11 วิธีซักผ้าให้หอม กลิ่นติดทนนาน ตลอดทั้งวัน เคล็ด(ไม่)ลับของคุณแม่ยุคใหม่

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

11 วิธีซักผ้าให้หอม กลิ่นติดทนนาน ตลอดทั้งวัน เคล็ด(ไม่)ลับของคุณแม่ยุคใหม่ เทคนิคดี ๆ บอกลาปัญหาเสื้อผ้ามีกลิ่นเหม็นอับกวนใจไปได้เลย บอกเลยแต่ละวิธีที่เราเลือกนำมาฝากกันทำตามได้ไม่ยากอย่างที่คิด !! พร้อมแล้วมาดูกันเลยค่ะ

 

วิธีซักผ้าให้หอม กลิ่นติดทนนานตลอดทั้งวัน

  • ซักผ้า ด้วยน้ำร้อน

การซักผ้าด้วยน้ำร้อนช่วยขจัดคราบสกปรกได้ดีกว่าน้ำอุณหภูมิปกติ เพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรคแบคทีเรียสะสม ป้องกันกลิ่นเหม็นอับได้ดีมากขึ้น ยิ่งในยุคที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 แล้วความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ตนเองและครอบครัวห่างไกลจากเชื้อโรค หรือหากเครื่องซักผ้าบางรุ่นไม่สามารถปรับเลือกอุณหภูมิน้ำที่ซักได้ แนะนำให้นำผ้ามาแช่น้ำร้อนประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนนำไปซักจริง นอกจากจะช่วยฆ่าเชื้อโรคแล้ว ยังทำให้สีสดใสมากขึ้นอีกด้วย

 

  • ทำความสะอาดถังเครื่องซักผ้า

เริ่มต้นด้วยการกำจัดเชื้อราในเครื่องซักผ้าของคุณ ด้วยวิธีง่าย ๆ เช่น สามารถใช้น้ำส้มสายชูเพื่อทำความสะอาดเครื่องซักผ้า ใช้อัตราส่วนน้ำส้มสายชูและน้ำ เท่า ๆ กัน หรือเติมสารฟอกขาวในเครื่องซักผ้าของคุณ และเรียกใช้ในวงจรการทำความสะอาดตัวเอง แต่ไม่ควรผสมสารฟอกขาวกับน้ำส้มสายชู ให้เลือกเพียงแค่เลือกวิธีใดวิธีหนึ่ง เมื่อเครื่องทำงานเสร็จแล้ว ให้ใช้ฟองน้ำ หรือผ้านุ่มแล้วเช็ดเพื่อป้องกันเชื้อรา

 

  • เปิดประตูเครื่องซักผ้า

นอกจากล้างถังเครื่องซักผ้าของคุณให้สะอาดแล้ว เมื่อซักผ้าเสร็จ ให้เปิดประตูเครื่องซักผ้าทิ้งไว้เพื่อให้อากาศถ่ายเท เพื่อลดเกิดกลิ่นเหม็นอับ ช่วยให้อากาศหมุนเวียนได้ดี ลดความชื้นซึ่งอาจก่อให้เกิดเชื้อราตามมาได้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

  • อย่าซักผ้าเกินความจุเครื่อง

การใส่ผ้าในเครื่องมากเกินไป จะทำให้เครื่องซักผ้า ซักได้สะอาดไม่ทั่วถึง รวมถึงปริมาณน้ำยาซักผ้าอาจน้อยกว่าจำนวนผ้าที่ซักทำให้ยังคงมีสิ่งสกปรก โดยส่วนหนึ่งของการซักผ้าที่ถูกต้องคือ ควรใส่ผ้าในเครื่องไม่เกิน ¾ ของความจุถัง และไม่ควรใส่เสื้อผ้าแน่นเกินไป

 

  • แยกเสื้อผ้าก่อนซัก 

โดยสามารถซักเสื้อผ้าได้หลายแบบ แบ่งตามประเภท เช่น แยกเสื้อผ้าสีขาวกับผ้าสีออกจากกัน , แยกซักชุดออกกำลังกายที่มีคราบเหงื่อ แบคทีเรียสิ่งสกปรกเป็นพิเศษ เพื่อลดกลิ่นหรือสิ่งสกปรกไปปะปนติดกับเสื้อผ้าตัวอื่น ๆ ได้ ควรนำผ้าที่สกปรก คราบเหงื่อไปแช่น้ำทิ้งไว้ ประมาณ 30 นาที ก่อนนำมาซัก จะช่วยให้ผ้าหอมและสะอาดมากยิ่งขึ้น

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความที่น่าสนใจ : 9 วิธีซักผ้าขาว ขาวจั๊วะเหมือนใหม่ เปลี่ยนผ้าหมองเป็นผ้าใหม่ แม่บ้านต้องอ่าน

 

 

  • ซักผ้าด้วยมือ

ในบางครั้งเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าบอบบางหรือมีคราบสกปรกฝังลึกควรแช่ผ้าและซักด้วยมือ เพราะการซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้าอาจทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึงเท่าที่ควร

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

  • เลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้น

น้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้นพิเศษ จะช่วยให้ผ้าหอมยาวนานและนุ่มน่าสัมผัสมากยิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบันที่หลากหลายกลิ่นให้เลือกได้ตามความชอบ

 

  • ใช้ผงซักฟอกสูตรพิเศษ

จุดเริ่มต้นของการมีเสื้อผ้าที่หอม คือการซักผ้าที่สะอาด จะช่วยป้องกันเชื้อโรคแบคทีเรีย สิ่งสกปรกต่าง ๆ

 

