5 วิธีจัดการอารมณ์ของลูก เมื่อลูกอารมณ์ร้าย จะจัดการอย่างไรดี
ในความเป็นจริงนั้นการมีอารมณ์ร้าย เช่น อารมณ์โกรธ อารมณ์ฉุนเฉียว เป็นสิ่งที่มนุษย์เราทุกคนมีอยู่ในตัวเองตามธรรมชาติ แต่อยู่ที่ว่าเราจะสามารถควบคุมมันได้มากน้อยแค่ไหน และอยู่ที่ว่าอารมณ์ร้ายของเราก่อให้ 5 วิธีจัดการอารมณ์ของลูก
เกิดความเดือดร้อน แก่ตัวเราเอง หรือ คนอื่น ๆ หรือไม่ เพราะหากใครที่ไม่สามารถ ควบคุมอารมณ์ ส่วนร้ายของตัวเองได้มากพอ
อาจจะก่อให้เกิดความเสียหาย เช่น การไม่เป็นที่รัก ไม่น่าคบหาสมาคมด้วย บางอาจคนถูกต่อต้านจนไม่ สามารถเรียน หรือ ทำงานร่วมกับ ผู้อื่นได้ก็มี ดังนั้น คุณพ่อ คุณแม่ จึงอย่าได้นิ่งนอนใจ หากลูกมีพฤติกรรม หรือ มีอารมณ์ร้ายบ่อย ๆ จนน่ากลัวว่าจะ ติดเป็นนิสัย ต้องเร่งรีบหา ทางแก้ไขโดยด่วน
อย่างไรก็ตาม การจะแก้ไขปัญหา ได้อย่างถูกต้อง คุณพ่อ คุณแม่ ต้องรู้ถึงสาเหตุอารมณ์ร้าย ๆ ของลูกเสีย ก่อนว่าเกิดเพราะ สาเหตุใด เพื่อคอยช่วยเหลือ และ สอนให้ลูกจัดการ กับ อารมณ์ของตัวเองได้
1.สอนลูกให้เตือน ตัวเองอยู่เสมอว่า มันไม่เป็นการดี เลยหากลูกต้องโมโห และ อาละวาด
บอกลูก ว่ามันไม่ดีเลย หาก ลูกโมโหแล้ว มี การทำร้าย หรือ ขว้างปาข้าวของเสียหาย ซึ่งรวมถึง การทำร้าย คนอื่นด้วยคำพูดของเรา
2.ลองหายใจเข้าลึก ๆ 3 ครั้ง หรือ นับ 1 ถึง 10 อย่างช้า ๆ
ช่วยให้เด็ก ๆ จัดการ กับ อารมณ์ความรู้สึก ของตัวเอง ด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ สัก 2 – 3 ครั้ง หรือ นับ 1 – 10 อย่างช้า ๆ จะช่วยให้เด็ก ๆ ได้รับรู้ถึงสัญญาณเตือน จากร่างกายของเขา ไม่ว่าจะเป็น การเกร็งร่างกาย การกัดฟัน
หรือ หัวใจที่เต้นแรง ให้บอกกับลูก ๆ ว่าร่างกายมีการตอบสนองอย่างไรเมื่อมีอารมณ์โกรธหรือผิดหวัง จากนั้นให้ก็แนะนำให้ด้วยการลองหายใจเข้าลึก ๆ อีกครั้งเพื่อตั้งสติ
3.ให้ลูกพูดออกมาว่า “รู้สึกอย่างไร” และ “ฉันต้องการอะไร”
เมื่อถึงเวลาอาละวาด แน่นอน ว่ามันไม่ใช่ทางออกที่ดี และ เป็นบทเรียนที่ยาก สำหรับเด็กที่จะเรียนรู้ (และ แทบจะเป็นไปไม่ได้ได้เลย สำหรับเด็กเล็ก ๆ ) ซึ่งจริง ๆ แล้วพวกเขาต้องการ ความช่วยเหลือ จาก พ่อแม่เพื่อหาทางออก ลองให้ลูก ๆ พูดสิ่งที่ต้องการออกมา สิ่งที่รู้สึกอย่างไร เพื่อเป็นทางออกในการระบายอารมณ์ของเขา
4.ถามหา ความช่วย เหลือเพื่อ แก้ปัญหา
จริง ๆ แล้วเด็ก ๆ ต้องการ ความช่วยเหลือ จากพ่อแม่ เพื่อที่พวกเขาจะ ได้เรียนรู้วิธีที่จะแก้ปัญหา และ ค้นหาทางออกในสถานการณ์ต่างๆ บอกให้ลูก ๆ รู้ว่า ไม่เป็นไรที่จะ ร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อรู้สึกว่าไม่ สามารถแก้ปัญหาเองได้ และ เปิดโอกาส
สำหรับการพูดคุยเอาไว้เสมอ เพื่อที่ว่าในวันหนึ่งหากพวกเขาเจอปัญหาที่ใหญ่กว่า การทะเลาะกันระหว่างพี่น้อง หรือ การขัดใจกันระหว่างเพื่อน พวกเขาจะได้รู้สึกว่า สามารถมาขอความช่วยเหลือ จากพ่อแม่ได้ตลอดเวลา
5.ให้เวลาสำหรับการที่จะใจเย็นลง
ให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ว่า ในบางครั้ง แม้จะทำตามวิธีจัด การอารมณ์ต่าง ๆ มาแล้วก็ตาม แต่พวกเขา อาจจะยังรู้สึกโกรธ หรือผิดหวังอยู่ ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลาสำหรับการที่จะ ใจเย็นลง หรือ หันไปทำอย่างอื่นเพื่อให้ ลืมอารมณ์ นั้นไปซะ
The Asianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งานฟรี เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว
การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนุบสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็งเพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง
เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง
Credit : www.childhood101.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
งานวิจัยเผย..พ่อช่วยเลี้ยงลูก สร้างลูกให้ฉลาดและอารมณ์ดี
4 วิธีรับมือลูกอารมณ์รุนแรง
5 วิธีทำให้ลูกอารมณ์ดีและหัวเราะได้ !