8 วิธีสร้างแรงจูงใจให้ลูก กระตุ้นให้เด็กรู้จักทำงานและขยันเรียนรู้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

แรงจูงใจนับเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่กระตุ้นให้เราอยากเรียนรู้หรือทำงาน ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็ก ๆ การมีแรงจูงใจก็ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เขาได้ อย่างไรก็ตาม การมีแรงจูงใจของเด็กนั้นอาจไม่ใช่เด็กทุกคนที่มี คุณพ่อคุณแม่จึงควรรู้จัก วิธีสร้างแรงจูงใจให้ลูก เพื่อให้เขามีโอกาสเติบโตทางด้านการเรียนและสามารถประสบความสำเร็จได้ มาดูกันว่าวิธีเหล่านี้จะช่วยฝึกลูกให้เกิดแรงบันดาลใจอย่างไร

 

ทำไมเราควรสร้างแรงจูงใจให้ลูก

การสร้างแรงจูงใจให้แก่ลูกนับเป็นสิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้ ซึ่งการที่จะปลูกฝังให้ลูกมีแรงจูงใจที่ดีนั้น อาจต้องใช้ทักษะในการสื่อสารกับลูกอย่างถูกต้อง เพื่อช่วยให้เด็กเข้าใจได้ง่ายและไม่สับสน หากลูกเกิดแรงจูงใจขึ้นมา ก็จะช่วยให้เขาสามารถเรียนรู้ได้ดีขึ้น รู้จักทำในสิ่งที่ตนเองตั้งเป้าหมาย หรือแม้กระทั่งช่วยปรับปรุงพฤติกรรมที่ไม่ดีได้ ซึ่งเหตุผลที่เราควรสร้างแรงจูงใจให้แก่เด็กนั้น ได้แก่

  • ช่วยให้ลูกภูมิใจในตนเอง : บางครั้งลูกอาจไม่มั่นใจในตนเองเวลาทำบางอย่าง การที่คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยให้เขาเกิดแรงบันดาลใจ ก็จะส่งผลให้เด็กรู้สึกภูมิใจในตัวเองและเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเองได้
  • ช่วยให้ลูกมีพฤติกรรมดีขึ้น : เด็กบางคนอาจมีพฤติกรรมที่ไม่ดี เช่น ติดเกม การที่คุณพ่อคุณแม่สามารถเบี่ยงเบนความสนใจลูก ด้วยการสร้างแรงบันดาลใจให้เขา เช่น พาไปออกกำลังกาย พาไปเที่ยว หรือพาไปเล่นกับเพื่อน ก็จะช่วยให้ลูกปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ดีขึ้น 
  • ช่วยผลักดันลูกสู่เป้าหมาย : การมีแรงบันดาลใจเป็นเรื่องที่ดีเสมอ ยิ่งสำหรับเด็ก ๆ แล้ว การมีคุณพ่อคุณแม่คอยหนุนหลังและให้คำแนะนำแก่เขา ก็จะช่วยให้ลูกมุ่งสู่เป้าหมายและสามารถประสบความสำเร็จในอนาคตได้
  • ช่วยให้ลูกมองโลกในแง่ดียิ่งขึ้น : หากลูกของคุณเป็นเด็กที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง หรือชอบมองโลกในแง่ร้ายจนไม่กล้าทำบางสิ่ง คุณพ่อคุณแม่สามารถสอนให้ลูก โดยบอกว่าเขาก็มีความสามารถไม่แพ้คนอื่น การกระทำและคำพูดเช่นนี้ ก็จะช่วยให้เด็กเห็นความสามารถของตัวเองและมองโลกในแง่ดียิ่งขึ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง : สร้างแรงบันดาลใจให้ลูกเรียนรู้ภาษา ทำยังไงให้ลูกรักภาษา

 

 

8 วิธีสร้างแรงจูงใจให้ลูก เพื่ออนาคต

คุณพ่อคุณแม่บางคนอาจคิดว่าแรงบันดาลใจเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญแก่เด็ก แต่จริง ๆ แล้ว การฝึกลูกให้มีแรงจูงใจนั้นจะช่วยให้เขารู้จักทำงาน อยากเรียนรู้ และอยากท้าทายความสามารถตัวเอง เพราะฉะนั้นเรามาดูวิธีที่ช่วยสร้างแรงจูงใจให้ลูกกันค่ะ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

1. ค้นหาความสนใจของลูก

ก่อนอื่นเลยคุณพ่อคุณแม่ควรค้นหาความสนใจของลูกก่อน ว่าเขาชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไร วิธีนี้จะช่วยให้เด็กสามารถค้นหาความสามารถและทักษะของตัวเองได้ เช่น หากลูกสนใจเรื่องอวกาศหรือไดโนเสาร์ ก็อาจซื้อหนังสือให้ลูกได้ลองอ่าน หรือลองพาเขาไปพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์เพื่อให้เขาเกิดความสนใจได้ วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นให้เด็กเกิดความสนใจและแรงบันดาลใจเร็ว อีกทั้งยังช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถผลักดันเขาไปในสิ่งที่ชอบด้วย

 

2. ให้ลูกลองทำงานง่าย ๆ

เพราะวัยเด็กเป็นวัยที่เปลี่ยนแปลงความสนใจของตัวเองง่าย คุณพ่อคุณแม่จึงควรให้เขาลองทำงานง่าย ๆ ไม่ยากเกินไป เพราะอาจทำให้ลูกหมดความสนใจได้เร็ว ซึ่งก่อนที่จะมอบหมายงานให้ลูกทำนั้น ต้องอธิบายหน้าที่ให้เขาฟังก่อน เพื่อให้เด็กรู้สึกว่าตัวเองสามารถทำได้ ไม่ยากจนเกินไป ซึ่งอาจเริ่มจากงานบ้านทั่วไป ขั้นตอนนี้จะทำให้เด็กได้รู้จักการทำงานและมีเวลาพูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่ตอนสอนงานด้วย

 

3. พาลูกไปทำกิจกรรมสร้างสรรค์

การพาลูกออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ก็สามารถส่งเสริมทักษะการทำงานของเขาได้ โดยกิจกรรมที่ควรทำนั้นต้องเป็นกิจกรรมสร้างสรรค์ ไม่ใช่การพาลูกออกไปวิ่งเล่นทั่วไป แต่ต้องเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกวัน เช่น การสำรวจโลกรอบตัว การถามคำถาม หรือกิจกรรมที่ฝึกทักษะของตนเองได้ ยิ่งหากคุณพ่อคุณแม่สามารถวางแผนการทำกิจกรรมของลูกให้สอดคล้องกับการเรียน ก็จะช่วยให้ลูกสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความที่เกี่ยวข้อง : 12 กิจกรรมเด็ก หลากหลายไอเดียทำสนุก ๆ กับลูกได้ไม่ซ้ำ

 

 

4. พาลูกทำกิจกรรมการเรียน

นอกจากการพาลูกไปทำกิจกรรมสร้างสรรค์แล้ว กิจกรรมการเรียนก็สำคัญเช่นกัน กิจกรรมหลาย ๆ อย่างส่งเสริมให้เด็กได้พัฒนาทักษะและความสามารถของตนเอง เช่น การเล่นกีฬา การเล่นดนตรี การเข้าร่วมชมรม และการแข่งขันต่าง ๆ เป็นต้น กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้เด็กกระตือรือร้นในการทำงานได้ดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นการฝึกการรับผิดชอบในการทำงานได้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

5. ปล่อยให้ลูกลงมือทำด้วยตัวเอง

เพราะแรงจูงใจไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ บางครั้งจึงควรปล่อยลูกให้ลองผิดลองถูก โดยการปล่อยให้ลูกได้ลงมือทำด้วยตนเองนั้น จะทำให้เด็กรู้จักพยายามและสร้างแรงจูงใจให้แก่ตนเองด้วย ซึ่งเมื่อเขาสามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายสำเร็จ ก็จะทำให้เขารู้สึกภูมิใจในตนเอง แต่ในทางกลับกันหากลูกไม่สามารถทำงานนั้นสำเร็จ ก็จะทำให้เขารู้สึกอยากเอาชนะและพยายามกับงานอื่น ๆ มากขึ้น

 

6. ให้รางวัลแก่ลูก

แน่นอนว่าเด็กทุกคนล้วนชอบของรางวัลกันทั้งนั้น หากลูกสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้สำเร็จ คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถให้ของขวัญแก่เขาเพื่อตอบแทนความพยายามได้ เช่น หากลูกได้เกรด 4 วิชาภาษาไทย ก็จะได้ของขวัญตอบแทน วิธีนี้จะช่วยให้เด็กเกิดแรงกระตุ้นที่อยากจะได้ของรางวัล และเกิดแรงจูงใจให้แก่ตนเอง อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรให้รางวัลลูกมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดพฤติกรรมการสปอยล์ลูกโดยไม่รู้ตัว

บทความที่เกี่ยวข้อง : คุณควร ให้รางวัลลูก หรือไม่? ให้แบบไหนได้บ้าง? เรามีคำตอบ

 

 

7. พาลูกไปทำโครงการจิตอาสา

อย่างที่รู้กันว่าโครงการจิตอาสา เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของเด็กได้เป็นอย่างดี คุณพ่อคุณแม่อาจชวนลูกไปทำกิจกรรมอาสาต่าง ๆ เพื่อให้เขาได้ค้นหาสิ่งที่ชอบ และเมื่อเด็กได้ลองทำโครงการต่าง ๆ ก็จะช่วยให้เขาตระหนักได้ว่าสิ่งนี้กระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจในการทำสิ่งอื่น ๆ

 

8. สอนลูกให้มองไอดอลต้นแบบ

เด็กบางคนมักมีไอดอลในดวงใจ หากคุณพ่อคุณแม่อยากสนับสนุนให้ลูกมีแรงบันดาลใจ ก็ลองให้เขาติดตามไอดอลที่ชอบได้ ไม่ว่าจะเป็นนักร้อง ดารา หรือเน็ตไอดอล คนเหล่านี้ช่วยกระตุ้นพลังบวกให้กับเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเมื่อลูกมีไอดอลที่ชอบนั้น ก็จะทำให้เขาติดตามการทำงานของไอดอลตัวเอง และเกิดแรงจูงใจในการทำงานเหมือนคนที่ชอบเหมือนกัน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

วิธีสร้างแรงจูงใจให้ลูก อาจเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการพูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรหมั่นพูดคุยกับลูกบ่อย ๆ สนับสนุนให้เขาได้ทำในสิ่งที่ชอบ และส่งเสริมให้ลูกได้ทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ สิ่งเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นให้เด็กเกิดแรงบันดาลใจที่อยากจะทำงานและเรียนรู้นั่นเอง

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

7 วิธีสำหรับพ่อแม่ อยากให้ลูกตั้งใจเรียน เพื่ออนาคตที่สดใส

10 การ์ตูนที่เด็กควรดู สนุกสดใส ช่วยส่งเสริมพัฒนาการสมอง

วิธีการเลี้ยงลูกให้โตไปประสบความสำเร็จ ความสัมพันธ์ในครอบครัว ส่งผลอย่างไร

ที่มา : TruePlookpanya, momster, scientia

บทความโดย

Sittikorn Klanarong