วิธีแก้ปวดหัวอย่างปลอดภัยในช่วงตั้งครรภ์ คนท้องกินยาแก้ปวดอะไรได้บ้าง

สาเหตุของอาการปวดหัวในช่วงที่ตั้งครรภ์มีได้มากมายเเละหลากหลาย วิธีแก้ปวดหัวอย่างปลอดภัยในช่วงตั้งครรภ์ จึงจำเป็นอย่างมาก หากคิดจะใช้ยา ควรปรึกษาคุณหมอก่อน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

วิธีแก้ปวดหัวอย่างปลอดภัยในช่วงตั้งครรภ์

อาการปวดหัวระหว่างตั้งครรภ์เป็นเรื่องที่ปกติ เพราะส่วนใหญ่แล้ว สาเหตุมาจากอาการเครียดในเรื่องต่างๆ ทั้งการเปลี่ยนเเปลงทางด้านร่างกาย เเละจิตใจ ทำให้คุณแม่มักจะรู้วึกวิตกกังวลหรือเครียดตลอดเวลา บางคนปวดหัวมากบางคนปวดหัวไม่มาก ขึ้นกับความรุนแรงค่ะ ดังนั้น แม่ๆ จึงจำเป็นต้องหา วิธีแก้ปวดหัวอย่างปลอดภัยในช่วงตั้งครรภ์  เพื่อที่จะได้ไม่กระทบกับลูกในท้องนั่นเอง

วิธีแก้ปวด หัวอย่างปลอดภัยในช่วงตั้งครรภ์

สาเหตุที่ทำให้คนท้องปวดหัว

  • เกิดจากการเปลี่ยนฮอร์โมนในร่างกายของคนท้อง
  • การขาดน้ำ จะรู้ได้อย่างไรว่าเราขาดน้ำ ให้คุณแม่สังเกตสีของปัสสาวะที่ขับถ่ายออกมาด้วยว่า มีสีเข้มไหม ถ้าเข้มและมีกลิ่นฉุนแสดงว่าเราดื่มน้ำน้อยไปค่ะ
  • เหนื่อยเมื่อยล้า หากรู้สึกเหนื่อยเกินไปในระหว่างวัน อย่าลังเลที่จะงีบสักหน่อย เพราะเมื่อร่างกายเหนื่อยล้าเเล้วคุณเเม่ไม่พักก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งได้เหมือนกันที่ทำให้เกิดอาการปวดหัวได้เช่นกัน
  • ไซนัสอักเสบก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการปวดหัวนะคะ ซึ่งวิธีการลดปวดแนะนำให้คุณแม่ลองหาอะไรมาประคบที่บริเวณตาเเละจมูกค่ะ
  • ขาดวิตามินบางชนิด
  • ปวดหัวเพราะไมเกรน
  • เป็นไข้

อาการปวดหัวของคนท้อง ในเเต่ละไตรมาส

วิธีแก้ปวด หัวอย่างปลอดภัยในช่วงตั้งครรภ์

ในช่วงไตรมาสที่ 2 คุณแม่อาจจะรู้สึกได้ว่า อาการปวดหัวมีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากระดับฮอร์โมนที่พุ่งสูงขึ้นนั่นเอง เเต่เเน่นอนว่าอาการปวดหัวที่มาจากสาเหตุอื่นก็สามารถมีได้เช่นกัน คุณอาจต้องสังเกตตัวเองว่าเราป่วยหรือเปล่า หรือมีเรื่องเครียดที่เกิดจากงาน เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวัน หรือถ้าไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร แถมอาการปวดหัวยังมีความรุนแรงหรือเป็นแล้วไม่หายสักที แนะนำว่าให้ไปพบคุณหมอจะดีที่สุดค่ะ อย่าเพิ่งวางใจเเละห้ามคิดในเเง่ที่ว่าปล่อยไว้ก็อาจจะหายไปเองได้นะคะ เพราะบางทีอาการปวดหัวที่เกิดขึ้นนอกจากจะไม่หายไปเองเเละ กลับจะยิ่งเเย่ลงไปกันใหญ่ได้ค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สำหรับในช่วงไตรมาสสุดท้าย อาการปวดหัวส่วนใหญ่จะมาจากการเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณคอเเละไหล่ ส่งผลต่อเส้นประสาทบริเวณด้านหลังของศีรษะ ซึ่งทำให้เป็นอีกสาเหตุที่ส่งผลให้คุณเเม่ปวดหัวได้เช่นกันนะคะ

