ลูกโตแล้วยังฉี่รดที่นอน ทำอย่างไรดี? สาเหตุและวิธีแก้ฉี่รดที่นอน

ลูกปัสสาวะรดที่นอนเป็นประจำ ปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม ลูกโตแล้วยังฉี่รดที่นอน ทำอย่างไรดี? สาเหตุ และวิธีการรักษาไม่ให้ฉี่รดที่นอน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ปัสสาวะรดที่นอนเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยพอสมควรในเด็กทั่วไป ฉี่รดที่นอนสาเหตุ ลักษณะของปัสสาวะรดที่นอนที่ผิดปกติ คือ อาการปัสสาวะรดที่นอนอย่างสม่ำเสมอมากกว่า 2 ครั้งต่อสัปดาห์ นานอย่างน้อย 3 เดือน ติดต่อกันในเด็กที่อายุมากกว่า หรือเท่ากับ 5 ปี โดยไม่ได้เป็นผลมาจากยา เช่น ยาขับปัสสาวะ หรือภาวะการเจ็บป่วยทางกายอื่น ๆ ลูกโตแล้วยังฉี่รดที่นอน ทำอย่างไรดี? เรามาดูสาเหตุและการแก้ไขอาการปัสสาวะรดที่นอนกันดีกว่าค่ะ

ลูกโตแล้วยังฉี่รดที่นอน-01

สาเหตุของปัสสาวะรดที่นอนมีอะไรบ้าง?

ยังไม่ทราบสาเหตุชัดเจนของการปัสสาวะรดที่นอน ในเด็กอายุมากกว่า 5 ขวบ แต่อาจมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องทางด้านของตัวเด็กเอง และสิ่งแวดล้อม ดังนี้

  • ตัวเด็กเอง

น้องอาจมีความเสี่ยงทางด้านประวัติพันธุกรรม คือ มีประวัติคุณพ่อหรือคุณแม่ปัสสาวะรดที่นอนจนโต ลูกก็จะมีโอกาสปัสสาวะรดที่นอนได้มากขึ้นกว่าเด็กที่ไม่มีประวัติครอบครัว นอกจากนี้ยังอาจเกี่ยวข้องกับร่างกายของเด็ก ในด้านพัฒนาการควบคุมการถ่ายปัสสาวะขณะหลับ และความผิดปกติของตัวเด็กเอง ในเรื่องของกระเพาะปัสสาวะไว มีความผิดปกติของฮอร์โมน หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ

ลูกโตแล้วยังฉี่รดที่นอน-02

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • สิ่งแวดล้อม

การปัสสาวะรดที่นอนอาจเกิดจากความเครียดด้านต่าง ๆ เช่น ความเครียดจากการย้ายบ้าน ความเครียดจากที่โรงเรียน หรือการมีน้อง

หากเด็กมีอาการปัสสาวะรดที่นอนร่วมกับอาการอื่นของระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ ปัสสาวะแสบขัด หรือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ อาจมีสาเหตุจากการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ หรือภาวะกระเพาะปัสสาวะไว หรือมีความผิดปกติของทางเดินปัสสาวะอื่น ๆ นอกจากนี้ หากมีความผิดปกติของการนอนหลับ เช่น มีภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจขณะหลับ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ปัสสาวะรดที่นอนได้เช่นกันค่ะ

ลูกโตแล้วยังฉี่รดที่นอน-03

สาเหตุของการปัสสาวะรดที่นอน?

หากเด็กมีอาการปัสสาวะรดที่นอนทั้งที่อายุมากกว่า 5 ปี ควรไปพบคุณหมอ เพื่อพิจารณา ตรวจหาสาเหตุ โดยซักประวัติสอบถาม อาการปัสสาวะ อาการร่วมของโรคต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุดังกล่าว และตรวจร่างกายเพิ่มเติม เช่น ตรวจดูก้อนที่หน้าท้อง ในตำแหน่งของกระเพาะปัสสาวะ ตรวจดูก้อนอุจจาระที่หน้าท้อง ตรวจดูหลัง และ กำลังกล้ามเนื้อขา เพื่อหาความผิดปกติ ของระบบประสาท ตรวจดูอวัยวะที่ใช้ปัสสาวะ ร่วมกับการส่งปัสสาวะตรวจ และเพาะเชื้อในปัสสาวะ เพื่อหาสาเหตุการติดเชื้อ หรือโรคเบาหวาน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

รวมทั้งหากพบว่ามีความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ คุณหมออาจจะส่งตรวจอัลตร้าซาวด์ ตรวจยูโรไดนามิค เพื่อดูการทำงานของระบบปัสสาวะ และตรวจ MRI หาสงสัยความผิดปกติของระบบประสาทและสมอง

 

ปัสสาวะรดที่นอนรักษาได้อย่างไร?

