เมื่อพูดถึงเรื่องทำความสะอาด หรือทำงานบ้าน คุณแม่หลายคนก็อาจจะกำลังมองหาวิธีการทำความสะอาดบ้านยังไง เพื่อที่เราจะได้ใช้เวลาในการทำไม่นาน อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ง่ายและทำได้ไม่ยาก อาทิเช่น วิธีทำความสะอาดที่นอน ซึ่งต้องบอกว่าสิ่งนี้น่าจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างคิดหนักอยู่เหมือนกัน เอาเป็นว่าไม่ต้องเป็นกังวลใจไปเลยนะคะ เพราะวันนี้เราได้นำเคล็ดลับดี ๆ ในการทำความสะอาดที่นอนมาฝากทุกคนแล้ว ส่วนจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
เลือกที่นอนแบบไหนให้เหมาะกับตัวเอง
อีกหนึ่งสิ่งที่ใครหลายคนค่อนข้างคิดหนักอยู่เหมือนกัน ไม่รู้ว่าเราควรเลือกที่นอนแบบไหนดี เพื่อที่จะได้ที่นอนที่ตรงตามความต้องการ และทำให้เราหลับสบายโดยที่ไม่รู้สึกปวดเมื่อย เอาเป็นว่าเรามาดูเทคนิคการเลือกที่นอนให้เหมาะสมกับตัวเองกันเลยค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : 15 วิธี ตกแต่งห้องนอน ออกแบบห้องนอนอย่างไร ให้เหมือนโรงแรมหรูระดับห้าดาว
1. เลือกที่นอนให้เข้ากับขนาดห้อง
อย่างแรกที่เราต้องดูเลยคือการเลือกซื้อที่นอนให้เหมาะสมกับขนาดห้อง เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่เราซื้อขนาดมาผิด สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้องค์ประกอบมุมห้องของเราดูเปลี่ยนแปลงไป หรือไม่อย่างนั้นก็อาจจะทำให้ลงของเราดูแคบลงได้เหมือนกัน ดังนั้นพยายามเลือกขนาดให้เหมาะสมกับห้องนอนของเรานะคะ
2. เลือกที่นอนจากน้ำหนัก
การเลือกที่นอนในแต่ละครั้ง เราไม่ควรเลือกนอนที่มีลักษณะนิ่มหรือแข็งมากจนเกินไป ทางที่ดีเราอาจจะต้องเลือกที่นอนให้เหมาะสมกับน้ำหนัก เพื่อที่สิ่งนี้จะได้ช่วยลดอาการปวดหลังให้กับทุกคนได้ เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่เราเลือกที่นอนที่มีความหนาแน่นน้อย แต่เรามีน้ำหนักตัวค่อนข้างมาก ผลที่ตามมาอาจจะทำให้เรารู้สึกปวดหลังขึ้นมาได้เลย
3. เลือกที่นอนจากการใช้งาน
สิ่งนี้ก็เป็นอะไรที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนไม่ควรมองข้าม เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะเลือกซื้อที่นอน เราอาจจะต้องดูก่อนว่าที่นอนแบบไหนตอบโจทย์ต่อการใช้งานของเรามากที่สุด สำหรับใครที่นอนกันหลายคนเราก็อาจจะต้องเลือกที่นอนที่มีความยืดหยุ่นต่ำ อาทิเช่น ที่นอนยางพาราแทนได้
4. เลือกที่นอนให้เหมาะสมกับวัย
เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญสำหรับการเลือกที่นอน โดยเฉพาะบ้านไหนที่มีเด็ก หรือผู้สูงอายุ เราอาจจะต้องเลือกที่นอนที่ค่อนข้างตอบโจทย์ต่อความต้องการมากยิ่งขึ้น เพื่อที่คนในครอบครัวของเราจะได้หลับสบายโดยที่ไม่ได้ส่งผลอันตรายต่อสุขภาพตามไปด้วย
