วิธีเลือกหมอนข้างเด็ก หมอนคู่ใจข้างกายของลูกน้อย ควรเลือกยังไงดี ?

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ลูก ๆ บ้านไหนติดหมอนข้างเหมือนกันบ้างคะ ? เชื่อเลยว่าคุณพ่อ – คุณแม่ที่มีลูกน้อยหลาย ๆ คนน่าจะมีลูกน้อยที่ติดหมอนข้างอย่างแน่นอน ! เพราะหมอนข้างก็เปรียบเสมือนเพื่อนซี้คู่ใจที่อยู่ข้างกายของลูกน้อยในขณะที่กำลังนอนหลับ ซึ่งจะช่วยให้เจ้าตัวน้อยรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย แต่คุณพ่อ – คุณแม่น่าจะยังไม่ทราบว่า วิธีเลือกหมอนข้างเด็ก ที่ดีควรเลือกยังไง เพื่อให้มีความเหมาะสมกับลูกน้อย ซึ่งวันนี้ theAsianparent มีคำแนะนำดี ๆ มาฝากค่ะ

 

แนะนำ วิธีเลือกหมอนข้างเด็ก by TAP

 

 

สำหรับคุณพ่อ – คุณแม่ที่กำลังอยากซื้อหมอนข้างให้กับลูกน้อยมาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าวิธีการเลือกหมอนข้างที่ดีและเหมาะสมกับลูกน้อยมีปัจจัยใดบ้างในการเลือกซื้อ เพื่อให้ตอบโจทย์ และมีประสิทธิภาพเหมาะกับลูกน้อยแสนรัก

 

1. วิธีเลือกหมอนข้างเด็ก

เลือกจากขนาด เนื้อสัมผัส และสีสัน

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

สำหรับวิธีการเลือกหมอนข้างเด็กวิธีแรกที่อยากให้คุณพ่อ – คุณแม่คำนึงถึงนั่นก็คือ ควรเลือกหมอนข้างจากขนาด เนื้อสัมผัส และสีสันที่เหมาะสมกับช่วงวัยของลูก ๆ เพราะว่าเด็ก ๆ ในแต่ละวัยจะมีพฤติกรรม และ ลักษณะการนอน รวมถึงความสามารถในการพลิกตัวที่มีความแตกต่างกัน ซึ่งการเลือกหมอนข้างเด็กที่ดีต้องมีขนาดที่ไม่ใหญ่มากจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้เด็ก ๆ รู้สึกอึดอัด หลับไม่สบาย อีกทั้งหมอนข้างที่มีขนาดใหญ่จะทำให้เด็ก ๆ ไม่สามารถโอบกอดได้อีกด้วยค่ะ และต้องมีความนุ่มเพื่อให้เด็ก ๆ รู้สึกปลอดภัยสบายใจในการกอด ซึ่งจะช่วยให้ลูกน้อยหลับสบายตลอดทั้งคืน ไม่ผวา หรือ สะดุ้งตื่นกลางดึก

TIPS by TAP : แนะนำให้คุณพ่อ – คุณแม่เลือกหมอนข้างที่มีสีสันไม่ฉูดฉาดจนเกินไป ควรเลือกหมอนข้างที่เป็นโทนแนวสีอ่อน ๆ เพราะสีที่มีความฉูดฉาดจะทำให้เด็ก ๆ รู้สึกตื่นตัวจนทำให้เด็ก ๆ นอนหลับได้ไม่สนิทนั่นเองค่ะ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

2. วิธีเลือกหมอนข้างเด็ก

ที่สามารถช่วยจัดท่านอนของลูก ๆ ได้อย่างเหมาะสม

 

 

