แนะนำ วิธีเลือกพาเลตต์บลัชออน ให้ได้แก้มที่สวยละมุนปัดแล้วสวยปัง !

การปัดแก้ม หรือ ปัดบลัชออน ถือเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญของการแต่งหน้าเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะว่าการปัดแก้มจะช่วยทำให้ใบหน้ามีสีสันที่ดูสดใสทำให้ใบหน้าไม่ซีด ไม่โทรม ช่วยให้ลุคการแต่งหน้าคอมพลีตมากยิ่งขึ้น ซึ่งไอเทมที่จะช่วยแต่งแต้มสีสันให้กับพวงแก้มก็คือ “บลัชออน” แต่ว่าสำหรับใครที่ชอบความคุ้มค่า หรือ เป็นคนที่เบื่อง่ายอยากเปลี่ยนลุคให้ไม่ซ้ำในแต่ละวันการเลือกซื้อบลัชออนในรูปแบบพาเลตต์จึงตอบโจทย์มากกว่า เพราะฉะนั้นวันนี้ TAP จึงมี วิธีเลือกพาเลตต์บลัชออน มาบอกต่อ ! ว่าควรเลือกยังไงให้ได้พาเลตต์บลัชออนที่สวยถูกใจปัดแล้วแก้มสวย สดใส มีความละมุนทั้งวัน

พาเลตต์บลัชออน VS บลัชออน ต่างกันอย่างไร ?

หลาย ๆ คนที่แต่งหน้าเป็นประจำอยู่แล้วจะต้องคุ้นเคยกับบลัชออน หรือ ที่ปัดแก้มแบบตลับกันดีอยู่แล้วแน่นอน ! แต่ว่าก็ยังมีบลัชออนอีกหนึ่งรูปแบบที่มีความคุ้มค่า และ มีความหลากหลายมากกว่านั้นนั่นก็คือ พาเลตต์บลัชออน สำหรับใครที่ชอบความสะดวก พกพาง่าย ชอบแต่งหน้าในลุคเดิม ๆ ไม่ชอบเปลี่ยนสไตล์การแต่งหน้าการเลือกใช้เพียงแค่บลัชออนก็สามารถตอบโจทย์ได้แล้วค่ะ แต่สำหรับคนที่ชอบแต่งหน้าหลาย ๆ ลุค สนุกกับการแต่งแต้มสีสันให้กับพวงแก้ม ชอบเปลี่ยนสไตล์การแต่งหน้าให้ไม่ซ้ำกัน การเลือกใช้พาเลตต์บลัชออนจึงมีความตอบโจทย์มากกว่า เพราะว่าในพาเลตต์จะมีสีบลัชออนให้หลากหลายสีให้เลือกใช้สามารถสลับปัดแก้มให้ได้ลุคที่ไม่ซ้ำกันได้นั่นเองค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 บลัชออนเนื้อครีม ราคาหลักสิบ-ร้อย ใช้แล้วดี เพื่อสีแก้มสวยเหมือนฝัน !!

แนะนำ วิธีเลือกพาเลตต์บลัชออน by TAP

1. วิธีเลือกพาเลตต์ บลัชออน : จาก Finish Look ที่ต้องการ

พาเลตต์บลัชออน (Blush on Palette) ก็เหมือนกับบลัชออนแบบตลับเดี่ยว (Single Blush on) ซึ่งจะมีเนื้อผลิตภัณฑ์ทั้งแบบบลัชออนเนื้อแมตต์ บลัชออนเนื้อชิมเมอร์ รวมถึงบลัชออนเนื้อครีม โดยที่บลัชออนแต่ละรูปแบบก็จะให้ Finish Look หรือ ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน อาทิ เช่น