ประเภทของที่นอนที่เราควรรู้
ก่อนที่เราจะทำการซื้อที่นอนมานั้น เราก็อาจจะต้องทำความรู้จักกับที่นอนประเภทต่าง ๆ ก่อน เพราะเราจะได้รู้ว่าควรเลือกที่นอนแบบไหน เพื่อที่เราจะได้ไม่รู้สึกเสียดายทีหลัง ส่วนที่นอนจะมีทั้งหมดกี่ประเภท และแต่ละประเภทแตกต่างกันยังไง มาดูไปพร้อมกันเลย
บทความที่เกี่ยวข้อง : วิธีซักหมอน ยังไง? ให้สะอาด ไม่มีคราบสกปรก
1. ที่นอนสปริง
ที่นอนแบบแรกที่เราจะพาทุกคนมาเลือกนั้น จะเป็นที่นอนแบบสปริง โดยที่นอนลักษณะนี้จะมีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง เมื่อไหร่ที่ที่นอนมีการยุบตัวลง ตัวสปริงก็จะช่วยทำให้ที่นอนกลับมาคืนตัวเหมือนเดิมได้ อีกทั้งยังมีความนุ่มและเด้ง เรียกได้ว่าเป็นที่นอนอีกหนึ่งประเภทที่ดีมาก ๆ เลยล่ะค่ะ
2. ที่นอนเมมโมรี่โฟม
ที่นอนลักษณะนี้จะทำจากเส้นใยสังเคราะห์ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นที่นอนที่มีความยืดหยุ่นได้ค่อนข้างมาก ไม่แพ้ที่นอนประเภทอื่น ๆ อีกทั้งยังเป็นที่นอนที่สามารถปรับพื้นผิวได้ ไม่ว่าเราจะนอนท่าไหนแล้วที่นอนเกิดการยุบตัวตามสรีระของเรา หากเราเปลี่ยนท่านอนใหม่ ที่นอนเมมโมรี่โฟมก็จะเปลี่ยนไปตามที่นอนของเราด้วยเช่นกัน
3. ที่นอนใยมะพร้าว
มาต่อกันที่ที่นอนประเภทนี้กันบ้าง เรียกได้ว่าเป็นที่นอนอีกหนึ่งประเภทที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้กัน ซึ่งที่นอนลักษณะนี้จะทำจากกากใยมะพร้าว อัดกันให้แน่นจนกลายเป็นรูปที่นอนขึ้นมา อีกทั้งยังเป็นที่นอนที่ค่อนข้างมีความหนาแน่นสูง สำหรับใครที่ชอบใช้ที่นอนใยมะพร้าวอาจจะต้องระวังหน่อยนะคะ เพราะที่นอนประเภทนี้ค่อนข้างแข็งและมีความยืดหยุ่นต่ำนั่นเองค่ะ
4. ที่นอนฟองน้ำ
ที่นอนฟองน้ำ น่าจะเป็นที่นอนอีกหนึ่งประเภทที่ใครหลายคนค่อนข้างสนใจ โดยที่นอนในลักษณะนี้จะเป็นที่นอนที่มีความหนาแน่นอนของตัวฟองน้ำ สามารถยุบตัวได้เพียงเล็กน้อย เพราะฉะนั้นเวลาที่เรานอนหรือใช้งานไปสักพัก พื้นที่นอนฟองน้ำก็อาจจะไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงไปตามสรีระของเราสักเท่าไหร่ หากใครที่ไม่อยากได้ที่นอนที่มีลักษณะแข็งจนเกินไป อาจจะเลือกเป็นที่นอนฟองน้ำได้เลยนะคะ
5. ที่นอนยางพารา
มาถึงที่นอนยางพารา ที่นอนในลักษณะนี้เป็นอะไรที่มีความยืดหยุ่นสูงมาก ๆ อีกทั้งยังเป็นที่นอนยางพาราที่มีความเหนียวแน่นและไม่ทำให้ที่นอนเกิดการยุบตัวได้ง่าย นอกจากนี้ที่นอนยางพารายังเป็นที่นอนที่ดี ไม่กักเก็บฝุ่น แถมยังไม่สะสมความชื้นอีกด้วย สำหรับใครที่ยังเลือกไม่ได้ว่าควรซื้อที่นอนแบบไหนดี ลองเลือกเป็นที่นอนยางพาราดูนะคะ
วิธีทำความสะอาดที่นอน มีอะไรบ้าง?
หากใครกำลังมองหาวิธีการทำความสะอาดที่ไหน อยากรู้ว่าคราบหรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบริเวณที่นอนของเราจะหมดไปได้ยังไง เรามาดูวิธีการทำความสะอาดไปพร้อมกันได้เลย
บทความที่เกี่ยวข้อง : เคล็ดลับ! ซักผ้าม่าน และดูแลผ้าม่าน ทำอย่างไร? ให้ขาวสะอาด
1. ดูดฝุ่นทำความสะอาด
ก่อนที่เราจะเริ่มทำความสะอาดที่นอนกันแบบจริงจัง อย่างแรกเลยเราอาจจะต้องทำการดูดฝุ่นบริเวณที่นอนให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งในการทำความสะอาดด้วยวิธีนี้ เราอาจจะใช้เป็นเครื่องดูดฝุ่นในการทำความสะอาดได้
2. สังเกตคราบที่เกิดขึ้นบริเวณที่นอน
ต่อมาเราอาจจะต้องทำการสังเกตดูคราบหรือรอยเปื้อนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบริเวณที่นอน โดยดูว่าคราบที่เกิดขึ้นนั้นสกปรกมากน้อยเพียงใด หากคราบหรือรอยเปื้อนที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจาก อาหาร เครื่องดื่ม หรือเหงื่อ เราอาจจะทำความสะอาดด้วยการนำน้ำเย็นมาผสมกับน้ำยาล้างจาน จากนั้นก็นำมาฉีดทิ้งไว้บริเวณที่เกิดรอยเปื้อน เพียงเท่านี้ก็ทำให้คราบหรือรอยเปื้อนของเราดูจางลงแล้วล่ะค่ะ
3. ทำความสะอาดด้วยเบกกิ้งโซดา
กรณีที่เราทำความสะอาดที่นอนด้วยการใช้เบกกิ้งโซดา ขั้นตอนนี้เราอาจจะต้องใส่ถุงมือตามไปด้วย เพราะเบกกิ้งโซดาถือเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดหนึ่งที่ค่อนข้างรุนแรงอยู่เหมือนกัน ดังนั้นหากที่นอนของเรามีรอยเปื้อนค่อนข้างเยอะ หรือเป็นคราบที่ฝังลึก ทำความสะอาดยาก เราก็อาจจะใช้ฉีดเบกกิ้งโซดาลงไปบริเวณที่เกิดรอยเปื้อน จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง แล้วค่อยนำมาทำความสะอาด บอกเลยว่าคราบสิ่งสกปรกจะต้องหมดไปอย่างแน่นอน
4. ทำการดูดฝุ่นที่นอนอีกครั้ง
ขั้นตอนต่อมาให้เราดูดฝุ่นที่นอนอีกครั้ง ซึ่งการดูดฝุ่นในครั้งนี้เราอาจจะใช้ท่อเครื่องดูดฝุ่น เพื่อที่จะดูดเบกกิ้งโซดาให้หมดไปนั่นเอง หรือถ้าใครที่ไม่ได้ใช้เบกกิ้งโซดาในการทำความสะอาดที่นอน เราก็อาจจะต้องทำการดูดฝุ่นอีกรอบด้วยเช่นกัน เพื่อที่ที่นอนเราจะได้ดูสะอาดมากยิ่งขึ้นนะคะ
5. นำไปตากไว้บริเวณที่อากาศถ่ายเท
เมื่อเราทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการตากที่นอน ซึ่งการตากที่นอนแบบง่าย ๆ เลย เราอาจจะต้องทำการเปิดหน้าต่าง และประตู เพื่อที่อากาศและแสงแดดจะได้ส่องลงมาบริเวณที่นอนของเรา อีกทั้งยังช่วยทำให้ที่นอนของเราแห้งได้ง่ายขึ้นด้วย แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราทำความสะอาดแล้ว แต่ไม่ได้นำที่นอนมาทำการผึ่งแดดหรือตากให้แห้ง ผลที่ตามมาก็อาจจะทำให้ที่นอนมีเชื้อราเกิดขึ้นได้เหมือน เพราะฉะนั้นควรต้องระวังกันนะคะ
6. จัดที่นอนให้เรียบร้อย
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว ให้เราทำการจัดเก็บที่นอนให้เรียบร้อย พร้อมใช้งาน เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นสำหรับการทำความสะอาดที่นอนแล้วล่ะค่ะ บอกเลยว่าทำตามได้ไม่ยากเลย
หากใครที่กำลังพบเจอกับปัญหาที่นอนสกปรก หรือมีรอยเปื้อนเกิดขึ้นบริเวณที่นอน แต่ก็ไม่รู้จะรับมือกับสิ่งเหล่านี้ยังไงดี ห้ามพลาดกับเคล็ดลับการทำความสะอาดที่นอนที่แอดได้นำมาฝากทุกคนในวันนี้นะคะ พูดเลยว่าง่ายมาก ๆ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
วิธีซักกางเกงยีนส์ อย่างถูกวิธี ซักยังไง? ให้ไม่เสียทรง
11 วิธีซักผ้าให้หอม กลิ่นติดทนนาน ตลอดทั้งวัน เคล็ด(ไม่)ลับของคุณแม่ยุคใหม่
วิธีซักหมวก เก็บหมวกยังไง? ไม่ให้เสียทรง