ดวงตาเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่จะช่วยเปลี่ยนลุคการแต่งหน้าให้ดูสวยโดดเด่นน่าสนใจ ! แต่สิ่งสำคัญไปกว่าการที่จะแต่งตาออกมาให้สวยเป๊ะ นั่นก็คือการล้างทำความสะอาดที่ดี เพราะว่าถ้าหากล้างทำความสะอาดดวงตาไม่ดี.. ปัญหาที่จะเกิดตามมามีเยอะมาก ๆ ทั้งอาการระคายเคือง ตาแดง แสบตา หรือรุนแรงถึงขั้นเป็นตากุ้งยิง เพราะฉะนั้นมาดูเคล็ดลับ อายรีมูฟเวอร์ เลือกยังไง ถึงจะทำความสะอาดเมคอัพรอบดวงตาได้เกลี้ยงโดยที่ไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคือง ตาไม่เหี่ยวย่น ไร้ตีนกา !
อายรีมูฟเวอร์ คืออะไร ?
อายรีมูฟเวอร์ (Eye Remover) คือผลิตภัณฑ์สำหรับเช็ด – ล้างเครื่องสำอางรอบดวงตาโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีทั้งรูปแบบน้ำ (Water) และรูปแบบน้ำมัน (Oil in Water) เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในโอกาสต่าง ๆ อาทิ เช่น วันที่แต่งตาเบา ๆ คลีน ๆ สบาย ๆ ไม่ได้แต่งตาหนักมากสามารถใช้อายรีมูฟเวอร์ในรูปแบบน้ำ (Water) เช็ด – ล้างทำความสะอาดดวงตาก็เพียงพอต่อความต้องการแล้วค่ะ แต่ถ้าวันไหนที่แต่งตาหนัก ๆ แต่งตาเข้ม หรือใช้อายเมคอัพที่เป็นสูตรกันน้ำ (Waterproof) แนะนำให้ใช้อายรีมูฟเวอร์แบบน้ำมัน (Oil in Water) จะช่วยให้ล้างทำความสะอาดเครื่องสำอางรอบดวงตาได้สะอาดและหมดจดมากกว่า
ข้อดีของการใช้อายรีมูฟเวอร์
- สามารถใช้เช็ด – ล้างเครื่องสำอางได้ทั้งดวงตา และริมฝีปาก
- มีความอ่อนโยนกว่าผลิตภัณฑ์ล้างทำความสะอาดเครื่องสำอางที่ผิวหน้า เพราะทำมาเพื่อใช้กับดวงตาโดยเฉพาะ
- ช่วยลดแรงเสียดสีระหว่างสำลีกับผิวหนัง
- ลดการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น รอยตีนกา และรอยหมองคล้ำจากการเช็ดทำความสะอาด
- มีสารบำรุงที่ช่วยมอบความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังหลังเช็ดเสร็จ
คลายข้อสงสัย อายรีมูฟเวอร์ เลือกยังไง by TAP
1. อายรีมูฟเวอร์ เลือกยังไง : เลือกจากสภาพผิว
ผิวหนังรอบดวงตาและริมฝีปากเป็นผิวหนังที่มีความบอบบางมาก ๆ เป็นส่วนที่สามารถเกิดอาการระคายเคืองได้ง่ายกว่าผิวหนังส่วนอื่น ๆ บนใบหน้า เพราะฉะนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อายรีมูฟเวอร์ก็อยากแนะนำให้สาว ๆ เลือกซื้อจากสภาพผิวเป็นหลัก เพราะถึงแม้ว่าชื่อจะบอกว่าเป็น Eye & Lip Remover แต่ก็ยังสามารถนำมาเช็ด – ล้างเครื่องสำอางที่ผิวหน้าได้เช่นเดียวกัน โดยแนะนำให้เลือกตามนี้ได้เลยค่ะ
- ผิวผสม – ผิวมัน : เป็นสภาพผิวที่สามารถใช้อายรีมูฟเวอร์ได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นแบบน้ำ (Water) หรือแบบน้ำมัน (Oil in Water) เพียงแค่ต้องเช็ด – ล้างทำความสะอาดให้สะอาดหมดจดเท่านั้นก็เพียงพอแล้วค่ะ