• พาเลตต์บลัชออนเนื้อแมตต์ : จะให้ผลลัพธ์งานผิวที่มีความแมตต์สนิท ติดทน ทำให้ผิวไม่ฉ่ำวาว
• พาเลตต์บลัชออนเนื้อชิมเมอร์ : จะช่วยทำให้พวงแก้มมีความฉ่ำโกลว์ปัดแล้วช่วยให้แก้มดูมีสุขภาพดีมีความฉ่ำน้ำ
• พาเลตต์บลัชออนเนื้อครีม : สำหรับบลัชออนแบบเนื้อครีมจะมีจุดเด่นในเรื่องของประสิทธิภาพความติดทนนานสามารถทาเป็นพื้นก่อนที่จะปัดบลัชออนแบบเนื้อฝุ่นไม่ว่าจะเป็นเนื้อแมตต์ หรือ เนื้อชิมเมอร์ก็ได้ จะช่วยให้สีของบลัชออนติดทนนานมากยิ่งขึ้น

แต่ปัจจุบันนี้พาเลตต์บลัชออนส่วนใหญ่ก็มักจะรวมเนื้อผลิตภัณฑ์ทั้งบลัชออนเนื้อแมตต์ และ เนื้อชิมเมอร์ไว้ในพาเลตต์เดียวกัน เพื่อให้ครอบคลุม และ ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับทุกความต้องการ

2. วิธีเลือกพาเลตต์บลัชออน : ให้เหมาะกับสีผิว

การเลือกสีของบลัชออนก็มีส่วนทำให้ใบหน้าดูผ่องมีออร่า มีความสดใส และในทางกลับกันก็สามารถทำให้ใบหน้าดูหมองคล้ำได้เช่นเดียวกันถ้าหากเลือกสีบลัชออนไม่เหมาะกับสีผิว ซึ่งพาเลตต์บลัชออนก็มีทั้งแบบโทนสีเดียวกันทั้งพาเลตต์ อาทิ เช่น โทนสีชมพูล้วน โทนสีส้มล้วน หรือพาเลตต์บลัชออนที่มีการรวมหลากหลายเฉดสีไว้ในตลับเดียว ซึ่งถ้าหากเป็นพาเลตต์บลัชออนแบบรวมสีก็มีข้อดีตรงที่มีความหลากหลายสามารถลองปัดแก้มได้หลายสีมากขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงก็คือการเลือกสีบลัชออนให้เหมาะกับสีผิวนั่นเองค่ะ

• สาว ๆ ที่มีผิวขาวเหลือง : แนะนำให้เลือกใช้บลัชออนในโทนสี Coral (โครัล), สีส้ม, ชมพูแซลมอน, ชมพูอิฐ หรือ สีชมพูอมน้ำตาล และ สีพีช เพราะสีในโทนนี้จะช่วยทำให้ผิวหน้าดูมีความผ่องผิวดูเปล่งปลั่งกระจ่างใสไม่หมองคล้ำ ปัดแล้วแก้มจะมีสีที่ดูเป็นธรรมชาติ

• สำหรับคนที่มีผิวขาว – ขาวอมชมพู : จะเหมาะกับสีบลัชออนในโทนสีชมพูสว่างทั้งหมด อาทิ เช่น ชมพูกุหลาบ, ชมพูบานเย็น, ชมพูนมเย็น, ชมพูพาสเทล รวมถึงบลัชออนสีม่วงก็จะช่วยทำให้ใบหน้ายิ่งดูมีออร่าปัดแล้วแก้มจะยิ่งมีความสดใสเปล่งปลั่ง อีกทั้งยังสามารถใช้บลัชออนโทนสีแดงได้เช่นกัน แต่สีที่ควรหลีกเลี่ยงคือบลัชออนโทนสีส้มอมเหลือง หรือ บลัชออนในเฉดสีเหลือง เพราะจะทำให้หน้าดูซีดได้นั่นเองค่ะ

• สาว ๆ ที่มีผิวสองสี : และสำหรับสาว ๆ ที่มีผิวเข้มสีบลัชออนที่มีความเหมาะสม คือสีชมพูกะปิ, ชมพูพีช, ชมพูอมม่วง รวมถึงชมพูกลีบบัว หรือถ้าเป็นโทนสีส้มที่มีความเหมาะสม อาทิ เช่น สีส้มอิฐ, น้ำตาลอมแดง และ น้ำตาลอมส้มจะช่วยพวงแก้มดูมีสีที่เป็นธรรมชาติปัดแล้วไม่โป๊ะแน่นอนค่ะ

TIPS by TAP : สำหรับสาว ๆ ที่ผิวเข้มไม่ควรเลือกใช้บลัชออนที่มีสีอ่อนจนเกินไป เพราะจะทำให้ผิวดูซีด หน้าดูเป็นด่างได้ค่ะ และไม่ควรใช้สีบลัชออนที่เข้มจนเกินไปเช่นกัน เพราะจะดูไม่เป็นธรรมชาติ

3. วิธีเลือกพาเลตต์บลัชออน : ที่มีคุณสมบัติแน่น ทนนาน

และสำหรับ วิธีเลือกพาเลตต์บลัชออน ข้อสุดท้ายที่อยากแนะนำก็คือการเลือกซื้อพาเลตต์บลัชออนที่มีประสิทธิภาพในเรื่องของความติดทนนาน เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอากาศประเทศไทยมีผลต่อความติดทนของเครื่องสำอางเป็นอย่างมากทั้งแดด อากาศ เหงื่อ ล้วนทำให้เมคอัพไหลเยิ้มติดไม่ทน เพราะฉะนั้นควรเลือกพาเลตต์บลัชออนที่มีคุณภาพ มีความติดทนนาน เพื่อให้สีของบลัชออนอยู่ติดทนตั้งแต่เช้าจรดเย็น

ข้อดีของพาเลตต์บลัชออน

• สามารถเปลี่ยนลุคในการแต่งหน้าได้หลากหลายมากขึ้น
• มีความคุ้มค่า คุ้มราคามากกว่าการซื้อบลัชออนแยกทีละตลับ
• เนื้อบลัชออน สี รวมถึงพิกเมนต์มีความหลากหลายในตลับเดียว อาทิ เช่น เนื้อแมตต์ เนื้อชิมเมอร์ มีหลายโทนสี
• เป็น 2in1 สามารถใช้ได้ทั้งปัดแก้มและแต่งตา
• ช่วยให้พวงแก้มมีสีสันที่สดใส สามารถผสมสีบลัชออนเองได้ทำให้มีสีแก้มที่ไม่เหมือนใคร

และทั้งหมดนี้ก็เป็น วิธีเลือกพาเลตต์บลัชออน ที่ TAP ได้นำมาฝากหวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับสาว ๆ ที่ชื่นชอบการปัดแก้มชอบแต่งแต้มสีสันให้กับใบหน้า เพราะหลัก ๆ แล้วการเลือกบลัชออนพาเลตต์ควรเลือกใช้บลัชออนที่ตรงกับสีผิวรวมถึง Finish Look ที่อยากได้นั่นเองค่ะ เพราะถ้ายิ่งเลือกใช้ได้เหมาะสมก็จะยิ่งทำให้เมคอัพของสาว ๆ ดูสวยอย่างมืออาชีพมากยิ่งขึ้น

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ชี้เป้า ! 10 บลัชออนโทนชมพู ราคาหลักสิบถึงหลักร้อย ปัดแล้วแก้มใสแบ๊วเว่อร์

แนะนำ 10 บลัชออนโทนส้ม ถูกและดี ปัดแล้วผิวสวยบ่มแดด แก้มสดใส

10 คอนทัวร์หน้า ยี่ห้อไหนดี ? เพิ่มมิติ ปรับรูปหน้าให้เรียวสวยได้รูป ถูกและดี

ที่มา : trueid