การรักษาปัสสาวะรดที่นอน จะเริ่มจากการรักษาที่สาเหตุ เช่น ภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจขณะหลับ หรือ ท้องผูก ในการรักษาจะใช้หลักการพฤติกรรมบำบัด และ ในบางครั้งอาจจะต้องมีการใช้ยาร่วมด้วย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

พฤติกรรมบำบัดในการรักษาปัสสาวะรดที่นอน สาเหตุ ฉี่รดที่นอน ได้แก่

  • ให้เด็กปัสสาวะก่อนเข้านอน และบอกให้ลุกขึ้นมาปัสสาวะในห้องน้ำหากรู้สึกปวดกลางคืน โดยไม่จำเป็นต้องปลุกเด็กให้ตื่นขึ้นมาปัสสาวะ
  • จำกัดปริมาณน้ำก่อนเข้านอน 2-3 ชั่วโมง ให้น้อยกว่า 2 ออนซ์ งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ซึ่งกระตุ้นให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น เช่น โกโก้ ช็อคโกแลต ชา และน้ำอัดลม
  • ไม่ตำหนิลงโทษหรือว่ากล่าวเด็ก เพราะไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหา แถมยังมีผลต่อสภาพจิตใจของเด็กในแง่ลบ ทั้งนี้ควรให้แรงเสริมทางบวกแก่เด็ก เช่น การสะสมดาว star chart และให้เด็กมีส่วนรู้ผลของการปัสสาวะรดที่นอนด้วยตนเอง โดยให้ช่วยเปลี่ยนผ้าปูที่นอน และนำไปซักเมื่อที่นอนเปียก
  • สัญญาณเตือนเมื่อเด็กปัสสาวะรดที่นอน สามารถใช้ได้ มีการศึกษาว่าหากใช้ต่อเนื่อง 3-6 เดือนก็มักได้ผลดี แต่ยังไม่นิยมใช้ในประเทศไทย เนื่องจากเด็กมักนอนรวมกับคุณพ่อคุณแม่ หากสัญญาณเตือนดังก็จะรบกวนคุณพ่อคุณแม่ไปด้วย
  • ในเด็กอายุ 6 ปีขึ้นไปที่มีปัสสาวะรดที่นอน สามารถใช้ยาในการรักษาได้ เช่น Desmopressin ซึ่งยาอาจมีผลข้างเคียงได้บ้าง จึงควรต้องอยู่ในดุลยพินิจและการดูแลของแพทย์

การรักษาปัสสาวะรดที่นอนในบางครั้งอาจไม่ได้ผลดีสำหรับเด็กบางคน แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะอาการนี้มีโอกาสหายขาดได้ตามวัยเมื่อเด็กโตขึ้น โดยเด็กที่ปัสสาวะรดที่นอนและไม่ได้รับการรักษาก็จะมีโอกาสหายได้ และมีข้อมูลว่าเด็กเพียง 1.5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่ยังมีอาการปัสสาวะรดที่นอนอยู่จนอายุ 15 ปี ทั้งนี้หากลูกมีอาการปัสสาวะรดที่นอนหลังอายุ 5 ปี และคุณพ่อคุณแม่กังวลใจว่าจะมีความผิดปกติอะไรที่ร้ายแรงหรือไม่ ก็ควรไปปรึกษาคุณหมอค่ะ

theAsianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น theAsianparent Thailand ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งาน เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุด และ ผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์ และ สื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ลูกฉี่รดที่นอนทำความสะอาดยังไง รวมวิธีทำความสะอาดฉี่และกลิ่นบนที่นอนง่ายๆ

วิธีเลิกผ้าอ้อมสำเร็จรูปตอนกลางคืน ฝึกอย่างไรไม่ให้ฉี่รดที่นอน

รู้ได้ยังไงว่าลูกเครียด อาการและสาเหตุความเครียดของเด็ก

www.sanook.com

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา