ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็อาจจะกำลังพบเจอกับปัญหาผนังบ้านชื้นขึ้นมาบ่อย ๆ หากใครที่กำลังมองหาวิธีการแก้ไข หรือวิธีการรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น ห้ามพลาดเลยนะคะ เพราะวันนี้เราได้นำเคล็ดลับวิธีการรับมือกับผนังบ้านชื้นมาฝากทุกคนแล้ว เรามาดู วิธีแก้ผนังชื้น กันเลยค่ะ
ผนังบ้านที่เราควรรู้จักมีอะไรบ้าง?
ก่อนที่เราจะทำการสร้างบ้าน นอกจากวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เราควรใส่ใจรายละเอียดแล้วนั้น การเลือกผนังบ้านก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่เราควรให้ความสำคัญตามไปด้วย เอาเป็นว่าเรามาทำความรู้จักประเภทของผนังบ้านไปพร้อม ๆ กันเลยนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ไอเดียตกแต่งบ้าน กับ 15 วิธีแต่งบ้านสไตล์ท่องเที่ยว สายเที่ยวไม่ควรพลาด
1. ผนังคอนกรีตสำเร็จรูป
ผนังประเภทแรกที่เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักนั้น เป็นผนังคอนกรีตสำเร็จรูปที่ใครหลายคนนิยมใช้อยู่เหมือนกัน เพราะผนังในลักษณะนี้ค่อนข้างใช้ง่าย และก่อสร้างเสร็จเร็ว นอกจากนี้ยังมีลักษณะที่ทนทาน สามารถเก็บเสียงได้ดี สำหรับใครที่กำลังมองหาผนังบ้านที่ตอบโจทย์ ผนังคอนกรีตสำเร็จรูปก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยนะคะ
2. ผนังอิฐ
สำหรับผนังอิฐ ต้องบอกว่าเป็นผนังอีกหนึ่งประเภทที่ใช้กันมาอย่างยาวนาน นอกจากนำมาทำเป็นผนังบ้านแล้ว ผนังอิฐยังนิยมนำมาสร้างอาคารต่าง ๆ อีกด้วย สำหรับใครที่อยากจะให้โครงสร้างบ้านเรามีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น อาจจะลองใช้ผนังอิฐแทนได้เลย แถมราคาไม่แพงด้วยนะคะ
3. ผนังกระจกใส
ผนังบ้านในลักษณะแบบนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งประเภทที่ใครหลายคนให้ความสนใจค่อนข้างเยอะอยู่เหมือนกัน เพราะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สามารถใช้งานได้กับทุกพื้นที่ภายในบ้าน อีกทั้งยังช่วยทำให้บริเวณบ้านของเราดูปลอดโปร่งและกว้างขวางขึ้นอีกด้วย สำหรับใครที่ชอบบ้านในลักษณะแบบนี้กันอยู่แล้ว อาจจะเลือกผนังบ้านเป็นผนังกระจกใสได้เลยนะคะ
4. ผนังเบา
มาต่อกันที่ผนังอีกหนึ่งประเภท ผนังในลักษณะแบบนี้โดยส่วนใหญ่จะใช้สำหรับกั้นห้องระหว่างกัน ทำให้บ้านของเราดูมีสัดส่วนขึ้นมามากขึ้น เพราะฉะนั้นใครที่กำลังอยากแบ่งโซนบ้านให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น เราอาจจะเลือกใช้ผนังบ้านเป็นผนังเบาแทนได้
สาเหตุที่ส่งผลทำให้ผนังบ้านชื้นเกิดจากอะไรบ้าง?
หลายคนก็คงอยากรู้ใช่ไหมคะว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ผนังบ้านของเราดูชื้นขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นสักหน่อย เอาเป็นว่าเรามาดูสาเหตุที่ส่งผลทำให้ผนังบ้านของเราชื้นไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าค่ะ ไม่แน่สิ่งที่เรามองข้ามอยู่ในตอนนี้อาจเป็นสาเหตุสำคัญเลยก็ว่าได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : ไอเดีย! การตกแต่งห้องน้ำ อย่างไร? ให้ดูสวยถูกใจคนชอบแต่งบ้าน
1. ผนังบ้านพอง หรือหลุดลอก
หากผนังบ้านของเรามีลักษณะพอง หรือมีสี และน้ำยาเคลือบที่หลุดลอกออกไป สิ่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลทำให้ผนังบ้านของเรามีความชื้นขึ้นมาได้ ยิ่งเข้าสู่ช่วงฤดูฝนแบบนี้ หากเราไม่รีบทำการแก้ไขหรือทาสีใหม่ สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมานอกจากปัญหาผนังบ้านชื้นได้เหมือนกัน
2. เกิดท่อน้ำรั่ว
เมื่อไหร่ที่มุมใดมุมหนึ่งภายในบ้านของเราเกิดรอยรั่ว หรือเกิดท่อน้ำรั่วขึ้นมา แน่นอนว่าผลที่ตามมาอีกหนึ่งอย่างคือผนังบ้านของเราก็จะมีความชื้นเกิดขึ้น ดังนั้นหากใครที่กำลังพบเจอกับปัญหาเหล่านี้หนูควรรีบทำการแก้ไขเลยนะคะ ไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้เราเดือดร้อนขึ้นมาได้
3. การแตกร้าวของผนังบ้าน
หากบ้านของเรามีแตกร้าวเกิดขึ้น สิ่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ใครหลายคนควรระวัง เพราะหากเราปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ อาจจะทำให้น้ำไหลเข้ามาในบ้านของเราได้เช่นกัน ทางที่ดีเราควรรีบทำการแก้ไข และซ่อมแซมให้เร็วที่สุดนะคะ
4. ความชื้นจากพื้นใต้ดิน
ทุกครั้งที่ฝนตก แน่นอนว่าน้ำก็จะซึมลงพื้นดิน และถ้าเมื่อไหร่ที่พื้นบ้านของเราค่อนข้างต่ำ สิ่งนี้ก็อาจจะส่งผลทำให้บ้านของเราเกิดน้ำท่วม หรืออาจจะทำให้ผนังบ้านเกิดความชื้นขึ้นมาได้เช่นกัน สำหรับใครที่ไม่อยากให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นกับตัวเอง เราอาจจะต้องทำการยกระดับบ้านให้สูงขึ้นนั่นเองค่ะ
5. หลังคา หรือฝ้าเพดานชำรุด
สิ่งนี้อาจเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ค่อนข้างเจอได้บ่อย หากบ้านใครมีรอยรั่วเกิดขึ้นบริเวณหลังคา หรือฝ้าเพดาน เราอาจจะต้องรีบแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยทันที ไม่ควรปล่อยปัญหาเหล่านี้ไว้นานเกินไป เพราะไม่อย่างนั้นนอกจากจะทำให้ผนังบ้านเราเกิดความชื้นแล้ว สิ่งนี้ก็อาจจะส่งผลทำให้น้ำไหลเข้าบ้านเราได้ง่าย ๆ เลย ดังนั้นควรระวังกันด้วยนะคะ
วิธีการรับมือกับผนังบ้านชื้น ทำอย่างไรบ้าง?
ทุกครั้งที่มีปัญหาเกิดขึ้น ใครที่กำลังมองหาวิธีการแก้ไข หรือวิธีการรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ ห้ามพลาดเลยนะคะ เพราะวันนี้เราได้นำเคล็ดลับดี ๆ มาฝากทุกคนแล้ว
บทความที่เกี่ยวข้อง : 12 เทคนิคทำความสะอาดบ้าน เคล็ดลับง่าย ๆ ในบ้าน ที่แม่ ๆ ต้องรู้!
