นี่คงเป็นปัญหาที่ใครหลายคนค่อนข้างเป็นกังวลใจกับการต้องมาซักผ้าท่ามกลางสายฝนที่โปรยลงมาแบบไม่หยุด สำหรับใครที่กำลังพบเจอกับปัญหาเหล่านี้อยู่ ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะวันนี้แอดได้นำเคล็ดลับดี ๆ กับ วิธีตากผ้าหน้าฝน ยังไง? ไม่ให้เหม็นอับมาฝากทุกคนให้ได้รู้กันขอบอกเลยว่า ถึงแม้ฝนจะตกลงมายังไง หากเรารู้วิธีการตากผ้าที่ถูกต้อง เพียงแค่นี้เราก็บอกลาเรื่องความเหม็นอับไปได้แล้วค่ะ
สาเหตุหลักที่ทำให้ตากผ้าหน้าฝนแล้วเหม็นอับ
-
ความชื้นสูง: หน้าฝนอากาศจะเต็มไปด้วยละอองน้ำ ผ้าที่ตากไว้จะดูดซับความชื้นจากอากาศ ทำให้แห้งยาก เกิดการหมักหมมของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ส่งผลให้เกิดกลิ่นอับ
-
แสงแดดน้อย: แสงแดดมีสรรพคุณฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา หน้าฝนมีแสงแดดน้อย เชื้อแบคทีเรียและเชื้อราจึงเจริญเติบโตได้ดีบนผ้าที่ตากไว้ ทำให้เกิดกลิ่นอับ
-
การตากผ้าไม่ถูกวิธี: การตากผ้าติดกันแน่น ไม่เว้นระยะห่าง ทำให้ผ้าระบายอากาศได้ไม่ดี เกิดความชื้นสะสม ส่งผลให้เกิดกลิ่นอับ
วิธีตากผ้าหน้าฝน พร้อมเทคนิคการซักผ้ายังไงให้ผ้าแห้งเร็ว
บางครั้งการที่เราซักผ้าในช่วงหน้าฝน ด้วยสภาพอากาศที่มีฝนตกลงมา สิ่งนี้ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผ้าของเราแห้งค่อนข้างยาก เพราะฉะนั้นเรามาดูกันก่อนดีกว่าค่ะว่า เราควรมีวิธีการซักผ้ายังไงให้ผ้าแห้งไว ตามมาดูกันเลยค่ะ
1. เลือกตากผ้าในพื้นที่อุณหภูมิสูง
หากเมื่อไหร่ที่เราซักผ้าแล้วเกิดฝนตกขึ้นมา เราอาจจะต้องเลือกพื้นที่ตากผ้าที่ค่อนข้างมีอุณหภูมิสูงหน่อย ๆ เพราะสิ่งนี้จะช่วยทำให้ผ้าของเราแห้งเร็วมากขึ้น ซึ่งบริเวณที่เราเลือกอาจจะต้องเป็นบริเวณพื้นที่กว้าง ๆ และไม่ควรเป็นพื้นที่ที่ดูแออัดจนเกินไป ไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้เสื้อผ้าที่เราซักนั้นเกิดการอับชื้นขึ้นมาได้
2. เลือกผงซักฟอกที่เป็นสูตรลดกลิ่นอับ
ปัจจัยสำคัญต่อมาของการซักผ้าในช่วงหน้าฝนที่เราควรคำนึงถึงนั่นก็คือการเลือกผลิตภัณฑ์น้ำยาซักผ้า หรือผงซักฟอกที่เป็นสูตรลดกลิ่นอับชื้น เพราะถึงแม้ว่าฝนจะตกลงมามากน้อยแค่ไหน หากเราจำเป็นต้องซักผ้าและไม่อยากที่จะให้เสื้อผ้าที่เราใส่มีกลิ่นอับ เราก็ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สูตรเข้มข้น สิ่งนี้ก็ถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดีที่จะทำให้เสื้อผ้าของเรามีกลิ่นหอมได้เช่นกัน