โดยวิธีการเลือกหมอนข้างเด็กข้อนี้จะเหมาะสำหรับเด็กทารกที่ยังไม่สามารถจัดท่านอนได้ด้วยตัวเอง ซึ่งหมอนข้างจะเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ลูกน้อยในวัยแบเบาะนอนหลับได้ถูกท่าและนอนในท่าที่มีความเหมาะสม โดยหมอนข้างสำหรับเด็กทารกมักจะถูกออกแบบมาให้มีคุณสมบัติในการคงตัว คงรูป ไม่ยุบ ซึ่งจะสามารถช่วยซัพพอร์ตสรีระของลูกน้อยทำให้นอนหลับได้สบายตัว และในส่วนของเด็ก ๆ ที่เริ่มโตก็สามารถเลือกหมอนข้างที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาได้ โดยแนะนำให้เน้นไปที่ความนุ่มของหมอนข้าง และขนาดต้องมีความพอดีที่เด็ก ๆ จะสามารถโอบกอดได้นั่นเองค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : ท่านอนทารก 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 64

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

3. วิธีเลือกหมอนข้างเด็ก

เลือกปลอกหมอนที่ทำความสะอาดง่าย

 

 

หมอนข้างก็ต้องมาคู่กับปลอกหมอนข้าง ซึ่งปลอกหมอนข้างเป็นส่วนที่ต้องมาสัมผัสกับผิวของลูกน้อยโดยตรง เพราะฉะนั้นคุณพ่อ – คุณแม่ต้องใส่ใจในขั้นตอนของการเลือกปลอกหมอนข้างไม่น้อยไปกว่าการเลือกหมอนข้างให้กับลูกน้อยเลยค่ะ ซึ่งปัจจัยในการเลือกปลอกหมอนข้างที่ต้องเลือกจากสีสันที่ไม่ฉูดฉาดจนเกินไป ก็ยังต้องเลือกปลอกหมอนข้างที่สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ง่าย ต้องเป็นผ้าที่ระบายอากาศได้ดี และไม่ระคายเคืองผิวของลูกน้อย ซึ่งผ้าที่ใช้นำมาผลิตเป็นปลอกหมอนข้างจะมีดังนี้ค่ะ

  • ผ้า Spandex : จะเป็นผ้าที่ถูกถักทอมาจากเส้นใยสังเคราะห์ ซึ่งเนื้อสัมผัสจะมีความละเอียดสามารถยืดหยุ่นได้สูง ทนต่อการถูกบิดงอได้ดี ซึ่งปลอกหมอนข้างที่ทำมาจากผ้า Spandex จะไม่ดูดซับความชื้นจึงสามารถทำความสะอาดได้ง่าย
  • ผ้าฝ้าย : คุณสมบัติเด่นของปลอกหมอนที่ทำมาจากผ้าฝ้าย คือเป็นปลอกหมอนข้างที่สามารถระบายอากาศได้ดี ไม่อับชื้น เนื้อผ้านุ่มลื่น แต่ถ้าหากคุณพ่อ – คุณแม่จะเลือกปลอกหมอนข้างที่ทำมาจากผ้าฝ้ายจะต้องถอดออกมาซักบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการสะสมของไรฝุ่นรวมถึงสิ่งสกปรกที่อาจจะมาเกาะอยู่ที่ปลอกหมอนข้าง
  • ผ้าเยื่อไผ่ : สำหรับผ้าชนิดนี้จะถูกผลิตมาจากเยื่อไผ่ ซึ่งจะมีความเป็นธรรมชาติโอกาสที่จะเกิดการระคายเคืองต่อผิวเกิดขึ้นได้น้อยมาก ๆ มีสรรพคุณที่สามารถระบายอากาศได้ดี ไม่ค่อยมีกลิ่นอับ อีกทั้งยังสามารถซักทำความสะอาดได้ง่าย

 

4. วิธีเลือกหมอนข้างเด็ก

เลือกจากวัสดุที่ใช้ทำหมอนข้าง

 

 

และสำหรับวิธีเลือกหมอนข้างเด็กวิธีสุดท้าย ! แนะนำให้คุณพ่อ – คุณแม่เลือกซื้อหมอนข้างเด็กจากวัสดุที่ใช้ทำหมอนข้าง ซึ่งก็จะมีหลากหลายประเภทแต่ที่อยากแนะนำ คือต้องเป็นวัสดุที่ไม่มีสารพิษ หรือ สารเคมีตกค้าง ต้องไม่เป็นที่สะสมของไรฝุ่น และต้องไม่ทำให้ลูกน้อยเกิดอาการระคายเคือง ดังนั้นจึงอยากแนะนำให้คุณพ่อ – คุณแม่เลือกหมอนข้างที่ผลิตมาสำหรับเด็ก ๆ โดยเฉพาะ เพราะว่าจะเป็นหมอนข้างที่ใช้วัสดุที่มีความปลอดภัย และมีความเหมาะสมกับเด็ก ๆ นั่นเองค่ะ โดยวัสดุส่วนใหญ่ที่นำมาทำหมอนข้างเด็กที่ได้รับความนิยมจะมีดังต่อไปนี้ค่ะ