ปวดหัวไมเกรนระหว่างการตั้งครรภ์

วิธีแก้ปวดหัวอย่างปลอดภั ยในช่วงตั้งครรภ์

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

การปวดหัวไมเกรนอาจจะดีขึ้นได้ในช่วงที่ตั้งครรภ์ค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผ่านไตรมาสเเรกไปเเล้ว เเต่ก็เป็นไปได้เช่นกันที่คุณเเม่จะมีอาการปวดหัวไมเกรนเพิ่มมากขึ้น หรือบ่อยขึ้นค่ะ ซึ่งคุณเเม่สามารถปรึกษาการใช้ยากับคุณหมอที่ฝากครรภ์ได้ เเต่ก็มีวิธีที่ช่วยบรรเทาอาการเเบบธรรมชาติ เช่น งีบ 30 นาที หรือ ดื่มน้ำมากขึ้น

วิธีบรรเทาอาการปวดหัวของคนท้อง

  1. บรรเทาอาการปวโดยไม่ต้องใช้ยา เช่น การนวด ประคบร้อนเย็น เเช่น้ำอุ่นๆ
  2. ออกกำลังกายโดยการเคลื่อนไหวช้า ๆ เช่น โยคะหรือพิลาเต้ เอ็นดอร์ฟินจะช่วยทำให้คุณอารมณ์ดีขึ้นด้วย
  3. นวดขมับเบา ๆ และหายใจเข้าออกลึก ๆ นวดกดจุดหรือการฝังเข็มก็สามารถช่วยลดอาการปวดหัวในระหว่างตั้งครรภ์ได้เช่นกัน
  4. นั่งตัวตรงเสมอ โดยเฉพาะในช่วงสามเดือนสุดท้าย นี่จะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
  5. ปรับเปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ โดยเฉพาะช่วงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ เพราะอาการปวดหัว อาจเกิดจากการยืน นั่ง นอนนาน ๆ หรือท่าทางที่ไม่เหมาะสม เพราะกล้ามเนื้อต้องแบกรับน้ำหนักจากแม่ท้องและทารกในครรภ์
  6. ใช้ยาบรรเทาอาการปวด เช่น ไทลินอล พาราเซตามอล (ควรปรึกษาคุณหมอก่อนการใช้งาน และไม่ควรทานต่อเนื่องเป็นประจำ)
  7. หากอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาคุณหมอในเรื่องของการใช้ยาต่างๆ

* ถ้าเป็นไปได้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาใดๆ ก็ตามในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะยาที่ซื้อใช้เอง และควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาให้มากที่สุด

คนท้องเป็นหวัดทำอย่างไร

วิธีแก้ป วดหัวอย่างปลอดภัยในช่วงตั้งครรภ์

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เวลาที่เป็นหวัดส่วนใหญ่มักจะมีอาการไข้ ปวดศีรษะมีน้ำมูก ไอ หรืออาจมีอาการเจ็บคอร่วมด้วย ถ้าเป็นไม่รุนแรงมักหายได้เองถ้าดูแลรักษาตัวอย่างถูกวิธี โดยการพักผ่อนมากๆ ดื่มน้ำเยอะๆ รักษาร่างกายให้อบอุ่น หรืออาจใช้ยาพาราเซตามอลแก้ปวด มีความปลอดภัย สามารถใช้ลดไข้ได้ตามอาการ โดยรับประทานครั้งละ 2 เม็ดทุก 4-6 ชั่วโมง ถ้ารู้สึกว่ามีไข้ ควรวัดอุณหภูมิสักหน่อยก็ดี ถ้าไข้ไม่สูงก็ลองรับประทานยาไปก่อนได้ แต่ถ้าไข้สูงเกิน 37.80 C ควรปรึกษาแพทย์

สำหรับยาลดน้ำมูกที่ใช้กันทั่วไปก็สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย ส่วนยาปฏิชีวนะหรือยาแก้อักเสบไม่จำเป็นต้องใช้ทุกราย จะใช้ก็ในกรณีที่คออักเสบหรือทอนซิลอักเสบร่วมด้วย ส่วนใหญ่ยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาไข้หวัดนั้นก็ปลอดภัย แต่ไม่แนะนำให้ไปซื้อมารับประทานเอง ควรให้แพทย์สั่งให้จะดีกว่า

ที่มา: Flipboard

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง:

เบื่อผัว ทำตัวให้ปวดหัวตลอด ลูกเมียไม่สนใจ จะทำอย่างไรดีเนี่ย?

วิธีแก้ปัญหาแม่ผัว แม่สามีไม่ชอบเรา หรือเราไม่ชอบครอบครัวแฟน จะอยู่กันยังไง

ท้องกินไข่ทุกวัน คนท้องกินไข่วันละฟอง น้อยไปไหม ตั้งครรภ์กินไข่วันละ กี่ฟองถึงจะดี

บทความโดย

Khunsiri