3. ซักผ้าพร้อมกับผ้าขนหนู
บางครั้งการซักผ้าในช่วงหน้าฝน สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้ผ้าที่เราซักไปนั้นแห้งช้ามากขึ้น ซึ่งอีกหนึ่งเคล็ดลับที่น่าสนใจที่จะทำให้ผ้าที่เราซักแห้งเร็วมากขึ้น เราอาจจะต้องซักเสื้อผ้าไปพร้อมกับผ้าขนหนู เพราะตัวผ้าขนหนูค่อนข้างที่จะเข้าไปช่วยดูดซับน้ำได้ดี หากเมื่อไหร่ที่เรานำสองอย่างนี้มาซักเข้าด้วยกัน สิ่งนี้ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะทำให้ผ้าของเราแห้งเร็วตามไปด้วย
4. ใช้เตารีดช่วย
วิธีนี้น่าจะเป็นวิธีที่ใครหลายคนน่าจะชอบทำกันอยู่บ่อย ๆ เพราะฉะนั้นหากเรามีความจำเป็นจะต้องใส่ แต่เสื้อผ้าที่เราจะใส่กลับไม่แห้ง เราก็อาจจะต้องนำเสื้อผ้าเหล่านี้มาทำการรีดก่อนสวมใส่ได้ ซึ่งวิธีนี้อาจจะเหมาะสำหรับเสื้อผ้าที่ไม่หนามากเท่านั้น สำหรับเนื้อผ้าที่มีความหนาขึ้นมาหน่อยก็อาจจะต้องใช้เวลาสักพักนะคะ
5. เปิดเครื่องปรับไล่ความชื้น
นอกเหนือจากความเย็นสบายที่เราได้รับจากเครื่องปรับอากาศแล้ว หารู้ไหมว่าสิ่งนี้ยังช่วยทำให้อากาศที่มีความชื้น มีความแห้งขึ้นมาได้เหมือนกัน หากเมื่อไหร่ที่เราซักผ้าแล้วเกิดฝนตกขึ้นมา อย่าลืมเปิดแอร์หรือเปิดพัดลมไล่อากาศดูนะคะ วิธีนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยทำให้ผ้าของคุณแห้งขึ้นมาได้เหมือนกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : เคล็ดลับ! ซักผ้าม่าน และดูแลผ้าม่าน ทำอย่างไร? ให้ขาวสะอาด
วิธีการตากผ้าที่ถูกต้องที่ใครหลายคนควรรู้
การซักผ้าในแต่ละครั้ง นอกจากขั้นตอนต่าง ๆ ที่เราควรให้ความสำคัญแล้ว เรื่องของการตากผ้าก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สำคัญที่เราควรเอาใจใส่ด้วยเช่นกัน สำหรับใครที่อยากจะรู้ก่อนที่เราจะทำการตากผ้า เราควรต้องคำนึงถึงเรื่องไหนบ้าง มาดูไปพร้อมกันเลยค่ะ
1. เลือกตากผ้าในช่วงเช้า
เมื่อไหร่ก็ตามที่เราจะซักผ้า ถึงแม้วันนั้นอากาศจะดูไม่ค่อยเป็นใจสักเท่าไหร่ เราก็ควรที่จะรีบซักผ้าในช่วงเช้า ๆ เพื่อที่เราจะได้มีเวลาตากผ้าได้นานมากขึ้น ในทางกลับกันหากเราซักผ้าช้า หรือเลือกที่จะซักผ้าในช่วงบ่าย ๆ สิ่งนี้ก็จะยิ่งส่งผลทำให้ผ้าของเราแห้งช้าขึ้นไปอีก ดีไม่ดีอาจส่งผลทำให้เสื้อผ้าอับชื้นขึ้นมาได้เลย
2. ขนาดพื้นที่ในการตากผ้า
ก่อนที่เราจะทำการตากผ้า เรื่องของพื้นที่ก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างสำคัญ ยิ่งในช่วงฤดูฝนแบบนี้หากเราเลือกพื้นที่ไม่ดี หรือพื้นที่ที่เราตากนั้นอากาศไม่ค่อยถ่ายเทเท่าไหร่ นี่ก็อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผ้าเราอับชื้นและแห้งยากเหมือนกัน ดังนั้นเราควรเลือกพื้นที่ที่ค่อนข้างกว้าง และพยายามตากเสื้อผ้าไม่ให้ติดกันมากจนเกินไปนะคะ
3. ทำการบิดและสะบัด
สำหรับการตากผ้าที่ดีอีกอย่างเลยคือเราจะต้องทำการบิดผ้า หรือสะบัดผ้าก่อน เพราะสิ่งนี้จะช่วยทำให้เสื้อผ้าที่เราตากนั้นแห้งเร็วขึ้น อีกทั้งยังทำให้เสื้อผ้าที่เราตากนั้นดูไม่ยับอีกด้วย แต่หากเมื่อไหร่ที่เราไม่ได้ทำการบิดผ้าหรือสะบัดผ้าก่อนตาก แน่นอนว่าเสื้อผ้าเราอาจจะแห้งยาก หรือบางทีก็อาจจะมีปัญหาตามมาทีหลังได้
4. ไม่ควรตากเสื้อผ้าชิดกันจนเกินไป
อีกหนึ่งสิ่งที่เราควรต้องระวังนั่นก็คือไม่ควรตากผ้าชิดกันมากจนเกินไป เพราะสิ่งเหล่านี้อาจทำให้เสื้อผ้าที่เราใส่เกิดความอับชื้นขึ้นมาได้เช่นเดียวกัน ซึ่งการตากแต่ละครั้งเราอาจจะต้องทำการตากแบบเว้นระยะห่าง เพื่อเสื้อผ้าที่เราตากนั้นจะได้สัมผัสกับอากาศ นอกจากนี้ยังช่วยทำให้เสื้อผ้าที่เราซักนั้นแห้งเร็วขึ้นด้วยนะ ยังไงลองทำตามดูได้นะคะ
5. ใช้ไม้แขวนในการตากผ้า
ข้อนี้ก็ค่อนข้างที่จะสำคัญ หากใครที่ค่อนข้างเป็นกังวลเรื่องการตากผ้า กลัวเสื้อผ้าที่เราซักนั้นจะไม่แห้งเราก็อาจจะใช้ไม้แขวนเป็นตัวช่วยในการตากผ้าได้ เพราะการตากผ้าด้วยวิธีนี้จะช่วยทำให้เนื้อผ้าที่เปียกนั้นแห้งได้เร็วขึ้น และที่สำคัญยังช่วยทำให้เนื้อผ้าที่เราซักนั้นดูเรียบไม่ยับอีกด้วย
6. ซักผ้าเสร็จแล้วให้รีบตากโดยทันที
ทุกครั้งของการซักผ้าเสร็จ เราไม่ควรปล่อยผ้าทิ้งไว้ในเครื่องซักผ้า เพราะสิ่งนี้จะส่งผลทำให้เสื้อผ้าเราเกิดความอับชื้นได้ง่าย สำหรับใครที่ไม่อยากให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นกับตัวเอง เราจะต้องรีบทำการตากผ้าหลังจากที่ซักผ้าเสร็จโดยทันที หากใครทำได้ บอกเลยว่าปัญหาเรื่องผ้าอับชื้นจะต้องหมดไปจากแน่นอน
7. เช็กสภาพอากาศให้ดี
สิ่งสำคัญต่อมาเลยคือการเช็กสภาพอากาศก่อนทำการซักผ้าหรือตากผ้า เพราะเมื่อไหร่ที่เราทำการซักผ้าเสร็จแล้วแต่เราไม่ได้ทำการเช็กสภาพอากาศก่อนที่จะนำเสื้อผ้ามาตาก สิ่งนี้ก็อาจจะส่งผลทำให้เสื้อผ้าเราเปียกฝนขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ยิ่งใครที่ต้องออกมาทำงาน หรือมีธุระที่ต้องออกมาข้างนอก เราอาจจะต้องดูสภาพอากาศให้ดีก่อนนะคะ พยายามตากผ้าไว้ในที่ร่ม และมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อที่เสื้อผ้าที่เราซักไปนั้นจะได้ไม่เหม็นอับนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : วิธีซักกางเกงยีนส์ อย่างถูกวิธี ซักยังไง? ให้ไม่เสียทรง