  • ใช้สเปรย์ฉีดผ้าหอม

นอกจากการใช้ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มแล้ว หากใครยังต้องการเพิ่มกลิ่นหอม แนะนำให้ฉีดสเปรย์ก่อนออกจากบ้าน หรือหลังซัก-อบผ้าจนแห้งสนิทดีแล้ว เป็นวิธีที่นิยมมากในกลุ่มศิลปินและนักแสดงจากประเทศเกาหลี

 

  • ตากผ้าในที่อากาศถ่ายเทสะดวก

ตากผ้าเอาไว้กลางแจ้ง ในพื้นที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ยิ่งแสงแดดจัด ๆ ยิ่งช่วยให้ผ้าของเราแห้งเร็วขึ้น หมดกังวลเรื่องกลิ่นอับและเชื้อแบคทีเรีย

 

  • อบผ้าให้แห้งสนิท

หากซักผ้าในช่วงฤดูฝนหรือขณะไม่มีแสงแดด จะทำให้ผ้าไม่แห้ง มีกลิ่นเหม็นอับ เพราะถ้าผ้าไม่แห้งสนิท จะเป็นต้นเหตุของกลิ่นอับชื้น เชื้อแบคทีเรีย และอาจส่งผลต่อโรคผิวหนังได้ ทางที่ดีคือควรอบผ้าให้แห้งสนิทก่อนพับเก็บ หรือตากในพื้นที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก เป่าพัดลม เป็นต้น

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

 

สาเหตุที่ซักผ้าแล้วไม่หอม

  • แช่ผ้าเปียกนานเกินไป

หากปล่อยให้เสื้อผ้าเปียกนานเกินไป จะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อราและแบคทีเรีย ซึ่งอาจทำให้เกิดกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ที่ยากจะลืมเลือน

 

  • เครื่องซักผ้าขึ้นรา

หากคุณแม่บ้านมองว่าเครื่องซักผ้าดูสะอาดดี ให้ลองมองบริเวณมุมอับที่ซ่อนอยู่โดยเฉพาะบริเวณขอบยางประตูด้านหน้า คุณอาจพบเชื้อราที่ซุ่มซ่อนได้

 

  • ปริมาณผงซักฟอกที่ไม่ถูกต้อง

หากคุณใช้ผงซักฟอกมากเกินไปหรือน้อยเกินไป เสื้อผ้าของคุณจะไม่มีกลิ่นหอมสะอาด เพราะหากปริมาณผงซักฟอกมากเกินไปจะเมโอกาสที่สิ่งสกปรกและเชื้อราจะเกาะติดกับเนื้อผ้าและทำให้เกิดกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ และหากใช้ผงซักฟอกน้อยเกินไป จะทำให้ผ้าไม่ความสะอาดสิ่งสกปรกออกจากผ้าได้ไม่หมด

 

  • ดูแลซักผ้าไม่ถูกวิธี

ควรศึกษาเนื้อผ้า และวิธีการดูแลรักษาผ้าชนิดนั้น ๆ อย่างถูกวิธีเพื่อเป็นการถนอมใยผ้าและช่วยให้ซักผ้าได้สะอาด มีกลิ่นหอมสดชื่น ปราศจากแบคทีเรีย เช่น

    • ผ้าคอนตอนหรือผ้าฝ้าย ระบายความชื้นได้ดี แห้งไว วิธีการรักษา สามารถซักด้วยเครื่องซักได้ และซักด้วยน้ำอุ่น
    • ผ้ายีนส์ สามารถซักเครื่องได้ และควรซักด้วยน้ำอุ่นเหมือนผ้าฝ้าย แต่ควรกลับด้านเอาด้านในออกมาด้านนอกเพื่อถนอมสีผ้า
    • ผ้าลินิน เป็นผ้าที่มีน้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดี แต่ยับง่าย แนะนำให้ซักมือหรือซักแห้ง
    • ผ้าไหม ระบายอากาศดี แห้งง่าย แนะนำให้ซักแห้งหรือซักมือจะดีที่สุด และใช้ผงซักฟอกสูตรอ่อนโยน
    • ผ้าไนลอน เป็นเส้นใยสังเคราะห์ มีความทนทานและยืดหยุ่นสูง แห้งไว นิยมใช้ทำชุดออกกำลังกาย ชุดว่ายน้ำ สามารถซักมือได้ หรือปรับตั้งโปรแกรมที่เหมาะสมในเครื่องซักผ้า โดยผ้าประเภทนี้ไม่จำเป็นต้องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม
    • ผ้าขนสัตว์ ให้ความอบอุ่นได้ดีเมื่อสวมใส่ ควรซักแห้งและซักด้วยมือในน้ำเย็น เนื่องจากมีราคาสูงจึงควรดูแลรักษาด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ
    • ผ้าขนหนู ทำจากคอตตอนกับลินิน มีคุณสมบัติซึมซับน้ำได้ดี โดยมีวิธีการดูแลรักษา คือ ถ้าทำจากฝ้ายสามารถซักเครื่องได้ แต่ถ้าเป็นลินินอย่าใช้น้ำที่ร้อนหรือเย็นเกินไปในการซัก และไม่จำเป็นต้องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม

 

บทความที่น่าสนใจ :

เครื่องซักผ้าที่ดีที่สุด เพื่อความสะอาดของทุกคนในครอบครัว

9 น้ำยาซักผ้าเด็ก ปลอดภัย ยี่ห้อไหนดี? อัปเดตปี 2023 ไม่เป็นอันตรายต่อลูก

ระวัง!! สารเคมีจากน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มทั่วไป สาเหตุของโรคภูมิแพ้ในเด็ก

 

ที่มา : lovetoknow

บทความโดย

Suchanya Dheerasunt