1. วิธีแก้ไขปัญหาผนังบ้านพอง หรือหลุดลอก
มาดูกันที่วิธีแรกเลยดีกว่า หากผนังบ้านของเราเกิดการหลุดลอก ให้เราทำการใช้เกรียงมาทำการขูดลอกสีเดิมออกให้เรียบร้อย หลังจากนั้นก็ล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย ขั้นตอนต่อมาให้เราทำการทาน้ำยาเคลือบผนัง เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อรา และน้ำยากันซึมนั่นเองค่ะ ซึ่งขั้นตอนนี้เราอาจจะต้องให้แห้งประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็ทาสีได้ตามความชอบ เพียงเท่านี้ก็บอกลาปัญหาผนังหลุดลอกได้แล้วล่ะค่ะ
2. วิธีแก้ไขปัญหาหลังคา หรือฝ้าเพดานชำรุด
อย่างแรกเลยเราอาจจะต้องทำการสังเกตดูว่า รอยรั่ว หรือรอยชำรุดนั้นอยู่บริเวณไหน ซึ่งการสังเกตนั้นเราอาจจะดูจากรอยคราบน้ำบริเวณหลังคา หรือฝ้าเพดานได้ หากใครที่เจอรอยรั่วแล้ว เราก็อาจจะทำการซ่อมแซมด้วยการหาอะไรมาแปะหรือติดไว้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้น้ำรั่วหรือไหลลงมาอีกรอบนะคะ
3. วิธีแก้ไขปัญหาจากรอยแตกร้าว
เมื่อไหร่ที่บ้านของเรามีรอยแตกร้าวเกิดขึ้น อย่างแรกที่ทำเลยคือเราอาจจะต้องทำการสังเกตว่ารอยแตกร้าวที่เกิดขึ้นมานั้นมีขนาดใหญ่มากน้อยเพียงใด หากรอยร้าวที่เกิดขึ้นไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก เราอาจจะใช้ซิลิโคนมาอัดฉีดบริเวณนั้น ๆ ได้เลย หลังจากที่เราทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้เรานำสีทาบ้านมาทำการทาทับอีกรอบ เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ
4. วิธีแก้ไขปัญหาผนังชื้นจากน้ำที่อยู่ใต้ดิน
นี่อาจเป็นปัญหาที่ใครหลายคนค่อนข้างเป็นกังวลใจอยู่เหมือนกัน ซึ่งวิธีการแก้ไขปัญหาผนังชื้นจากน้ำที่อยู่ใต้ดินคือ ให้เราทำการกรีดผนังด้านล่างให้เป็นร่องประมาณ 1 เซนติเมตร เพราะวิธีนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้น้ำซึมเข้าไปในผนังบ้านของเราได้ หรือสำหรับบางคนก็อาจจะใช้วิธีการลดปริมาณน้ำด้วยการติดตั้งรางระบายน้ำไว้บริเวณใต้ดินได้เหมือนกันนะคะ
5. วิธีแก้ไขปัญหาผนังชื้นจากละอองฝนที่สาดเข้ามา
หากใครที่กำลังพบเจอกับปัญหาแบบนี้ เราอาจจะต้องทำการเลือกหน้าต่าง หรือประตูที่ค่อนข้างทนแดด ทนฝนขึ้นมาหน่อย หรือบางคนก็อาจจะทำการปูกระเบื้องภายนอก เพื่อป้องกันไม่ให้ละอองสาดเข้ามาในบ้านของเราได้เช่นกัน สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีแก้ไขปัญหาเหล่านี้อยู่ อย่าลืมทำตามกันนะคะ
จากที่เราได้นำวิธีการแก้ผนังบ้านชื้น รวมถึงวิธีการรับมือต่าง ๆ มาฝากทุกคนแล้ว หลายคนก็คงรู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้างแล้วใช่ไหมคะ เอาเป็นว่าไม่ว่าใครจะกำลังพบเจอกับปัญหาอะไรอยู่ในตอนนี้ เรามาแก้ไขปัญหาเหล่านี้ไปพร้อมกันเลยนะคะ เพราะเราได้นำเคล็ดลับดี ๆ มาฝากทุกคนแล้วล่ะค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
วิธีซักหมอน ยังไง? ให้สะอาด ไม่มีคราบสกปรก
แนะนำสูตร ซักผ้าขาว เปลี่ยนผ้าหมองให้กลับมาขาวสะอาดเหมือนใหม่!
เคล็ดลับ! ซักผ้าม่าน และดูแลผ้าม่าน ทำอย่างไร? ให้ขาวสะอาด
ที่มา : jorakay, baanlaesuan