เคล็ดลับการเลือกผลิตภัณฑ์ซักผ้า
หลังจากที่เราได้พาทุกคนมาทำความรู้จักกับเทคนิคและขั้นตอนการซักผ้า และตากผ้าแล้วนั้น เรามาดูกันต่อเลยดีกว่าค่ะว่าเราควรมีวิธีการเลือกผลิตภัณฑ์ซักผ้ายังไงบ้าง เพื่อที่ผ้าที่เราซักไปนั้นจะได้มีความหอมติดทนนาน เข้ามาดูได้เลยค่ะ
1. เลือกให้ถูกประเภท
อันดับแรกเลยคือการเลือกผลิตภัณฑ์น้ำยาซักผ้าให้ถูกประเภท ซึ่งเราจะต้องดูก่อนว่าน้ำยาซักผ้าที่เราซื้อมานั้น สามารถใช้ซักกับอะไรได้บ้าง หากเป็นเสื้อผ้าที่เราซักนั้นมีความหนาขึ้นมาหน่อย เราก็อาจจะต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นและมีความหอมติดทนนานนั่นเอง
2. ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ
สิ่งสำคัญต่อมาที่เราควรดูอีกหนึ่งสิ่ง นั่นคือการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพ ไม่ควรที่จะซื้อน้ำยาซักผ้าที่ราคาถูกจนเกินไป แต่เราควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานและเป็นผลิตภัณฑ์สูตรเข้มข้นที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันกลิ่นอับชื้นตามไปด้วย ยิ่งช่วงฤดูฝนแบบนี้ใครที่ชอบซักผ้าอยู่บ่อย ๆ อย่าลืมซื้อผลิตภัณฑ์สูตรเข้มข้นไปใช้กันนะคะ
3. เลือกใช้ให้เหมาะสม
หากเสื้อผ้าที่เราซักมีรอยเปื้อนเกิดขึ้น เราอาจจะต้องเลือกซื้อผลิตภัณฑ์น้ำยาซักผ้าที่เป็นสูตรเฉพาะสำหรับการขจัดคราบ เพราะเมื่อไหร่ที่เราใช้ผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยน และไม่ได้มีคุณสมบัติในการขจัดคราบ สิ่งนี้ก็อาจจะไม่ค่อยตอบโจทย์สักเท่าไหร่ อีกอย่างอาจจะทำให้ผ้าที่เราซักนั้นเกิดความอับชื้น หรือเหม็นอับขึ้นมาได้ง่าย ๆ
หลังจากที่เราได้นำเคล็ดลับดี ๆ สำหรับวิธีการซักผ้า และตากผ้าในช่วงหน้าฝนแล้ว หวังว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้น่าจะคลายความกังวลให้กับใครหลาย ๆ คนนะคะ เอาเป็นว่าหากใครที่ชอบซักผ้าในช่วงที่ฝนตกอยู่บ่อย ๆ ลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้ดูนะคะ เชื่อว่าจะต้องเห็นผลอย่างแน่นอน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
วิธีถอดพัดลม ทำอย่างไร? เคล็ดลับง่าย ๆ ที่ใครก็ทำได้
วิธีซักหมอน ยังไง? ให้สะอาด ไม่มีคราบสกปรก
12 เทคนิคทำความสะอาดบ้าน เคล็ดลับง่าย ๆ ในบ้าน ที่แม่ ๆ ต้องรู้!
ที่มา : thebkkresidence, komchadluek