วยปลอบประโลมผิวให้แข็งแรง แต่.. หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าควรเลือกอย่างไร วันนี้ TAP จึงมีเทคนิคดี ๆ วิธีเลือกสกินแคร์ชาเขียว มาบอกต่อว่าควรเลือกอย่างไรดี !?
ทำความรู้จักกับสารสกัดที่อยู่ในใบชาเขียว
เชื่อว่าหลาย ๆ คน น่าจะคุ้นเคยกับชาเขียวที่เป็นเครื่องดื่มกันดีอยู่แล้ว เพราะชาเขียวถือว่าเป็นเมนูเครื่องดื่มยอดฮิตเป็นที่ถูกใจในรสชาติของใครหลาย ๆ คน แต่ถ้าพูดถึง ‘ชาเขียว’ ที่เป็นส่วนผสมในสกินแคร์หลานคนก็อาจจะยังไม่ทราบว่าใบชาเขียวนั้นประกอบไปด้วยสารสกัดที่มีคุณประโยชน์ต่อผิวพรรณอยู่หลายชนิดมาก อาทิ เช่น
- กรดอะมิโน
- วิตามิน B
- คาเฟอีน (Caffeine) ซึ่งเป็นสารในกลุ่มแซนทีนอัลคาลอยด์ (Xanthine Alkaloids)
- วิตามิน C
- แคททีชิน (Catechins) เป็นสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ (Flavonoids)
- วิตามิน E
ซึ่งสารสกัดเหล่านี้จะมีฤทธิ์ที่ช่วยในเรื่องของการต่อต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยในการบำรุงผิวหน้าให้มีความแข็งแรง อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูสภาพผิวหน้าจากปัญหาสิวรวมถึงปัญหาผิวต่าง ๆ ให้ค่อย ๆ กลับมามีสภาพปกติ พร้อมปลอบประโลมผิวจากอาการแพ้ และ ผิวที่มีความบอบบางแพ้ง่ายนั่นเองค่ะ
เทคนิค วิธีเลือกสกินแคร์ชาเขียว by TAP
1. วิธีเลือกสกินแคร์ชาเขียว : จากส่วนผสมในผลิตภัณฑ์
ผลิตภัณฑ์สกินแคร์บำรุงจากชาเขียวในท้องตลาดก็มีให้เลือกซื้อมากมายหลายประเภท ซึ่งแต่ละผลิตภัณฑ์ก็จะมีจุดเด่นของแต่ละไอเทมที่แตกต่างกันออกไปทั้งในเรื่องของประเภทผลิตภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็นน้ำตบ เซรั่ม ครีมบำรุง โฟมล้างหน้า หรือ มาสก์บำรุงผิว รวมถึงขนาดของผลิตภัณฑ์ ปริมาณสุทธิของแต่ละสินค้า และอีกหนึ่งจุดขายที่หลากหลายแบรนด์ต่างงัดออกมาสู้กันนั่นก็คือเรื่องของ ‘ส่วนผสม’ ซึ่งนอกจากส่วนผสมจากสารสกัดหลักอย่าง ‘ชาเขียว’ หลาย ๆ แบรนด์ก็มักจะนำสารสกัดอื่น ๆ ที่ดีต่อผิวพรรณมาผสมผสานเพื่อเพิ่มคุณภาพให้กับสินค้าแต่ละชิ้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีวิธีเลือกดังต่อไปนี้
-
ส่วนผสมจากชาเขียว + Niacinamide
สำหรับ Niacinamide ถือว่าเป็นส่วนผสมสารสกัดที่ในปัจจุบันได้รับความนิยมนำมาเป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์สกินแคร์เป็นอย่างมาก เพราะ Niacinamide จะมีสรรพคุณในเรื่องของการบำรุงผิวหน้าให้มีความเรียบเนียน ปรับสีผิวให้มีความสม่ำเสมอ ลดรอยแดง รอยดำ รอยแดง ลดโอกาสการสิวใหม่ เรียกได้ว่าเป็นส่วนผสมที่สรรพคุณครอบจักรวาลมาก ๆ และยังมีความอ่อนโยนสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว ดังนั้น สกินแคร์ชาเขียวที่มีส่วนผสมของ Niacinamide ร่วมด้วยจะยิ่งช่วยฟื้นฟูผิวได้ดีมากยิ่งขึ้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : 7 เซรั่ม Niacinamide เผยหน้าใส ห่างไกลสิว ผิวเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ !
-
ส่วนผสมจากชาเขียว + Glycerin
กลีเซอรีน (Glycerin) เป็นส่วนผสมที่ได้มาจากสัตว์ พืช หรือ ไขมันปิโตรเลียม ซึ่งคุณสมบัติของกลีเซอรีน (Glycerin) จะช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำในผิว เพื่อให้ผิวหน้ามีความชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา เพราะความชุ่มชื้นจะช่วยทำให้ผิวมีความสมดุลไม่มัน หรือ แห้งจนเกินไป อีกทั้งกลีเซอรีน (Glycerin) ยังสามารถช่วยปลอบประโลมผิว ลดอาการระคายเคืองของผิวหน้าจากอาการแพ้ต่าง ๆ อีกด้วยค่ะ
-
ส่วนผสมจากชาเขียว + Ceramide
เซราไมด์ (Ceramide) แท้จริงแล้วเป็นสารสกัดที่อยู่แล้วตามธรรมชาติของผิว ซึ่งเซราไมด์จะเป็นชั้นไขมัน หรือ ไขมันตามธรรมชาติของร่างกายแต่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น รวมถึงปัจจัยต่าง ๆ ทำให้เซราไมด์ตามปกติของร่างกายเสื่อมสภาพประสิทธิภาพลดน้อยลง ดังนั้นการใช้เซราไมด์ (Ceramide) ที่มาจากธรรมชาติในผลิตภัณฑ์สกินแคร์จะสามารถช่วยเติมเต็มเซราไมด์ตามธรรมชาติของผิวได้นั่นเองค่ะ และสรรพคุณของเซราไมด์ (Ceramide) คือจะช่วยปลอบประโลมผิวหน้าให้มีความแข็งแรง ช่วยลดอาการแพ้ แสบ แดง คัน รวมถึงอาการผิวหน้าแพ้ อาการผิวหน้าเห่อได้ดีมาก ๆ ช่วยรักษา และ คงความชุ่มชื้นของผิวหน้า เพื่อรักษาสมดุลของผิว อีกทั้งยังช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระจากมลภาวะ ฝุ่น ควัน ที่เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำร้ายผิวหน้าให้แก่ก่อนวัยอีกด้วยค่ะ
2. วิธีเลือกสกินแคร์ชาเขียว : จากสภาพผิว
การเลือกซื้อ หรือ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทใด รูปแบบไหน ปัจจัยในการเลือกใช้ที่ต้องให้ความสำคัญ คือการเลือกให้เหมาะ และ ตรงกับสภาพผิวหน้าของตนเอง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยฟื้นฟูบำรุงผิวได้อย่างเต็มที่ และรวมถึงจะช่วยลดปัญหาผิวอุดตัน หรือ อาการแพ้สกินแคร์ เพราะเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวได้อีกด้วยค่ะ
TIPS by TAP :
- สำหรับคนที่มีสภาพผิวมัน : ควรเลือกสกินแคร์ชาเขียวประเภท เซรั่ม น้ำตบ หรือ ครีมเนื้อเจล เพราะผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อในลักษณะนี้จะสามารถซึมเข้าสู่ผิวหน้าได้อย่างรวดเร็ว ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะไว้ที่ผิวหน้า และไม่ทำให้ผิวหน้าเกิดปัญหาการอุดตันจากเนื้อผลิตภัณฑ์ที่หนัก หรือ มีความเข้มข้นมากจนเกินไป
- สำหรับคนที่มีสภาพผิวแห้ง : แนะนำให้เลือกใช้สกินแคร์ชาเขียวประเภทครีมที่มีเนื้อเข้มข้น หรือ สามารถใช้สกินแคร์ประเภทเซรั่ม หรือ น้ำตบที่มีเนื้อบางเบา แต่ใช้ร่วมกันเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว โดยคนที่มีสภาพผิวแห้งอยากแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวเป็นหลัก โดยดูจากส่วนผสมหลังขวด หรือ หลังกล่อง ซึ่งส่วนผสมหลัก ๆ ที่สามารถช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว อาทิ เช่น ไฮยาลูรอน, Niacinamide เป็นต้น
- สำหรับคนที่มีสภาพผิวบอบบางแพ้ง่าย : ควรหลีกเลี่ยงสกินแคร์ชาเขียวที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม เพราะว่าจะสามารถกระตุ้นผิวหน้าให้เกิดอาการแพ้ได้ ควรเลือกใช้สกินแคร์ที่มีความอ่อนโยนโดยส่วนผสมเน้นที่มาจากธรรมชาติ สามารถใช้ได้ทั้งน้ำตบ เซรั่ม ครีมที่มีเนื้อบางเบา และก่อนใช้ควรทดสอบอาการแพ้โดยการทาผลิตภัณฑ์นั้น ๆ บริเวณหลังหู ท้องแขน เพื่อทดสอบว่ามีอาการผื่น แดง คัน หรือ แพ้หรือไม่นั่นเองค่ะ ถ้าไม่มีอาการก็สามารถใช้กับผิวหน้าได้เลย
เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับวิธีเลือกสกินแคร์ชาเขียว ที่ TAP ได้นำมาฝาก ! บอกเลยว่าเป็นวิธีการเลือกที่ง่ายมาก ๆ และยังสามารถช่วยให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสมกับความต้องการ และ เหมาะสมกับผิวของตัวเองได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นสำหรับใครที่กำลังอยากลองใช้สกินแคร์ชาเขียวลองเอาวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้ในการเลือกซื้อไอเทมต่าง ๆ ได้เลยค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
แนะนำ 10 สกินแคร์เมือกหอยทาก กู้ผิวโทรม บำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้น ลดสิว ผิวเต่งตึง
10 เซรั่ม Tea Tree ยี่ห้อไหนดี ช่วยลดสิว ปลอบประโลมผิว ฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง
แนะนำ 10 ผลิตภัณฑ์ Dr.Pong แบรนด์สุดปัง ! ของดี รีวิวแน่น รับประกันความเลิศ
ที่มา : vogue