- ผิวแห้ง : สำหรับสาว ๆ ที่มีสภาพผิวแห้งแนะนำให้เลือกอายรีมูฟเวอร์ที่ปราศจากส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะว่าจะยิ่งทำให้ผิวแห้งมากกว่าเดิมจนอาจเกิดอาการระคายเคืองได้ หรือแนะนำให้เลือกอายรีมูฟเวอร์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยมอบความชุ่มชื้น อาทิ เช่น ไฮยาลูรอน เป็นต้น
- ผิวบอบบาง – แพ้ง่าย : แนะนำให้เลือกอายรีมูฟเวอร์ที่ปราศจากสารที่สามารถก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง อาทิ เช่น น้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน สีสังเคราะห์ เพราะส่วนผสมเหล่านี้สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวได้ง่าย ไม่ว่าจะผิวที่ดวงตา ริมฝีปาก หรือผิวหน้า
2. อายรีมูฟเวอร์เลือกยังไง : เลือกจากส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น
อย่างที่ทราบกันดีว่าการเช็ด – ล้างเครื่องสำอางด้วยการใช้สำลีเช็ดผิวจะสามารถทำให้เกิดปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าได้ โดยเฉพาะถ้าเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางที่ดวงตาก็จะทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่นที่ดวงตา หรือรอยตีนกาได้ง่ายมาก ๆ เพราะฉะนั้นการเลือกใช้อายรีมูฟเวอร์ที่มีส่วนผสมที่เป็นสารบำรุงในการช่วยมอบความชุ่มชื้นให้กับดวงตาจะช่วยลดปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ดี และยังช่วยลดแรงตึงผิวทำให้ผิวรอบดวงตาไม่แห้งตึงหลังจากเช็ด – ล้างเครื่องสำอางเสร็จ เพราะสภาพผิวที่แห้งหลังจากที่เช็ดเครื่องสำอางรอบดวงตาจะทำให้ผิวตึงจนเกิดริ้วรอยเล็ก ๆ ได้นั่นเองค่ะ
3. อายรีมูฟเวอร์ เลือกยังไง : เลือกสูตรที่มีความอ่อนโยน ไม่แสบตา
สาว ๆ หลายคนน่าจะเคยเจอปัญหาใช้อายรีมูฟเวอร์พอเข้าตาแล้วแสบเหมือนใช้พริกล้างตา ! แต่เดี๋ยวนี้หลาย ๆ แบรนด์ก็มีการพัฒนาปรับปรุงสูตรอายรีมูฟเวอร์ให้มีความอ่อนโยนมากขึ้น เพื่อป้องกันในกรณีที่อายรีมูฟเวอร์ไหลเข้าดวงตาจะได้ไม่รู้สึกแสบ หรือมีอาการระคายเคือง ซึ่งสาว ๆ สามารถสังเกตได้จากบนผลิตภัณฑ์ถ้าเป็นสูตรที่เขียนว่าอ่อนโยนต่อดวงตา หรือเข้าตาแล้วไม่แสบ ก็จะช่วยการันตีได้ว่าถ้าเข้าตาแล้วไม่แสบแน่นอน
4. อายรีมูฟเวอร์ เลือกยังไง : ต้องล้างทำความสะอาดได้เกลี้ยง
อีกหนึ่งเคล็ดลับดี ๆ ในการเลือกซื้ออายรีมูฟเวอร์ที่อยากแนะนำสาว ๆ ก็คือแนะนำให้เลือกซื้ออายรีมูฟเวอร์ที่ล้างทำความสะอาดได้เกลี้ยง โดยส่วนมากอายรีมูฟเวอร์สูตรที่สามารถล้างเครื่องสำอางกันน้ำ (Waterproof) จะล้างเครื่องสำอางได้สะอาดหมดจด เพราะแม้กระทั่งเครื่องสำอางกันน้ำยังสามารถล้างออกได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเครื่องสำอางประเภทไหนก็ล้างออกได้เกลี้ยงอย่างแน่นอน !