  • ใยไมโครเจล : โดยใยไมโครเจลที่นำมาผลิตเป็นหมอนข้างจะทำมาจากใยสังเคราะห์ ซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับใช้ทำเครื่องนอนเท่านั้น ! โดยจะเหมาะมาก ๆ เพราะว่าจะช่วยป้องกันการเกิดอาการภูมิแพ้ที่มาจากขนสัตว์ อาทิ เช่น หมอนข้างที่ทำมาจากขนเป็ด หรือ ขนไก่ เพราะหมอนข้างที่ทำมาจากขนสัตว์นอกจากจะสามารถก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้แล้วยังเป็นหมอนข้างที่ฝุ่น ไรฝุ่น รวมถึงละอองสิ่งสกปรกเล็ก ๆ เกาะติดได้ง่ายอีกด้วยค่ะ ซึ่งหมอนข้างที่ทำมาจากใยไมโครเจลจะมีความนุ่ม คืนรูปง่าย ไม่มีสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ สามารถนำมาซักได้
  • ใยสังเคราะห์ : หมอนข้างที่ทำมาจากใยสังเคราะห์อื่น ๆ อาทิ เช่น ใย Polyester จะเป็นหมอนข้างที่มีความนุ่ม น้ำหนักเบา ไม่ดูดซับความชื้น แต่จุดด้อยของใยสังเคราะห์ประเภทนี้ คือถ้าหากทำความสะอาดไม่ดี ซักไม่ถูกวิธีอาจจะทำให้หมอนข้างเสียทรง ไม่นุ่ม ไม่ฟูเหมือนเดิม
  • ยางพารา : และสำหรับวัสดุที่นิยมนำมาทำหมอนข้างเด็กชนิดสุดท้ายนั่นก็คือยางพารา ซึ่งจุดเด่นของยางพารา คือมีความยืดหยุ่นสูงแต่สามารถคงรูปทรงเดิมได้ดี จึงทำให้หมอนข้างไม่บี้ หรือ แบนเมื่อใช้ไปนาน ๆ อีกทั้งยังไม่จับตัวเป็นก้อน ช่วยลดการเกิดกลิ่นอับ รวมถึงไม่เป็นแหล่งสะสมของฝุ่น ไรฝุ่น หรือ เชื้อโรคที่เป็นตัวการในการทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ เพราะด้วยเนื้อของยางพาราจะมีความเรียบเนียนไม่มีซอกให้สิ่งสกปรกเหล่านี้เข้าไปเกาะติดนั่นเองค่ะ

 

และทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีเลือกหมอนข้างเด็กที่ theAsianparent ได้นำมาฝากเพื่อให้คุณพ่อ – คุณแม่ที่กำลังสนใจอยากซื้อหมอนข้างเด็กให้กับลูกน้อย เพื่อให้เด็ก ๆ ได้มีหมอนข้างคู่ใจเอาไว้กอดตอนนอนหลับในทุก ๆ คืน ซึ่งคุณพ่อ – คุณแม่สามารถนำวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อหมอนข้างสำหรับเด็กได้เลยค่ะ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

10 หมอนข้างเด็ก คุณภาพดี กอดสบาย ให้การนอนหลับของลูกมีประสิทธิภาพ

แนะนำ 10 หมอนเมมโมรี่โฟม ยี่ห้อไหนดี นุ่ม นอนสบาย รองรับต้นคอได้เป็นอย่างดี

10 ที่นอนกันกรดไหลย้อน สำหรับทารกน้อย ช่วยให้ลูกน้อยไม่สะดุ้งตื่นหรือแหวะนม

ที่มา : th.theasianparent.com

บทความโดย

Prawit Kaewsuwan