TIPS by TAP : ดังนั้นถ้าสาว ๆ คนไหนที่อยากได้ความคุ้มค่าในการใช้งาน แนะนำให้เลือกอายรีมูฟเวอร์ที่สามารถล้างเครื่องสำอางกันน้ำได้
5. อายรีมูฟเวอร์เลือกยังไง : เลือกที่มีสารสกัดช่วยบำรุงผิวหนังและขนตา
สำหรับการเลือกอายรีมูฟเวอร์วิธีสุดท้าย ! สำหรับสาว ๆ คนไหนที่อยากได้ความเป็น 2in1 คือได้ทั้งทำความสะอาดผิวรอบดวงตาและริมฝีปาก พร้อมกับบำรุงไปพร้อมกัน แนะนำให้เลือกอายรีมูฟเวอร์ที่มีสารสกัดที่สามารถช่วยบำรุงผิวหนังรอบดวงตาและขนตา ซึ่งจะสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ ด้านหลังของผลิตภัณฑ์ถ้าผลิตภัณฑ์ชิ้นไหนมีคำอธิบายถึงสารบำรุงอย่างชัดเจนก็สามารถเลือกซื้อ เพื่อให้ได้รับความคุ้มค่าและตรงต่อความต้องการได้เลยค่ะ
คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ อายรีมูฟเวอร์
QUESTION : ถ้าใช้อายรีมูฟเวอร์แล้วรู้สึกว่าไม่สะอาดควรทำอย่างไรดี ?
ANSWER : สำหรับการใช้อายรีมูฟเวอร์เช็ด – ล้างทำความสะอาดอายเมคอัพแนะนำให้เทอายรีมูฟเวอร์ให้ชุ่มสำลี แปะทิ้งไว้ประมาณ 30 วินาที – 1 นาที เพื่อให้อายรีมูฟเวอร์เข้าไปละลายเครื่องสำอาง หลังจากนั้นให้เช็ดออกเบา ๆ ในทิศทางการถูลง ไม่แนะนำให้ถูวนหรือขยี้ ทำแบบนี้ซ้ำประมาณ 3 ครั้งก็จะทำให้เครื่องสำอางรอบดวงตาหลุดออกจนรู้สึกสะอาดแล้วค่ะ หลังจากนั้นก็ให้ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้า หรือ Cleansing อื่น ๆ ตามปกติ ซึ่งจะช่วยทำให้ผิวหน้า ดวงตา และริมฝีปากรู้สึกสะอาดหมดจด
บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 โฟมล้างเครื่องสำอาง ลบเมคอัพเกลี้ยง ล้างหน้าสะอาดหมดจดในขั้นตอนเดียว !
และทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีเลือกอายรีมูฟเวอร์ที่ theAsianparent ได้นำมาฝาก ! บอกเลยว่าถ้าเลือกอายรีมูฟเวอร์ตามวิธีเหล่านี้จะช่วยให้ล้างอายเมคอัพได้อย่างสะอาดหมดจด แถมยังไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหนังรอบดวงตา และริมฝีปาก อีกทั้งยังช่วยลดการเกิดริ้วรอยตีนกาได้อีกด้วย
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
10 อายแชโดว์ ยี่ห้อไหนดี สีสวย ติดทน เม็ดสีชัด เพิ่มความโดดเด่นให้ดวงตา
บอกต่อ 10 อายแชโดว์แบบแท่ง แต่งตาง่าย ปาดปุ๊บ สวยปั๊บ เพิ่มสีสันให้กับดวงตา
10 อายครีม สำหรับวัย 30 ช่วยต้านริ้วรอย ลดรอยคล้ำ ไม่เหนอะหนะ !
ที่มา : wongnai